ประเด็นสำคัญ
- จากรายงาน State of Place ประจำปี 2023 ได้สำรวจความคิดเห็นของชาวออสเตรเลียมากกว่า 25,000 คนเพื่อประเมินความเป็นอยู่ทั่วประเทศ
- ผลการศึกษานี้พบว่าความน่าอยู่ของชุมชนในออสเตรเลียโดยรวมลดลง โดยคนหนุ่มสาวมีความพึงพอใจในชุมชนของตนน้อยกว่าผู้สูงอายุ
- และได้รับรายงานว่า ผู้อยู่อาศัยที่ไม่ระบุอัตลักษณ์ทางเพศและผู้หญิงในรัฐแทสมาเนียและนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีเคยเผชิญกับประสบการณ์เลวร้ายในชุมชนของตน
ผลการสำรวจสำมะโนประชากรทั่วประเทศออสเตรเลียพบว่าออสเตรเลียกำลังน่าอยู่น้อยลง ปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญในการสำรวจในครั้งนี้คือเพศและอายุ ว่าพวกเขาเคยเจอประสบการณ์เชิงบวกหรือเชิงลบในชุมชนที่ตนอาศัย
จากรายงาน State of Place ปี 2023 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ย) โดยองค์กรวิจัยข้อมูล Place Score ได้สำรวจชาวออสเตรเลียมากกว่า 25,000 คน เพื่อตรวจสอบแนวโน้มว่าการใช้ชีวิตในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศเป็นอย่างไร
ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลการวิจัยทางสังคมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความพึงพอใจและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนจากหลากหลายสถานที่และกลุ่มประชากร
การวิจัยครั้งนี้ มีการค้นพบสำคัญสองประการ: ประการแรกคือ ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศเห็นว่าความน่าอยู่ในออสเตรเลียโดยรวมลดลง และประการที่สองคือ ความน่าอยู่อาศัยของแต่ละชุมชนนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะกลุ่มประชากรในชุมชนนั้นๆ
ผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าวไว้ว่า: "ไม่ใช่ชุมชนจะเหมือนกันไปหมด และไม่ใช่ทุกชุมชนจะมีโอกาสเท่าเทียมกันในเรื่องต่างๆ”
อ่านเพิ่มเติม
![Image for read more article 'อ่านเพิ่มเติม'](https://assets.product.qa.sbs.com.au/dims4/default/1cbaebc/2147483647/strip/true/crop/877x493+43+31/resize/1280x720!/quality/90/?url=https%3A%2F%2Fsbs-au-brightspot.s3.amazonaws.com%2Fdrupal%2Fyourlanguage%2Fpublic%2Fsydney-opera-house-354376_960_720.jpg&imwidth=1280)
ปรับฝังเมืองซิดนีย์ เพิ่มความปลอดภัยผู้หญิงและเด็ก
ปัจจัยของเพศและอายุถูกระบุว่ามีส่วนทำให้ชุมชนนั้นๆ มีความน่าอยู่มากที่สุด โดยคนหนุ่มสาวชาวออสเตรเลียเป็นกลุ่มประชากรที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะจัดอันดับชุมชนของตนโดยรวมให้น่าอยู่น้อยลง ผู้อยู่อาศัยที่ไม่ระบุอัตลักษณ์ทางเพศและผู้หญิงในรัฐแทสมาเนียและนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีเคยเผชิญกับประสบการณ์เลวร้ายในชุมชนของตน
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีอายุ 64 ปีขึ้นไปในเกือบทุกรัฐ ส่วนใหญ่จะพอใจกับชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ
นักวิจัยและนักเขียนรายงาน State of Place ลุค ฮอดจ์สัน แนะนำว่าความรับรู้ด้านความปลอดภัยแตกต่างกันไปในในกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน คุณ ฮอดจ์สัน ชี้ว่า
“การสำรวจสำมะโนประชากรความเป็นอยู่ของออสเตรเลียปี 2023 เปิดเผยว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใดก็ตาม คนหนุ่มสาวทุกคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกปลอดภัยส่วนบุคคลของตนเป็นอย่างสูง”
การสำรวจนี้เผยว่าผู้หญิงและผู้ที่ไม่ระบุอัตลักษณ์ทางเพศให้คะแนนความรู้สึกปลอดภัยส่วนบุคคลในชุมชนที่พวกเขาอาศัยต่ำการสำรวจสำมะโนประชากรความเป็นอยู่ของออสเตรเลียปี 2023
รายงานตั้งข้อสังเกตอีกว่าผู้ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกว่าชุมชนนั้นๆ น่าอยู่หรือไม่คือ ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และได้รับการต้อนรับในฐานะสมาชิกของชุมชนนั้นๆ
ส่วนปัจจัยสำคัญอื่นๆ ได้แก่ การเดินทาง องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และการเข้าถึงร้านค้า และบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
จากผลการสำรวจสำมะโนประชากร ชุมชนในอุดมคติของออสเตรเลียคือชุมชนที่มีต้นไม้และ "เห็นความสำคัญของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์"
ขณะเดียวกันชุมชนก็มีการดูแลพื้นที่โดยรวมอย่างดี มีร้านค้าและบริการในท้องถิ่นที่ไม่ไกลที่สามารถเดินได้จากบ้านของตน เช่น ชานเมือง Lane Cove ในนครซิดนีย์ และเทศบาล Boroondara ในนครเมลเบิร์น และ เมือง Vincent ในเพิร์ธ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้คนคิดว่าชุมชนของตนน่าอยู่หรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับช่วงกลุ่มอายุด้วย เช่น
ประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ เช่น โอกาสในการจ้างงาน ราคาที่อยู่อาศัย และสถานที่ที่สามารถทำกิจกรรมในตอนเย็น
อ่านเพิ่มเติม
![Image for read more article 'อ่านเพิ่มเติม'](https://assets.product.qa.sbs.com.au/dims4/default/9126698/2147483647/strip/true/crop/3111x1750+82+44/resize/1280x720!/quality/90/?url=https%3A%2F%2Fsbs-au-brightspot.s3.amazonaws.com%2Fdrupal%2Fyourlanguage%2Fpublic%2Fmelbourne_1_7.jpg&imwidth=1280)
เมลเบิร์นติดอันดับ 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกปีนี้
คุณ ฮอดจ์สัน เปิดเผยว่า
“คนหนุ่มสาวต้องการให้ชุมชนมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถสนองความต้องการที่จำเป็นของพวกเขา ตั้งแต่การทำงาน ไปจนถึงกิจกรรมสันทนาการ มีการเดินทางอย่างสะดวก มีการออกแบบอย่างยั่งยืน และมีตัวเลือกของที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย”
คุณ ฮอดจ์สัน ยังระบุว่า ประชากรที่มีอายุระหว่าง 25 ถึง 44 ปี ให้ความเห็นว่าชุมชนของตนน่าอยู่น้อยลง ซึ่งอาจเป็นผลมากจากวิกฤตค่าครองชีพ การเดินทาง และการกลับเข้าทำงานในสำนักงาน
รัฐวิกตอเรียและรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ได้คะแนนเสมอกันในการจัดลำดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งได้คะแนนเท่ากันคือ 70 คะแนนตามมาด้วยสามรัฐที่มีคะแนนเท่ากันคือ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เวสเทิร์นออสเตรเลีย และ แคปิตอลเทร์ริทอรี คือ 67 คะแนน ส่วนรัฐควีนส์แลนด์และรัฐแทสเมเนียได้ 66 คะแนน และ รัฐที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ได้ คะแนน 63 คะแนน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจ
![Image for read more article 'เรื่องราวที่น่าสนใจ'](https://assets.product.qa.sbs.com.au/dims4/default/8e5ae86/2147483647/strip/true/crop/4456x2507+0+232/resize/1280x720!/quality/90/?url=https%3A%2F%2Fsbs-au-brightspot.s3.amazonaws.com%2Ffc%2Fce%2F3a672e444c70afe95cacf1a8002e%2F20230917001842460325-original.jpg&imwidth=1280)
ออสเตรเลียพบอัตราการเสียชีวิตจากความร้อนมากที่สุดในรอบทศวรรษ