ผู้หางานจะสบายขึ้นเนื่องจากไม่จำเป็นจะต้องยื่นสมัครงาน 20 ตำแหน่งต่อเดือนเพื่อรับเงินผลประโยชน์การว่างงาน แต่บางฝ่ายกล่าวว่าความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นยังน้อยเกินไป
รัฐบาลได้ยกเลิกข้อบังคับดังกล่าว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องระบบจ็อบแอคทีฟ (Jobactive) ซึ่งต่อไปก็จะอนุญาตให้ผู้ว่างงานหางานทางออนไลน์ได้
แม้ว่าจะได้ขยายขอบเขตการหางานของเขาออกไป คุณชอน เคนนี วัย 29 ปี จากนครเมลเบิร์นก็กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นมีความตึงเครียดในการพยายามจะทำตามข้อบังคับต่างๆ
“บ่อยๆ ครั้งไม่ได้มีตำแหน่งงานที่ดีๆ ถึง 20 ตำแหน่งให้สมัคร ดังนั้นคุณจึงสมัครห้าถึง 10 ตำแหน่งที่คุณนั้นมีคุณสมบัติเหมาะสม และหลังจากนั้นคุณก็สมัครไปอีก 10 หรือ 15 ที่เพียงเพราะว่าคุณจำเป็นต้องทำ”
Sean Kenny says there are not enough jobs for the number of people out of work. Source: SBS News
“มันน่าเครียดอย่างที่สุด คุณถูกลงโทษเป็นประจำ และบางครั้งก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเพราะเหตุใด”
เขาว่างงานมาเป็นเวลา 18 เดือนแล้ว
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากก็ยินดีต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีด้านการว่าจ้างงาน นางเคลลี โอดวายร์ ประกาศในเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.)
ดิจิทัลเป็นอันดับแรก
“มันจะเป็นการมุ่งเน้นต่อดิจิทัลเป็นอันดับแรก โดยผู้คนจะสามารถค้นหาตำแหน่งงาน และรัฐบาลก็จะไม่ไปเกะกะขวางทาง” นางโอดวายร์กล่าว
ผู้บริหารสูงสุดของสภาบริการสังคมแห่งออสเตรเลีย คุณคาสซานดรา โกลดี กล่าวว่า การเพิ่มทรัพยากรในการให้ความช่วยเหลือผู้ซึ่งว่างงานมาเป็นเวลายาวนาน และการเพิ่มความยืดหยุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ดี
แต่เธอก็เตือนว่า การพึ่งพาระบบดิติทัลจนมากเกินไปอาจทำให้เกิดวิกฤต ‘หนี้หุ่นยนต์ โรโบเดต (Robodebt)’ ขึ้นอีกครั้งได้
“ในเรื่องของความเสี่ยงต่างๆ ของการให้บริการแก่ผู้อื่นด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งเราก็ทราบมาจากวิกฤตโรโบเดต ว่าอาจถึงขั้นภัยพิบัติได้หากไม่ได้ออกแบบไว้ด้วยความระมัดระวัง” เธอกล่าว
นางโอดวายร์กล่าวว่า ชุมชนคาดหวังว่าผู้หางานซึ่งรับเงินสวัสดิการนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้งานทำ
“แต่ไม่ใช่แค่ว่าความเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั้นจะทำให้กิจกรรมข้อผูกมัดที่เรามีต่อกันนั้นมีประสิทธิผลและเข้าเป้ามากขึ้น มันยังจะลดการยื่นสมัครงานอย่างไม่เหมาะสมต่อธุรกิจขนาดเล็ก ลดภาระของพวกเขาลง และเป็นการขจัดความยุ่งยาก”
เงินที่ประหยัดไปได้เนื่องจากหันมาใช้ระบบออนไลน์ จะได้รับการลงทุนกลับไปเพื่อมอบบริการในลักษณะตัวต่อตัวที่เต็มรูปแบบ ตรงเป้า และเหมาะกับแต่ละคนมากขึ้น สำหรับผู้ซึ่งพยายามต่อกรกับปราการต่างๆ ในการหางานทำ
Kelly O'Dwyer says job seekers will no longer have to attend regular appointments. Source: AAP
“จะมีทรัพยาการเพิ่มมากขึ้นเพื่อลงทุนกลับไปในการให้ความช่วยเหลือแบบเฉพาะสำหรับรายบุคคล ให้ผู้หางานซึ่งด้อยโอกาสมากกว่า ผู้ประสบกับปราการหลายต่อหลายด่านในการเข้าทำงาน”
แต่วุฒิสมาชิกจากพรรคกรีนส์ นางเรเชล ซีเวิร์ท ก็ตั้งข้อกังขาว่า ผู้ที่ว่างงานมาเป็นเวลานานจะมีกำลังจ่ายเงินเพื่อใช้งานอินเทอร็เน็ตได้อย่างไร สำหรับเข้าใช้ระบบดิจิทัลแบบใหม่
“ดิฉันจำเป็นจะต้องถามว่า สำหรับผู้คนซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยเงินนิวสตาร์ทซึ่งจ่ายให้ต่ำที่ $40 ดอลลาร์ต่อวัน คราหนึ่งเป็นเวลาหลายต่อหลายปี พวกเขาจะได้เงินเพิ่มหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าพวกเขาสามารถเข้าใช้บริการแบบดิจิทัลได้”
นางโอดวายร์กล่าวว่า ผู้หางานจะสามารถสนทนากับเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งได้หากพวกเขาต้องการคำปรึกษา คำแนะนำ หรือความช่วยเหลือทางเทคนิก
รัฐบาลจะทดลองการปฏิรูปดังกล่าวในย่านพักอาศัยต่างๆ ทางตอนใต้ของนครแอดิเลด และชายฝั่งทางเหนือตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ตั้งแต่เดือนกฤกฎาคมเป็นต้นไป
ในระหว่างช่วงทดลอง สัญญาจ็อบแอคทีฟที่มีอยู่ก่อนหน้าจะถูกต่อไปอีกเป็นเวลาสองปี โดยแบบใหม่นั้นจะเริ่มทั่วประเทศตั้งแต่เดือนกฤกฎาคม ปี ค.ศ. 2022 เป็นต้นไป
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ชื่อที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษของท่านกระทบการหางานในออสเตรเลียแค่ไหน?
