เตือนผู้คนให้รักษาระยะห่างทางสังคมป้องกันโควิดรอบสอง

นพ.นิก โคตส์เวิร์ต ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์สหพันธรัฐ ย้ำ การหลีกเลี่ยงการโอบกอดและจูบแก้มทักทาย เป็นหนทางป้องกันได้ดีที่สุดต่อความเสี่ยงที่เชื้อโควิด-19 จะระบาดระลอกสอง ขณะวิกตอเรียพบการระบาดในชุมชนของเชื้อเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

Patrons are seen having coffee at Flavours Patisserie Cafe in Parkdale, Victoria.

Patrons are seen having coffee at Flavours Patisserie Cafe in Parkdale, Victoria. Source: AAP

มีคำเตือนให้ประชาชนในออสเตรเลีย ยังคงรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไป ขณะรัฐวิกตอเรียกลับมาใช้มาตรการจำกัดอีกครั้งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในชุมชน

นางเจนนี มิคาคอส รัฐมนตรีด้านสุขภาพของวิกตอเรีย กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐจะขยายเวลาต่อไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันพุธ (25 มิ.ย.) มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 33 ราย โดยนับเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในรัฐวิกตอเรียระลอกสอง ส่วนวันนี้ (ศุกร์ 26 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 30 ราย

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัฐวิกตอเรียระบุว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ นับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน มาจากสมาชิกในครอบครัวที่นำเชื้อไปแพร่กระจายยังญาติพี่น้องคนอื่นๆ

“สำคัญยิ่งกว่าการสวมหน้ากากอนามัยเสียอีก”

นายแพทย์ นิก โคตส์เวิร์ต ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์สหพันธรัฐ กล่าวว่า แทนที่จะสวมหน้ากากอนามัย เขาแนะนำให้ประชาชนในออสเตรเลียพยายามรักษาระยะห่างทางสังคม

นพ. โคตส์เวิร์ต กล่าวว่า การสัมผัสทางร่างกาย เช่น การโอบกอดและจูบแก้มเพื่อทักทายต่างๆ จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอย่างที่สุด

“เราต้องยับยั้งตัวเองไว้ เมื่อพบเพื่อนและครอบครัวของคุณ ที่คุณไม่ได้เจอกันมานาน”

“อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ และอาจกล่าวได้ว่า สำคัญเสียยิ่งกว่าการสวมหน้ากากอนามัยเสียอีก”

เขายังย้ำถึงความสำคัญของการล้างมือหรือการทำให้มือปราศจากเชื้อโรค

“มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เช่น การล้างมือ การอยู่ห่างจากผู้อื่น การอยู่บ้านเมื่อป่วย เหล่านั้นเป็นสิ่งที่พวกเราทำได้ในระดับบุคคล เป็นองค์ประกอบของความรับผิดชอบส่วนบุคคล และจากนั้น มีองค์ประกอบด้านข้อจำกัดต่างๆ ที่รัฐบาลแนะนำว่าพวกเราควรทำ”
แต่ละรัฐตัดสินใจเรื่องการเปิดพรมแดนเอง

นพ.โคตส์เวิร์ต กล่าวว่า เขาเคารพการตัดสินใจของผู้นำของรัฐและมณฑลต่างๆ ที่มีอำนาจเต็มที่เกี่ยวกับการเปิดพรมแดนระหว่างรัฐ

“เป็นเรื่องสำคัญที่จะกล่าวว่า แต่ละรัฐควบคุมดูแลหน่วยงานด้านสาธารณสุขของตนและการตัดสินใจต่างๆ ในรัฐ แต่พวกเราทุกคนในออสเตรเลีย ต้องการเห็นรัฐวิกตอเรียสามารถควบคุมการปะทุขึ้นของเชื้อที่นั่นได้”

แม้รัฐนิวเซาท์เวลส์จะไม่ปิดพรมแดนของตน แต่มุขมนตรีของนิวเซาท์เวลส์ได้แนะนำให้โรงแรมที่พักต่างๆ ไม่รับลูกค้าจากรัฐวิกตอเรีย และล่าสุด จะมีการห้ามแฟนกีฬาจากรัฐวิกตอเรีย เข้าชมการแข่งขัน เอ็นอาร์แอล และเอเอฟแอล ที่จัดขึ้นในสนามกีฬาของนิวเซาท์เวลส์ด้วย

ขณะที่ รัฐบาลเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้น ยืนยันจะปิดพรมแดนต่อไป ตราบใดที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในชุมชนต่อเนื่องในรัฐด้านตะวันออกของออสเตรเลีย

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย มีกำหนดจะเปิดพรมแดนในวันที่ 20 กรกฎาคม แต่รัฐบาลของรัฐจะจับตาดูสถานการณ์ในรัฐวิกตอเรียอย่างใกล้ชิด และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะปิดพรมแดนต่อไป

รัฐควีนส์แลนด์นั้น พรมแดนระหว่างรัฐจะปิดต่อไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 10 กรกฎาคม แต่รัฐมนตรีด้านสุขภาพของรัฐกล่าวว่า ควีนส์แลนด์อาจปิดพรมแดนต่อไปหลังจากนั้น หากรัฐวิกตอเรียไม่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้

“สิ่งที่เราไม่อยากทำคือเปิดพรมแดน แล้วมีผู้คนมากมายมาที่นี่ในช่วงปิดภาคเรียน แล้วแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาในรัฐของเรา และจากนั้น ก็บีบให้เราต้องกลับไปออกมาตรการจำกัดอีก” นายสตีเวน ไมลส์ รัฐมนตรีด้านสุขภาพของควีนส์แลนด์ กล่าว


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 


Share
Published 26 June 2020 12:07pm
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends