Deliveroo เสิร์ฟอาหารมื้อสุดท้าย อนาคตอุตสาหกรรมส่งอาหารให้ตามบ้านจะเป็นอย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญต่างเรียกร้องขอให้มีการปกป้องขั้นพื้นฐานสำหรับสิทธิของผู้ทำงานในอุตสาหกรรมกิ๊ก อีโคโนมี (Gig economy)

A bag with branding that reads "Deliveroo" placed next to a bike.

Deliveroo drivers say they're concerned about their job security after the company announced they would be shutting down their Australia operations. Source: AAP / Niall Carson/PA/Alamy

ประเด็นสำคัญในข่าว
  • เดลิเวรู (Deliveroo) ได้เลิกกิจการในออสเตรเลีย
  • บริการประเภทนี้อื่นๆ กำลังเสนองานให้คนขับรถส่งอาหารตามบ้านที่ได้รับผลกระทบทำ
  • ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อุตสาหกรรมกิ๊ก อีโคโนมี (Gig economy) กำลังเอารัดเอาเปรียบคนงาน
การปิดกิจการอย่างกระทันหันของบริษัทส่งอาหารให้ตามบ้าน เดลิเวอรู (Deliveroo) ในออสเตรเลียก่อให้เกิดความวิตกในหมู่เจ้าของร้านอาหารและพนักงานขับรถส่งอาหารให้ตามบ้านที่ทำงานในเศรษฐกิจกิ๊ก อีโคโนมี (Gig economy) เกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมการจัดส่งอาหารให้แก่ผู้บริโภคแบบไร้สัมผัส (contactless)

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เดลิเวอรูเลิกดำเนินธุรกิจในออสเตรเลียคือ ร่างกฎหมายที่เสนอโดยคณะกรรมการแฟร์ เวิร์ก (คณะกรรมการเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรม) ซึ่งจะกำกับดูแลเศรษฐกิจกิ๊ก อีโคโนมี (Gig economy ระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากงานแบบครั้งคราว หรืองานที่รับจ้างแล้วจบไป) โดยคาดว่ากฎหมายนี้จะเริ่มนำมาบังคับใช้ตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2023

รศ.เดวิด บิสเซลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิศาสตร์เมืองและวัฒนธรรม ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า ขณะที่ ‘ดีเยี่ยม’ ที่จะมีการเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีผลในระดับรัฐและสหพันธรัฐ แต่หลายบริษัทกำลังพึ่งพาสภาพการทำงานที่ ‘ย่ำแย่’ ของลูกจ้าง

“การทำกำไรของบริษัทเหล่านี้จำนวนมาก แน่นอนว่า ขึ้นอยู่กับค่าจ้างที่ต่ำและสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ของคนงานเหล่านั้น” ศ.บิสเซลล์ กล่าว

“เพื่อปรับปรุงสภาพการทำงานและค่าจ้างของคนงานเหล่านี้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทเหล่านี้”

รศ.บิสเซลล์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทนี้รายอื่นๆ อาจเลิกกิจการไปเช่นกัน เนื่องจากความกดดันด้านค่าครองชีพทำให้ผู้คนในออสเตรเลียน้อยลงสั่งอาหารออนไลน์

หากเป็นเช่นนั้น อย่างที่เกิดขึ้นกับเดลิเวอรู คนทำงานในเศรษฐกิจกิ๊ก อีโคโนมี ก็จะไม่มีสิ่งใดปกป้องพวกเขา บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าว

บริษัทส่งอาหารให้ตามบ้านอื่นๆ มีความเห็นอย่างไร?

แต่บริษัทส่งอาหารให้ตามบ้านอื่นๆ ที่ดำเนินกิจการในออสเตรเลียต่างรีบเสนองานให้พนักงานขับรถส่งอาหารที่ตกงานจากการเลิกกิจการของเดลิเวอรู และต่างกล่าวว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงสภาพการทำงานของพนักงานขับรถส่งอาหาร

โฆษกของเมนูล็อก (Menulog) บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่าบริษัท “สนับสนุนเจตนารมณ์ของรัฐบาลสหพันธรัฐที่จะให้มีมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับพนักงานขับรถส่งอาหารหรือส่งสินค้าและยินดีที่จะมีสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกันทั่วทั้งอุตสาหกรรม”

คุณรีเบกคา เบอร์โรวส์ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ดอร์แดช ออสเตรเลีย (DoorDash Australia) กล่าวว่า พนักงานขับรถส่งอาหารที่ได้รับผลกระทบ ควรไปลงทะเบียนกับดอร์แดช และกล่าวว่าบริษัทสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว

“นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทีมงาน หุ้นส่วนและพนักงานขับรถส่งอาหารของเดลิเวอรู อย่างไรก็ตาม เราทราบดีว่ามีโอกาสมากมายในออสเตรเลียเช่นกัน” คุณ เบอร์โรวส์ กล่าว

“เรายังคงมีความหวังเต็มเปี่ยมว่ามีหนทางสู่การปฏิรูปที่ให้สวัสดิการและการคุ้มครองเพิ่มเติมแก่คนงานในภาคส่วนนี้ และยังสนับสนุนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมที่สำคัญนี้ในออสเตรเลีย”

ถึงแม้จะมีทางเลือกอื่นจากบริษัทอื่นๆ แต่คุณนาบิน แอดฮิคาริ คนทำงานในกิ๊ก อีโคโนมี กล่าวว่า พนักงานขับรถส่งอาหาร "กังวลไปทุกที่เกี่ยวกับความมั่นคงในการทำงาน"

"พริบตาเดียว ทุกอย่างก็หายไป" คุณแอดฮิคาริ กล่าว

“ฟูดอรา (Foodora) หนีออกจากประเทศเมื่อ 4 ปีก่อน และตอนนี้เดลิเวรูก็หนีออกจากประเทศไปอย่างขี้ขลาดเช่นกัน” คุณแอดฮิคาริ กล่าว

เขากล่าวต่อไปว่า ขณะที่เป็นเรื่องดีที่บริษัทอย่างอูเบอร์ (Uber) และดอร์แดช เปิดรับการจะให้มีเกณฑ์ระเบียบควบคุมดูแล แต่จำเป็นกฎหมายที่ใช้ทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อปกป้องพนักงานขับรถส่งอาหาร

“เรายังคงไม่เคยมีกฎหมายกำกับดูแลที่ชัดเจนและให้ความมั่นใจในเรื่องความมั่นคง”
ในเดือนมิถุนายน อูเบอร์ และสหภาพแรงงานลูกจ้างด้านการขนส่ง (ทีดับเบิลยูยู TWU) ได้ข้อตกลงร่วมกัน สำหรับรายได้ขั้นต่ำ สภาพการทำงาน และสวัสดิการสำหรับพนักงานขับรถ โดยเป็นมาตรการที่โปร่งใสและสามารถบังคับให้บริษัทต้องปฏิบัติตามได้

ในเดือนกันยายน คุณเอ็ด แมคมานัส ซีอีโอ ของเดลิเวรู ออสเตรเลีย บอกกับ เอเอฟอาร์ ว่า ผู้บริหารของบริษัทได้รับแจ้งว่า คาดว่าจะมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ซึ่งจะขยายอำนาจของคณะกรรมการแฟร์ เวิร์ก ให้สามารถกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและสภาพการทำงานของพนักงานเดลิเวรู

การเลิกกิจการของเดลิเวอรูในออสเตรเลียยังคงส่งผลกระทบต่อเจ้าของร้านอาหารต่างๆ อย่างคุณนิก ทักเวลล์ ซึ่งกล่าวว่า ยอดขายร้อยละ 30 ของธุรกิจเขา “หายวับไปเลยเมื่อวานนี้”

“แน่นอนว่าเราจะต้องตั้งตัวกันใหม่ และสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกสำหรับวันนี้คือ นำอาหารกลับไปส่งให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” คุณทักเวลล์ กล่าว

“ผมคิดว่าพวกเขามีภาระผูกพันที่จะต้องแจ้งให้เรารู้เสียอีกว่าพวกเขามีสถานการณ์อย่างไร แต่โชคร้ายที่พวกเขาไม่ได้แจ้งเราและตอนนี้เราก็ต้องแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น”

“กิ๊ก อีโคโนมี ใช้การไม่ได้ดีสำหรับคนทำงาน”

นายอดัม แบนต์ ผู้นำพรรคกรีนส์ กล่าวว่า ออสเตรเลียจำเป็นต้องออก “กฎพื้นฐานที่แข็งแกร่ง” สำหรับคนงาน เพื่อที่ว่า “ธุรกิจใหญ่ๆ จะไม่สามารถใช้ศัพท์เฉพาะทางกฎหมายมาปล้นสิทธิพื้นฐานของพวกเขาได้”

“กิ๊ก อีโคโนมี ใช้การไม่ได้ดีสำหรับคนทำงานบางคน”

"สิ่งที่เราค้นพบคือความสะดวกสบายของบริการเหล่านี้มักสร้างขึ้นจากพนักงานต้องทำงานที่เสี่ยงภัย เช่น ขับขี่รถไปรอบๆ เมืองในสภาพที่อันตราย โดยได้ค่าจ้างที่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ”
"บริษัทขนาดใหญ่ได้รับอนุญาตให้เฟื่องฟูด้วยรูปแบบธุรกิจที่อิงกับการเอารัดเอาเปรียบ"

นายแบนต์กล่าวว่า "คนงานทุกคน" ควรได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เช่น การลาป่วย การลาพักร้อนประจำปี และค่าจ้างที่เป็นธรรม

คุณบิสเซลล์ยังได้เรียกร้องให้มีสิทธิที่มากขึ้นสำหรับผู้ที่ทำงานในกิ๊ก อีโคโนมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังจากมีโควิดระบาดเกิดขึ้นและการทำงานโดยไม่มีสิทธิลาป่วย

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด และความกดดันที่ต้องทำงานต่อไปทั้งที่คุณป่วย เพียงเพื่อให้มีเงินพอกินพอใช้” คุณบิสเซลล์ กล่าว

“การเสี่ยงภัยขณะที่คนอื่นไม่จำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสภาพการทำงานของผู้คนเหล่านี้จำนวนมาก ที่พวกเขาต้องขับรถท่ามกลางสภาพอากาศที่อันตรายทุกรูปแบบ”

"มันเป็นงานที่อันตราย และบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ได้ปกป้องพวกเขาอย่างเพียงพอ"

เดลิเวอรู ออสเตรเลีย ได้แต่งตั้ง KordaMentha เป็นผู้เข้ามาบริหารจัดการหนี้สินของสาขาในออสเตรเลีย

เดลิเวอรู มีบริษัทแม่อยู่ในประเทศอังกฤษ และจะยังคงดำเนินการต่อไปในประเทศอื่น 11 ประเทศ

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 18 November 2022 12:44pm
By Tom Canetti
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends