กฎหมายใหม่ที่จะเริ่มมีผลปี 2019 นี้มีอะไรบ้าง

NEWS: เอสบีเอส นิวส์ เจาะลึกกฎหมายและข้อบังคับใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2019 นี้ในออสเตรเลีย

ออสเตรเลียเลิกเก็บภาษีจีเอสที ร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยทุกประเภท เริ่ม 1 มกราคม 2019 นี้ (Getty Images)

ออสเตรเลียเลิกเก็บภาษีจีเอสที ร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยทุกประเภท เริ่ม 1 มกราคม 2019 นี้ Source: Getty Images

You can read the full article in English

ปีใหม่ก็หมายถึงกฎหมายและข้อบังคับใหม่ เอสบีเอส นิวส์ มีรายละเอียดกฎหมายสำคัญบางอย่างที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2019

เลิกเก็บภาษีสินค้าผ้าอนามัย

เริ่ม: 1 มกราคม

ยกเลิกการเก็บภาษีจีเอสที ร้อยละ 10 สำหรับผ้าอนามัยและสินค้าสุขอนามัยสำหรับสตรีที่มีรอบเดือนทุกประเภท

นโยบายการเลิกเก็บภาษีจีเอสทีนี้ได้รับอนุมัติ จากการที่รัฐบาลของรัฐและมณฑลต่างๆ เห็นชอบร่วมกันที่จะยกเลิกภาษีนี้ หลังผู้พิทักษ์สิทธิสตรีได้รณรงค์เรื่องนี้มาเป็นเวลานาน 18 ปี โดยให้เหตุผลว่าไม่ยุติธรรมที่เก็บภาษีจากผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องใช้ ขณะที่สินค้าอย่างถุงยางอนามัยและน้ำยาหล่อลื่นการมีเพศสัมพันธ์ได้รับการยกเว้นภาษี

“นี่เป็นการปฏิวัติที่ควรเกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ครอบครัวชาวออสเตรเลียมีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้น” นายจอช ไฟรเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ กล่าวในเดือนตุลาคม

“ผู้หญิงในออสเตรเลียหลายล้านคนจะได้ประโยชน์จากการเลิกเก็บภาษีนี้” นางเคลลี โอดไวเออร์ รัฐมนตรีด้านสตรีของสหพันธรัฐ ระบุ
The 10 per cent GST on feminine hygiene products such as tampons will be removed from January 1.
Source: AAP

การให้กู้ยืมเงินผ่านบัตรเครดิต

เริ่ม: 1 มกราคม

จะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการที่ธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตในออสเตรเลียออกบัตรใหม่ให้แก่ลูกค้า ได้แก่อเมริกัน เอ็กซเพรสส์, คอมม์แบงค์, เวสแพก, แน็บ (NAB), ซิตี้ (Citi),  เอเอ็นเซ็ด,  เบนดิโกและอะดิเลด แบงค์, เอชเอสบีซี, ละติทูด และแมกควารี

ธนาคารและบริษัทเหล่านี้ตกลงที่จะอนุญาตให้ลูกค้าแจ้งขอลดวงเงินในบัตรเครดิตได้ ให้ขอยกเลิกบัตรทางออนไลน์ได้ ส่วนธนาคารและบริษัทเหล่านี้จะเลิกการเสนอเพิ่มวงเงินในบัตรให้แก่ลูกค้าโดยลูกค้าไม่ได้ร้องขอ

นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทเหล่านี้ยังตกลงว่า ก่อนออกบัตรเครดิต จะทำการประเมินว่าลูกค้าใหม่มีความสามารถทางการเงินพอที่จะชำระเงินคืนในวงเงินที่กำหนดให้ภายในเวลา 3 ปีหรือไม่

โดยมาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการที่ธนาคารและบริษัทดังกล่าวมีออกมา ตามรายงานของคณะกรรมาธิการด้านหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย หรือเอซิก (ASIC)

“เราจะเฝ้าสังเกตการณ์ผู้ให้กู้ยืมเงินในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขาดำเนินการแก้ไขสิ่งที่เราเป็นห่วง และพยายามทำให้แน่ใจว่าผลลัพธ์สำหรับผู้บริโภคนั้นดีขึ้น ในตลาดการให้สินเชื่อผ่านบัตรเครดิต” นายชอน ฮิวส์ ประธานคณะกรรมาธิการเอซิก กล่าว

ประชาชนชาวออสเตรเลียเป็นหนี้บัตรเครดิตจำนวนรวมกัน 51.6 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้พวกเราเป็นชาติที่มีหนี้สินมากที่สุดชาติหนึ่งของโลก

เพิ่มเงินสวัสดิการ ยูท อัลลาวแวนซ์ (Youth Allowance) และแอบสตัดดี (ABSTUDY) สำหรับส่วนภูมิภาคและชนบทของออสเตรเลีย

เริ่ม: 1 มกราคม

ได้มีการยกเลิกข้อจำกัดสำหรับเยาวชนและคนวัยผู้ใหญ่ตอนต้นในพื้นที่ชนบทและส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียในการขอรับเงินสวัสดิการ ยูท อัลลาวแวนซ์ (Youth Allowance) และแอบสตัดดี (ABSTUDY)

รายได้ของพ่อแม่รวมกันสูงสุดสำหรับการขอรับเงินสวัสดิการทั้งสองประเภทดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นจากเดิมจำกัดอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์ เป็น 160,000 ดอลลาร์ต่อปี ขณะผู้รับเงินสวัสดิการแอบสตัดดี (ABSTUDY) ที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นที่ไกลจากบ้าน จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่องการเดินทางและการกลับไปเยี่ยมบ้าน

เงินสวัสดิการ ยูท อัลลาวแวนซ์ (Youth Allowance) ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เยาวชนที่กำลังหางานทำ นักเรียน และลูกมือฝึกหัดงาน (apprentice) ขณะที่ แอบสตัดดี (ABSTUDY) เป็นเงินสวัสดิการประเภทหนึ่งที่ให้แก่นักเรียน และลูกมือฝึกหัดงาน ที่เป็นชาวพื้นเมืองอะบอริจินส์ หรือชาวเกาะทอร์เรส สเตรต์

แม้จะมีการผลักดันให้รัฐบาลเพิ่มเงินสวัสดิการนิวสตาร์ต (Newstart) สำหรับผู้ว่างงาน แต่เงินนิวสตาร์ต ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ 275 ดอลลาร์ ต่อสัปดาห์

“ไม่ฉีด ไม่ให้เล่น” ในออสเตรเลียตะวันตก

เริ่ม: 1 มกราคม

นโยบาย “ไม่ฉีด ไม่ให้เล่น” จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในศูนย์ให้บริการดูแลเด็กเล็กและตามโรงเรียนต่างๆ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เพื่อพยายามยับยั้งโรคติดต่อไม่ให้แพร่ระบาดในเด็ก

โรงเรียนต่างๆ จะต้องขอประวัติการฉีดวัคซีนของนักเรียน และอาจถูกสั่งปิดได้หากเกิดการระบาดของโรคระบาดที่ป้องกันได้จากการฉีดวัคซีน

นโยบายใหม่นี้ส่งผลให้เวสเทิร์นออสเตรเลียมีนโยบายที่สอดคล้องกันกับที่บังคับใช้ในรัฐวิกตอเรีย, นิวเซาท์เวลส์ และควีนส์แลนด์

ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนในออสเตรเลียตะวันตกนั้นต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของทั่วประเทศ

ของรับขวัญเด็กทารก

เริ่ม: 1 มกราคม

พ่อแม่มือใหม่ที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะได้รับของใช้สำหรับทารกมูลค่า 300 ดอลลาร์ที่มาจากเงินภาษีประชาชน เพื่อช่วยพ่อแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีลูกแรกเกิด

ของใช้ที่จัดเป็นชุดแจก ได้แก่ ปรอทวัดอุณหภูมิ ชุดปฐมพยาบาล ทิชชูเปียกสำหรับเช็ดทำความสะอาดผิวทารก ครีมทาผิว แปรงสีฟัน และสิ่งของอื่นๆ

ของใช้สำหรับทารกที่ว่านี้จะถูกจัดส่งฟรี ให้แก่พ่อแม่ทางไปรษณีย์ ไปยังที่อยู่ที่พ่อแม่ได้แจ้งแก่ทางรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ไว้

การลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดา

เริ่ม: 1 กรกฎาคม

ตั้งแต่กลางปี 2019 นี้ ชาวออสเตรเลียจะเริ่มได้รับประโยชน์จากแผนการตัดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่พรรคร่วมได้ป่าวประกาศไว้ ประชาชนจะได้รับการลดหย่อนภาษี เมื่อยื่นขอคืนภาษีประจำปีงบประมาณ 2017-2018

ผู้ที่มีรายได้สูงสุดไม่เกิน 37,000 ดอลลาร์ต่อปีจะเสียภาษีน้อยลง 200 ดอลลาร์

เงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 530 ดอลลาร์ จะให้กับผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 48,000 ดอลลาร์ถึง 90,000 ดอลลาร์ต่อปี

นอกจากนี้ มาตรการที่รัฐบาลมีออกมาเพื่อรับมือกับ “แบรกเกต ครีพ” (bracket creep หรือการที่ภาวะเงินเฟ้อผลักดันให้รายได้ของประชาชนเข้าไปสู่ฐานรายได้ขั้นที่สูงขึ้น) จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคมเช่นกัน

กล่าวคือประชาชนที่มีรายได้ระหว่าง 87,000 ดอลลาร์ ถึง 90,000 ดอลลาร์ต่อปี จะถูกย้ายลงไปสู่ฐานรายได้ขั้นที่ต่ำลง โดยเสียภาษีที่อัตราร้อยละ 32.5 แทนที่จะเสียในอัตราร้อยละ 37
Annual Tax return
การเปลี่ยนแปลงด้านภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจะเริ่ม 1 กรกฎาคม 2019 นี้ (Getty Images) Source: Getty Images

การเปลี่ยนแปลงวีซ่าเวิร์ก แอนด์ ฮอลิเดย์

เริ่ม: 1 กรกฎาคม

ผู้ที่มาทำงานและอาศัยอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่า เวิร์กกิง ฮอลิเดย์ ในปีที่สอง จะมีสิทธิ์ขอต่อวีซ่าได้ หากพวกเขาทำงานใน “อุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์ในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย” เป็นเวลา 6 เดือน

กระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ให้คำจำกัดความของ “งานในอุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์ในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย” ว่าเป็นงานด้านการเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดผลผลิตลงบรรจุภัณฑ์เพื่อจำหน่าย การตัดแต่งกิ่งต้นไม้ และการผลิตผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น รัฐบาลสหพันธรัฐคาดว่าจะดึงดูดลูกจ้างให้ทำงานในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลียนานขึ้น แต่รัฐบาลย้ำว่าชาวออสเตรเลียจะยังคงมีโอกาสได้งานทำก่อนลูกจ้างจากต่างประเทศเช่นเดิม

ผู้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใหม่ต้องรอคอยนานขึ้นกว่าจะได้รับเงินสวัสดิการบางประเภท

ข้อเสนออื้อฉาวของรัฐบาลมอร์ริสันที่จะให้ผู้อพยพย้ายถิ่นที่มาอยู่ใหม่ต้องรอนานขึ้นสำหรับการรับเงินสวัสดิการบางประเภทนั้น คาดว่าจะผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาต้นปี 2019

ผู้อพยพย้ายถิ่นที่ได้รับวีซ่าทักษะถาวร และได้รับวีซ่าจากการติดตามครอบครัว จะต้องรอคอยนาน 4 ปี ก่อนจะสามารถขอรับเงินสวัสดิการนิวสตาร์ต สำหรับผู้ว่างงาน และขอรับบัตรคอนเซสชัน คาร์ด (concession card) ได้

เงินสวัสดิการ แคเรอร์ เพย์เมนต์ (carer payment) เงินลางานเพื่อดูแลบุตรแรกเกิด (parental leave pay) และเงินช่วยเหลือบิดาและคู่ครอง จะต้องจะถูกขยายเวลารอคอยให้นานขึ้นเป็น 2 ปี ขณะที่เงินแคเรอร์ อัลลาวแวนซ์ (carer allowance) และเงินแฟมิลี แทกซ์ เบเนฟิต พาร์ต เอ (family tax benefit part A)จะต้องรอคอยนาน 1  ปี

ทั้งนี้ พรรคแรงงานได้ตกลงกับพรรคร่วมในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายฉบับนี้ให้เข้มข้นน้อยลง ขณะที่ร่างกฎหมายดั้งเดิมนั้นเข้มงวดกว่านี้มาก แต่ต่อมามีกระแสข่าวว่าร่างกฎหมายต้นฉบับคงไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาอยู่ดี หากพรรคแรงงานเลือกจะขัดขวางร่างกฎหมายฉบับนี้

“เราเป็นเกรงว่าหากเราต่อต้านร่างกฎหมายนี้ นั่นจะเปิดประตูให้แก่พรรคการเมืองอย่าง วัน เนชัน และเฟรเซอร์ แอนนิง ได้เจรจากับรัฐบาลเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้แทน” นายคริส โบเวน โฆษกด้านการคลังของพรรคแรงงาน ชี้แจง

“เราเห็นว่า มันจะดีกว่าที่เราจะเจรจากับรัฐบาลเสียเอง เพื่อพยายามให้ได้ข้อตกลงที่เรายอมรับได้”

ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกเสนอเข้าสู่วุฒิสภาในช่วงต้นปี 2019 และหลังจากได้รับการอนุมัติ ก็จะกลายเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 



Share
Published 31 December 2018 4:13pm
Updated 1 January 2019 4:07pm
By Evan Young
Presented by Parisuth Sodsai


Share this with family and friends