กองทัพออสฯ ส่งกำลังทหารช่วยเหยื่อไฟป่ารัฐวิกตอเรีย

NEWS: กองทัพออสฯ ส่งกำลังทหารช่วยประชาชนในเหตุไฟป่ารัฐวิกตอเรียแล้ว วันนี้พบผู้เสียชีวิต 1 สูญหาย 4 จนท.เร่งส่งเสบียงน้ำ-อาหารเพิ่ม

A firefighting helicopter tackles a bushfire near Bairnsdale in Victoria's East Gippsland region.

A firefighting helicopter tackles a bushfire near Bairnsdale in Victoria's East Gippsland region. Source: AAP

วันนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพออสเตรเลีย จะเริ่มนำกำลังเข้าสนับสนุนในภูมิภาคอีสต์ กิปส์แลนด์ รัฐวิกตอเรีย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียได้ขอกำลังสนับสนุนไปเมื่อวาน (31 ธ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ทหารจะนำเครื่องบินแบล็กฮอว์ก พร้อมอากาศยานอื่น ๆ และเรือเดินสมุทร เข้าไปยังพื้นที่ เพื่อช่วยลำเลียงประชาชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุไฟป่า และให้การสนับสนุนด้านการอพยพหากจำเป็น

มีรายงานว่า เรือเดินสมุทร HMAS Choules และเรือฝึกซ้อม MV Sycamore ได้ออกจากท่าเรือในนครซิดนีย์ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่อีสต์ กิปส์แลนด์ มาตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ (31 ธ.ค.)

เสียชีวิต 1 สูญหาย 4

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่พบ นายมิก โรเบิร์ตส์ (Mick Roberts) ชายอายุ 67 ปี เสียชีวิตภายในบ้านพักที่เมืองบูชัน (Bushan) รัฐวิกตอเรีย โดย นางลีอา พาร์สันส์ (Leah Parsons) หลานสาวเป็นผู้พบร่างผู้เสียชีวิต เธอกล่าวว่า พบนายโรเบิร์ตส์ครั้งสุดท้ายขณะกำลังทาสีบ้านกับเพื่อนอีกสองคน ก่อนที่ไฟป่าจะเข้ามาถึงพื้นที่

ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ตส์ไม่ได้ติดต่อกับครบครัวมาตั้งแต่เมื่อวาน (31 ธ.ค.) จนกระทั่งหลานสาวพบร่างเขาเสียชีวิตในบ้านเมื่อช่วงเช้า

นางพาร์สันส์กล่าวกับหนังสือพิมพ์เฮรัลด์ ซัน (Herald Sun) ว่า เพื่อนของผู้เสียชีวิตได้พยายามพาเขาหนีไฟป่าลงไปในแม่น้ำด้วยกัน แต่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธ

นายแดเนียล แอนดริวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ยังมีผู้สูญหาย 4 คน ในพื้นที่อีสต์ กิปส์แลนด์ (East Gippsland) แต่เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่อีสต์ กิปส์แลนด์ และเมืองโครยอง (Corryong) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรียในวันนี้ สถานการณ์ลดระดับลงมา จากระดับเตือนภัยฉุกเฉิน (Emergency) เป็นระดับจับตาเฝ้าระวังและตอบโต้ (Watch and Act)  

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ไฟป่าจะกลับมาลุกไหม้อีกครั้งยังมีอยู่ โดยเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงอีกครั้งในวันเสาร์นี้ (4 ม.ค.) โดยเหตุฟ้าผ่าในสภาพอากาศแห้งจะยังคงทำให้เกิดไฟป่าต่อไป

ส่งเสบียงน้ำดื่ม-อาหารเพิ่ม

เมื่อวานนี้ (31 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้นำเรือส่งเสบียงน้ำดื่มเข้าไปยังพื้นที่ ขณะที่ในวันนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรียได้นำส่งเสบียงน้ำสมทบอีก 1.6 ตัน

นอกจากนี้ มีการนำส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพียงพอเป็นเวลา 2 สัปดาห์จากนครเมลเบิร์น เข้าไปยังพื้นที่ด้วยเรือท้องแบน

ทั้งนี้ มีการประกาศเตือนมาให้ประชาชนในพื้นที่เมืองมัลลาคูตาให้ต้มน้ำก่อนนำไปบริโภคตั้งแต่เมื่อวาน (31 ธ.ค.) เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะส่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 90 คน ที่ยังติดค้างอยู่ในเมืองมัลลาคูตา (Mallacoota) พื้นที่ชายฝั่งบริเวณชายแดนรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อสับเปลี่ยนเวรกับเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในวิกฤตไฟป่าที่มีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทางอากาศ

หลายพื้นที่ไฟฟ้าดับ-โทรศัพท์ใช้ไม่ได้

มีบ้านเรือนถูกตัดกระแสไฟฟ้ามากกว่า 7,000 หลัง ในพื้นที่อีสต์ กิปส์แลนด์ และอีก 1,800 หลัง ในพื้ที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรีย 

ออสเน็ต (AusNet) ผู้ให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่กล่าวว่า จะต้องใช้เวลาหลายวันในการกู้กระแสไฟฟ้กลับมา เนื่องจากไฟป่ายังคงลุกไหม้ และยังอันตรายเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะประเมินความเสียหายในระบบได้

นอกจากนี้ ระบบโทรศัพท์ในพื้นที่ยังได้รับผลกระทบจากไฟป่า ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เป็นวงกว้าง ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถติดต่อคนใกล้ชิดและตรวจสอบอันตรายจากไฟป่าล่าสุดได้

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 1 January 2020 5:19pm
Updated 2 January 2020 11:13am
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS News


Share this with family and friends