UPDATE: เส้นตายสำหรับชาวออสเตรเลียที่ต้องการจะถอนตัวออกจาก มายเฮลธ์เรคอร์ด (My Health Record) ถูกเลื่อนไปเป็นสิ้นเดือน ม.ค. หลังวุฒิสภาลงคะแนนสนับสนุนการขยายระยะเวลา
โดยพรรคแรงงานต้องการให้มีการผ่านการยืดระยะเวลาออกไปอีก 12 เดือน แต่สส. อิสระยอมตกลงต่อการเลื่อนเวลาที่สั้นกว่านั้น ก่อนที่่ชาวออสเตรเลียนับล้านคนจะถูกขึ้นระเบียนเพื่อให้มีระบบสุขภาพดิจิทัลโดยอัตโนมัติ
รัฐมนตรีสุขภาพนายเกร็ก ฮันต์ ได้ยืนยันการขยายระยะเวลาดังกล่าวเมื่อบ่ายวานนี้ (พุธ 14 พ.ย.) ท่ามกลางรายงานว่าเว็บไซต์เพื่อการถอนตัวได้ล่มลงเนื่องจากมีผู้ยื่นสมัครเป็นจำนวนมากในนาทีสุดท้าย
ระยะเวลาถอนตัวแต่เดิมนั้นจะหมดกำหนดในวันนี้ (พฤหัสฯ 15 พ.ย.) โดยวุฒิสมาชิกฝ่ายค้านก็ไม่ได้ต่อต้านการยืดระยะเวลาดังกล่าว และนายเกร็ก ฮันต์ก็ได้ยืนยันผ่านทางทวิตเตอร์ว่าหน่วยงานตัวแทนด้านสุขภาพดิจิทัล (Digital Health Agency) จะไม่ดำเนินการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติจนกระทั่งวันที่ 31 มกราคมปีหน้า
- - - - -
เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วที่ ประชาชนจะถอนตัวจากระบบข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ โดยรัฐบาลออสเตรเลียเปิดให้ประชาชนสามารถ "ถอนตัว" ได้ไปจนถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หลังมีกระแสความกังวลข้อมูลรั่วไหล
รัฐบาลออสเตรเลีย เปิดให้ประชาชนสามารถถอนตัวออกจากระบบข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ หรือ My Health Record หลังมีประชาชนบางส่วนกังวลเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ ตั้งแต่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนที่ถอนตัวออกจากระบบได้ตามความสมัครใจนั้น จนขณะนี้ มีประชาชนกว่า 1.147 ล้านคน หรือร้อยละ 4 (ข้อมูล 13 พ.ย. 2018) ที่เลือกถอนตัว ออกจากระบบ แต่คาดว่าจำนวนประชาชนทั้งหมดที่เลือกถอนตัวจากระบบจะมีราวร้อยละ 10
ประชาชนสามารถถอนตัวออกจากระบบได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ โดยหลังจากวันดังกล่าว รัฐบาลจะสร้างประวัติทางสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนให้โดยอัตโนมัติ
ด้าน นายเกร็ก ฮันท์ (Greg Hunt) รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย ออกมายืนยันว่า รบบสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาลออสเตรเลียนั้นมีความปลอดภัย
“ระบบบันทึกข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ของออสเตรเลียมีระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าการทหาร และผู้คนควรจะใช้มัน” นายเกร็กระบุ
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลมีระบบการรักษาข้อมูลที่ปลอดภัยชั้นนำระดับโลก ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
“ไม่ใช่เพียงระบบความปลอดภัยที่เทียบเท่ากับธนาคารเท่านั้น ด้วยคำแนะนำจากหน่วยงานสุขภาพดิจิตอล (Digital Health Agency) ระบบนี้ได้ผ่านการทดสอบการโจมตีระบบมาแล้ว” นายเกร็กกล่าวเสริม
ปัจจุบัน มีผู้ลงทะเบียนใช้งานระบบประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ในออสเตรเลียกว่า 6 ล้านคน
ขณะที่กลุ่ม Digital Rights Watch ได้แสดงความกังวลกับความปลอดภัยของระบบ My Health Record และขอให้ทุกๆ คนถอนตัวออกจากระบบ
“ไม่มีอะไรที่มารับประกันว่า ข้อมูลส่วนตัวของประชากรแต่ละคนนั้นจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ข้อมูลด้านสุขภาพนั้นเป็นเครื่องดึงดูดเหล่ามิจฉาชีพและอาชญากร และเรากังวลถึงการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ในปัจจุบัน และอนาคตโดยบริษัทเอกชน” นายทิม ซิงเกิลตัน นอร์ตัน (Tim Singleton Norton) ประธานกลุ่ม Digital Rights Watch ระบุ
ด้านหน่วยงานสุขภาพดิจิตอลระบุว่า คนไข้สามารถปิดระบบบันทึกข้อมูลสุขภาพได้ทั้งหมด และทำให้สามารถใช้งานได้ด้วยระบบ PIN Code เท่านั้น หรือใช้ควบคู่กับเอกสารเฉพาะ
ส่วนพันธมิตรสุขภาพในพื้นที่ชนบทแห่งชาติ (National Rural Health Alliance) ระบุว่า ระบบสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยชีวิตผู้ที่อาศัยในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย และขอให้ประชาชนอย่าถอนตัวออกจากระบบ
นายแพทย์โทนี บาร์โทเน (Dr Tony Bartone) ประธานสมาคมแพทย์ออสเตรเลียระบุว่า ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทางการแพทย์ เป็นเรื่อง “สำคัญยิ่ง” และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงรัฐบาลสหพันธรัฐได้ให้ความสนใจอย่างจริงจัง
“นี่จะเป็นการช่วยชีวิตพวกเขา ถ้าใครสักคนหมดสติในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่อยู่อีกฟากของประเทศ แล้วมี My Health Record มันสามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน มันจะให้รายละเอียดทางการแพทย์ รวมถึงยาที่คุณกินอยู่ หรือไม่ก็ประวัติการแพ้ต่างๆ ก่อนหน้านี้” นายแพทย์โทนีระบุ
ฉันจะสามารถถอนตัวออกจากระบบได้อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีแบบฟอร์มกระดาษสำหรับการถอนตัวออกจากระบบสุขภาพที่ Australia Post องค์กรสุขภาพชุมชนอะบอริจิน (Aboriginal Community Controlled Health Organisations) และภายในเรือนจำทุกแห่งในออสเตรเลีย
พ่อแม่ที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในรายชื่อบนบัตร Medicard สามารถถอนตัวออกจากระบบให้บุตรหลานของท่านได้
สำหรับเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไป สามารถถอนตัวออกจากระบบสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตัวเองทางบริการออนไลน์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เปิดโปงธุรกิจโกงทางโทรศัพท์ในออสเตรเลีย
