ลานีญา-โลกร้อน ซ้ำเติมวิกฤตน้ำท่วม NSW-QLD อย่างไร

นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศเตือนว่า ยิ่งอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเท่าไหร่ สถานการณ์น้ำท่วมในอนาคตจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

Flood-affected properties in Lismore, NSW, on February 28, 2022 Source: AAP

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งประวัติการณ์ในพื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย คือสัญญาณของหลายสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่สภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงกำลังผลักดันความรุนแรงของเหตุการณ์สภาพอากาศต่าง ๆ ให้มากขึ้น

ประชาชนนับหมื่นคนต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 รายในเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่หลายส่วนในรัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์

ปัจจุบัน ออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงปลายสุดของรูปแบบสภาพอากาศจากปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ซึ่งโดยปกติจะทำให้เกิดสภาพอากาศที่เปียกชื้นมากกว่าปกติในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ

กำลังพลจากกองทัพออสเตรเลีย (ADF) กำลังช่วยเหลือการทำความสะอาดหลังเหตุน้ำท่วมในเมืองลิสมอร์ (Lismore) รัฐนิวเซาท์เวลส์ Source: AAP

ศาสตราจารย์วิล สเตฟเฟน (Prof Will Steffen) จากสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) กล่าวว่า การรวมตัวกันของปรากฏการณ์ลานีญาและภาวะโลกร้อน คือสาเหตุที่สำคัญของการเกิดสภาพอากาศที่รุนแรงนี้

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ได้เพิ่มโอกาสที่คุณจะพบเห็นปรากฏการณ์เหล่านี้มากขึ้น” ศาสตราจารยสเตฟเฟน กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์

“เรายังคงมีรูปแบบสภาพอากาศที่คุ้นเคยกันอยู่ แต่มันมีความรุนแรงขึ้น และนั่นคือสิ่งที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำ มันกำลังผลักดันให้สภาวะอากาศและระบบภูมิอากาศมีความรุนแรงขึ้น”

ศาสตราจารย์สเตฟเฟน กล่าวอีกว่า สภาพภูมิอากาศโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้ความชื้นอยู่ในชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก และเหตุการณ์สภาพอากาศจากปรากฏการณ์ลานีญาก็จะมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

“ตอนนี้เรากำลังอยู่ในปรากฏการณ์ลานีญา และนั่นเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศที่ร้อนกว่า 1 องศาเซลเซียสเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม” ศาสตราจารยสเตฟเฟน กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์

“นั่นหมายความว่า ปรากฏการณ์ลานีญาครั้งนี้จะมีละอองน้ำในชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดฝนตกลงมาอย่างรุนแรง โครงสร้างพื้นฐานของเราไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนั้น”

สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียได้กล่าวไว้เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ปรากฏการณ์ลานีญาในรอบปัจจุบันนั้นได้ผ่าน “จุดสูงสุด” มาแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะเบาบางลงไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

นีล พลัมเมอร์ (Neil Plummer) นักภูมิอากาศวิทยา และอดีตหัวหน้าฝ่ายบริการสภาพภูมิอากาศจากสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย กล่าวว่าความเสี่ยงของเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงในอนาคตกำลังเพิ่มขึ้น

“ความกังวลอย่างมากในตอนนี้ก็คือจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศเหล่านั้นชี้ว่าอุณหภูมิโลกจะร้อนเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส” นายพลัมเมอร์ ซึ่งปัจจุบันได้ทำงานเป็นที่ปรึกษา ในศูนย์กลางสื่อสารการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกโมแนช (Monash Climate Change Communication Hub) กล่าว

ขณะที่ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ลานีญา ปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ได้ดูดเอาความชื้นออกไปจากส่วนอื่น ๆ ของโลกด้วย ทั้งสถานการณ์ภัยแล้งอย่างรุนแรงในบราซิล และการขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตรที่รุนแรงในเอธิโอเปีย เหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกขับดันโดยปรากฏการณ์ลานีญา

ดร.นินา ริดเดอร์ (Dr Nina Ridder) จากศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า มันไม่มีความชัดเจนว่าปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดบ่อยขึ้นหรือไม่ แต่มันจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงกว่าเดิม

“ปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นราว ๆ ทุก 3-7 ปี ซึ่งโดยทั่วไปก็จะทำให้พื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลียมีสภาพอากาศเปียกชื้นกว่าที่เคยเป็น และจะมีเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้น” ดร.ริดเดอร์ กล่าว

“สิ่งที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำก็คือทำให้ชั้นบรรยากาศร้อนขึ้น ซึ่งหมายความว่าเราจะพบเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงต่าง ๆ แบบที่เราเพิ่งจะเห็นไปไม่นานเพิ่มขึ้นอย่างมาก”

9 มี.ค. นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระหว่างการแถลงข่าวหลังเข้าเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองลิสมอร์ Source: AAP / DAVE HUNT/AAPIMAGE

เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้เข้าเยี่ยมพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วมในเมืองลิสมอร์ (Lismore) รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุภัยพิบัติครั้งนี้หรือไม่

“เรากำลังรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างจากที่เรากำลังรับมือก่อนหน้านี้” นายมอร์ริสัน กล่าว

“ผมคิดว่ามันเป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่า ออสเตรเลียกำลังจะอยู่ยากเนื่องจากภัยพิบัติเหล่านี้”

ในวันนี้ (10 มี.ค.) สภาภูมิอากาศของออสเตรเลีย (Climate Council) ได้เผยแพร่รายงานฉบับใหม่ ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุน้ำท่วมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

“การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั้นถูกเชื่อมแน่นกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านอุทกภัยปี 2022 ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ โดยบางภูมิภาคกำลังพบกับปริมาณฝนมากกว่าที่เคยบันทึกมา” รายงานฉบับดังกล่าวระบุ

---

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด

หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai