อธิบายกฎล็อกดาวน์ NSW ที่เปลี่ยนแปลงและเงินช่วยเหลือใหม่

มุขมนตรีกลาดิส เบเรจิกเลียน กล่าวว่า ขณะนี้นิวเซาท์เวลส์อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้น

A woman is seen in Blacktown, in the west of Sydney, Saturday, August 14, 2021.

A woman is seen in Blacktown, in the west of Sydney, Saturday, August 14, 2021. Source: AAP

ขณะที่นิวเซาท์เวลส์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เป็นจำนวนกว่า 400 รายอย่างต่อเนื่องช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้การล็อกดาวน์ขยายไปสู่พื้นที่ส่วนภูมิภาคของนิวเซาท์เวลส์ และมีการประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรการบางอย่างที่รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ใช้เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ กล่าวในวันเสาร์ (15 ส.ค.) ว่า “นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่นิวเซาท์เวลส์เคยประสบนับตั้งแต่วันแรกของการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19”

นี่คือมาตรการที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา

การล็อกดาวน์ขยายไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาคทั้งหมดของนิวเซาท์เวลส์

ขณะนี้การล็อกดาวน์ได้ขยายไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาคทั้งหมดของนิวเซาท์เวลส์จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม คำสั่งใหม่นี้ถูกนำมาใช้บังคับแทนคำสั่งเดิมในบางพื้นที่ของส่วนภูมิภาคที่มีการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้

ทุกคนต้องอยู่บ้าน นอกเสียจากจะมีเหตุผลที่เหมาะสมในการออกจากบ้าน และต้องไม่มีผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันมาหาที่บ้าน

อย่างไรก็ตาม สามารถมีผู้มาเยี่ยมได้ครั้งละหนึ่งคนเพื่อทำหน้าที่ให้การดูแล หรือด้วยเหตุผลที่น่าเห็นใจ

ธุรกิจด้านการบริการ (hospitality) ทั้งหมด ต้องเปลี่ยนมาให้บริการเฉพาะเทคอะเวย์ (ให้นำอาหารและเครื่องดื่มไปรับประทานที่บ้านหรือที่อื่น) ธุรกิจค้าปลีกต้องปิดให้บริการแก่ประชาชนและดำเนินธุรกิจทางออนไลน์ หรือผ่านระบบ Click and Collect เท่านั้น หากสามารถทำได้ ยกเว้น ธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าที่จำเป็น ปั๊มน้ำมัน ธนาคาร ไปรษณีย์ ร้านซักรีดและซักแห้ง สามารถเปิดให้บริการต่อไปได้

ผู้ใดที่ออกจากบ้านต้องนำหน้ากากอนามัยติดตัวไปด้วยตลอดเวลา และสวมเมื่ออยู่กลางแจ้งขณะทำงาน หรือเข้าแถวรอสิ่งของ เช่น เมื่อรอซื้ออาหารและเครื่องดื่ม

มีการขอร้องให้นายจ้างอนุญาตให้ลูกจ้างทำงานจากบ้านได้ ยกเว้นไม่สามารถทำได้ในทางปฏิบัติ เพราะเหตุผลที่เหมาะสม

บังคับใช้กฎ 5 กิโลเมตร

ตั้งแต่วันจันทร์วันนี้ (16 ส.ค.) กฎไปไกลได้ไม่เกินรัศมี 10 กิโลเมตรจากบ้านสำหรับประชาชนในพื้นที่เขตมหานครของซิดนีย์และปริมณฑล (Greater Sydney) และสำหรับพื้นที่ล็อกดาวน์อื่นๆ จะลดลงเหลือ 5 กิโลเมตร

นั่นหมายความว่า ประชาชนจะสามารถออกจากบ้านไปซื้อของที่จำเป็น ไปออกกำลังกาย หรือไปทำกิจกรรมสันทนาการในเขตเทศบาลที่ตนอาศัยอยู่เท่านั้นหรือภายในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากบ้าน

“คุณสามารถทำกิจกรรมภายในพื้นที่เขตเทศบาลท้องถิ่นของคุณ แต่แทนที่จะเป็น 10 กิโลเมตรจากบ้าน จเปลี่ยนเป็น 5 กิโลเมตรจากบ้านของคุณ” มุขมนตรีเบเรจิกเลียน กล่าว

เงินช่วยเหลือใหม่ 2 ประเภท รวมทั้งสำหรับผู้ถือวีซ่า

ตั้งแต่วันจันทร์ (16 ส.ค.) เงินช่วยเหลือใหม่ 320 ดอลลาร์ จะมีให้แก่ลูกจ้างที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลที่สถานการณ์น่าเป็นห่วง (LGAs of concern) และจำเป็นต้องแยกตัวจากผู้อื่นขณะรอผลการตรวจเชื้อโควิด-19

ลูกจ้างที่มีสิทธิ์ที่อายุ 17 ปีและมากกว่า จะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือที่เรียกว่าเงิน COVID-19 Test and Isolate Support Payment เมื่อต้องแยกตัวจากผู้อื่นขณะรอผลการตรวจเชื้อ สามารถขอรับเงินช่วยเหลือนี้ได้ 1 ครั้งเป็นจำนวน 320 ดอลลาร์สำหรับระยะเวลา 4 สัปดาห์

รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยจ่ายเงินชดเชยการสูญเสียรายได้ของลูกจ้างแคชวล และรวมไปถึงลูกจ้างที่ใช้สิทธิ์ลาป่วยหรือลาเพื่อทำหน้าที่ให้การดูแลผู้อื่นไปหมดแล้ว หากต้องกักตัวหรือแยกตัวจากผู้อื่นที่บ้าน

ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจะได้รับเงินช่วยเหลือนี้เข้าบัญชีธนาคารของพวกเขาภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่ยื่นสมัครออนไลน์กับ Service NSW

นอกจากนี้ จะมีเงินช่วยเหลือใหม่สำหรับผู้ประสบความยากลำบาก 400 ดอลลาร์ โดยจะจ่ายผ่าน Red Cross สำหรับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวและประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่มีสิทธิ์รับเงินสนับสนุนอื่นๆ ด้านรายได้จากรัฐบาล

มีเจ้าหน้าที่กองทัพมากขึ้นลงพื้นที่และค่าปรับที่สูงขึ้น

จะมีเจ้าหน้าที่ของกองทัพออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอีก 500 คน ที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวเซาท์เวลส์ ลงพื้นที่เพื่อกำกับดูแลให้ประชาชนและธุรกิจปฏิบัติตามข้อจำกัดตั้งแต่วันจันทร์ (16 ส.ค.)

ผู้บัญชาการตำรวจ มิก ฟูลเลอร์ ของนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจตราให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎอย่างเข้มงวดและจะสั่งปรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎ โดยค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนกฎบางอย่างเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า โดยเปลี่ยนมาเป็นจำนวน 5,000 ดอลลาร์

มุขมนตรีเบเรจิกเลียน กล่าวว่าผู้คนส่วนใหญ่กำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จงใจฝ่าฝืนกฎและทำให้ชุมชนที่เหลือตกอยู่ในความเสี่ยง

“ค่าปรับที่เพิ่มขึ้นและการแสดงตนของตำรวจที่เพิ่มขึ้นนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่ทำผิดจะถูกจับและลงโทษอย่างเหมาะสม” นางเบเรจิกเลียนกล่าว

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีค่าปรับเพิ่มขึ้นสำหรับการละเมิดคำสั่งของการสาธารณสุข โดยเริ่มใช้บังคับ

ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม ได้แก่

  • $5,000 ปรับทันทีที่ทำการฝ่าฝืนกฎการแยกตัวจากผู้อื่น

  • $5,000 ปรับทันทีที่ให้การเท็จเกี่ยวกับใบอนุญาตเดินทางเข้าพื้นที่ (เป็นความผิดอาญาอยู่แล้ว)

  • $5,000 ปรับทันทีที่ให้การเท็จแก่ผู้ติดตามผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (contact tracer) (เป็นความผิดอาญาอยู่แล้ว)

  • $3,000 ปรับทันทีที่ฝ่าฝืนกฎสองคนออกกำลังกาย/สันทนาการกลางแจ้ง และ

  • $3,000 ปรับทันทีที่ฝ่าฝืนกฎการเข้าในเขตภูมิภาคของนิวเซาท์เวลส์ เพื่องานที่ได้รับอนุญาต งานตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์ และเดินทางไปยังบ้านหลังที่สองของตน

ระบบใบอนุญาตเพื่อเดินทางไปยังส่วนภูมิภาค

จะมีระบบใหม่สำหรับออกใบอนุญาตให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เขตมหานครของซิดนีย์และปริมณฑล (Greater Sydney) ที่ต้องการเดินทางไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาคของนิวเซาท์เวลส์ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมเป็นต้นไป

ผู้ที่จะสามารถเดินทางเข้าพื้นที่ส่วนภูมิภาคนิวเซาท์เวลส์ได้ ต้องมีใบอนุญาตที่ออกให้โดย Service NSW สำหรับผู้ทำงานที่ได้รับอนุมัติ หรือเดินทางไปเพื่อไปตรวจดูอสังหาริมทรัพย์เพื่อไปอาศัยอยู่ หรือเดินทางไปยังบ้านหลังที่สองเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างหรือซ่อมแซมบ้าน

นางเบเรจิกเลียน กล่าวว่า “ตำรวจจะสามารถสั่งให้คุณหยุดให้ตรวจและขอดูหลักฐานได้”

ปรับมาตรการ “ซิงเกิลบับเบิล” สำหรับผู้ที่อยู่คนเดียว

ตั้งแต่ 21 สิงหาคม ประชาชนที่ร่วมในมาตรการซิงเกิลบับเบิล (Single bubble) หรือผู้ที่อาศัยอยู่ตามลำพังที่ต้องการให้ผู้อื่น 1 คนมาหาที่บ้านได้ สำหรับพื้นที่เขตเทศบาลท้องถิ่นที่สถานการณ์น่าเป็นห่วง (LGAs of concern) ต้องลงทะเบียนชื่อผู้ที่ต้องการให้มาหาที่บ้านกับรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ โดยสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ของที่ nsw.gov.au

มาตรการซิงเกิลบับเบิลถูกนำมาใช้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยเป็นมาตรการที่ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ตามลำพังได้สามารถมีการพบปะทางสังคมกับผู้อื่นได้


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้ ที่นี่

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 16 August 2021 11:24am
Updated 16 August 2021 11:27am
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: NSW Government, SBS News


Share this with family and friends