ผู้เชี่ยวชาญหนุนการสวมหน้ากากอนามัยในซิดนีย์และเมลเบิร์น

นักระบาดวิทยาส่วนหนึ่งกำลังเรียกร้องให้มีกฎบังคับ ให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะในนครซิดนีย์และเมลเบิร์น

A shopper wearing a face mask inside a Sydney supermarket

A shopper wearing a face mask inside a Sydney supermarket Source: AAP

ในนครเมลเบิร์นนั้นมีกฎให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน แต่ในซิดนีย์นั้น มีเพียงการขอร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะเท่านั้น

เมื่อพรมแดนระหว่างรัฐจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ นักระบาดวิทยาต่างกล่าวว่า ควรป้องกันไว้ก่อนด้วยการกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะในนครหลวงทั้งสองแห่งของออสเตรเลีย

ชาวเมลเบิร์นนั้นได้สวมหน้ากากอนามัยมานานหลายเดือนแล้ว หลังจากมีการออกข้อบังคับในเรื่องนี้ เพื่อพยายามลดการระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ขณะนี้  (อังคาร 10 พ.ย.) หลังจากที่ไม่พบการติดเชื้อในชุมชนและไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม เป็นเวลา 11 วันติดต่อกัน กำลังมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายข้อกำหนดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย

ศ.ไมเคิล ทูล นักระบาดวิทยา จากสถาบันเบอร์เนต (Burnet Institute) ในเมลเบิร์น กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกข้อบังคับในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย

เขากล่าวว่า ควรมีการกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยทั้งในซิดนีย์และเมลเบิร์น โดยเฉพาะในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ

“ผมคิดว่า มันคงลำบากที่จะชักจูงใจผู้คน เช่นในโฮบาร์ต เพิร์ท หรือแอดิเลด ให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไม่มีการติดเชื้อภายในชุมชนมานานแล้ว ผมคิดว่าสำหรับเมลเบิร์นและซิดนีย์ การสวมหน้ากากอนามัยควรเป็นแบบภาคบังคับ โดยเฉพาะเมื่อผู้คนเริ่มเดินทางระหว่างรัฐ” ศ.ทูล แสดงความเห็น

เขากล่าวต่อไปว่า นิวเซาท์เวลส์ ควรเริ่มให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยทีละน้อย โดยบังคับให้ต้องสวมในการใช้บริการขนส่งสาธารณะก่อน และในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลได้

“ผมคิดว่าในนิวเซาท์เวลส์ แทนที่จะทำเหมือนระบบของวิกตอเรียที่คุณต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ควรเริ่มต้นด้วยการกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะก่อน และในสถานที่ที่มีผู้คนคับคั่ง ที่คุณไม่สามารถรักษาระยะห่างทางกายภาพระหว่างบุคคลได้ และอาจขยายต่อไปได้อีก ขึ้นอยู่กับกรณีการติดเชื้อที่พบในนิวเซาท์เวลส์ ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลอย่างมากที่ในซิดนีย์และเมลเบิร์นควรจะมีนโยบายที่ใกล้เคียงกัน”

ศ.เบรนเดน แครบบ์ ผู้บริหารของสถาบันเบอร์เนต ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า หน้ากากอนามัยจะยังคงจำเป็นต่อไปเป็นเวลา อย่างน้อย 12 เดือนข้างหน้า และขณะที่แนวทางปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยอาจถูกปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่หน้ากากอนามัยเป็นเหมือน “วัคซีน” ที่มีบทบาทสำคัญและไม่สร้างความเดือดร้อนมากนัก

ศ.แครบบ์ กล่าวว่า ข้อกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยของรัฐวิกตอเรียควรคงอยู่ต่อไป และควรเริ่มให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในนิวเซาท์เวลส์ด้วย
เป็นเพราะการศึกษาวิจัยโครงการหนึ่งที่เผยแพร่ออกมาในเดือนมิถุนายนทางวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต (The Lancet) ที่โน้มน้าวใจผู้กำหนดนโนบายต่างๆ รอบโลกว่า หน้ากากอนามัยช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้

วารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต ได้ทำการตรวจสอบอย่างเป็นระบบสำหรับการศึกษาวิจัย 172 โครงการใน 16 ประเทศ และโดยเฉลี่ยพวกเขาพบว่า การสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ระหว่างคนสองคนลงได้ 90 เปอร์เซ็นต์

ศ. แคเทอรีน เบนเนตต์  นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยดีคิน กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เมลเบิร์นจะสามารถพิจารณาผ่อนคลายข้อกำหนดเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยได้ เนื่องจากการไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ๆ ในชุมชนแล้ว

เธอกล่าวว่า ควรกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไป สำหรับในบริการขนส่งสาธารณะและในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงภายในอาคาร เช่น ในโรงภาพยนตร์

“ในสถานที่ภายในอาคาร เช่น โรงภาพยนตร์และขนส่งสาธารณะ เป็นสถานที่เรายังคงต้องการให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยอยู่”

“เพื่อให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตาม ฉันจึงคิดว่าเรามาถึงจุดที่ผ่อนคลายได้แล้วสำหรับการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่กลางแจ้ง ขณะอยู่ห่างจากคนอื่นๆ ที่คุณสามารถรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลได้ และเมื่ออยู่กับคนในครัวเรือนเดียวกัน ฉันคิดว่า เรามาถึงจุดที่เราสามารถผ่อนคลายข้อกำหนดเหล่านี้ได้ และบังคับเฉพาะในสถานที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น” ศ. เบนเนตต์  กล่าว

เธอยังบอกอีกว่า เพื่อทำให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดในสถานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในบริการขนส่งสาธารณะ จึงมีความเหมาะสมที่จะผ่อนคลายข้อกำหนดสำหรับในสถาพแวดล้อมอื่นๆ ขณะที่ตอนนี้ในรัฐวิกตอเรียไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อแล้ว

“ฉันคิดว่า เราควรสงวนการสวมหน้ากากอนามัยไว้สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเหล่านั้น การช่วยให้ประชาชนเข้าใจว่าเหตุใดหน้ากากอนามัยจึงสำคัญนั้น ง่ายกว่าการบอกให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อผู้คนมองว่ามีความเสี่ยงเป็นศูนย์ เมื่อคุณอยู่ห่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง และมีการแพร่ระบาดในชุมชนในระดับที่ต่ำมากขณะนี้” ศ. เบนเนตต์ นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยดีคิน แสดงความเห็น

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 10 November 2020 12:18pm
By Greg Dyett
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News

Share this with family and friends