ผู้กู้เงินซื้อบ้านต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางของออสเตรเลียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานทางการ (official cash rate) จากที่เคยอยู่ในอัตราต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (RBA) ไม่ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2010 และอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 0.1 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานส่งผลต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ
แต่หลังจากการประชุมประจำเดือนเมื่อวันอังคาร (3 พ.ค.) คณะกรรมการของอาร์บีเอ (ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย หรือ RBA) ได้ตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานทางการ (official cash rate) ให้สูงขึ้นร้อยละ 0.25 ซึ่งหมายความว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 0.35
ตลาดการเงินได้คิดอัตราดอกเบี้ยเผื่อไว้แล้วล่วงหน้าสำหรับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจากร้อยละ 0.15 เป็นร้อยละ 0.25 ในวันนี้ และจะตามมาด้วยการขึ้นราคาดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 หลายครั้งในเดือนต่อๆ มาหลังจากนี้
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยผันแปรสำหรับการกู้เงินซื้อบ้าน (variable mortgage rates) จะเพิ่มขึ้นตามมา อีกทั้งยังลดความสามารถในการกู้ยืมเงิน (borrowing capacity) และเพิ่มจำนวนเงินที่ต้องชำระคืนสำหรับผู้กู้เงินซื้อบ้าน
คุณ เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอเอ็มพี แคพิทอล (AMP Capital) คาดว่าธนาคารต่างๆ จะส่งต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มจำนวนให้แก่ลูกค้าของตน
คุณโอลิเวอร์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อประจำปีที่สูงเกินความคาดหมายที่ร้อยละ 5.1 ในไตรมาสเดือนมีนาคม ซึ่งถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตลาดการจ้างงานที่มีอัตราการว่างงานต่ำ น่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจในวันนี้ของอาร์บีเอ
“กล่าวคือ อาร์บีเอได้ข้อสรุปว่า ไม่เหมาะสมอีกต่อไปที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำในระดับเกือบศูนย์เปอร์เซ็นต์ อาร์บีเอจึงได้เริ่มกระบวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” คุณโอลิเวอร์ กล่าว
เขากล่าวต่อไปว่า เมื่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อาร์บีเอได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ (demand) ในระบบเศรษฐกิจ
“ตอนนี้เราประสบปัญหาตรงกันข้าม” คุณโอลิเวอร์ กล่าว
“เรามีข้อจำกัดในการจัดหาสินค้าอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด น้ำท่วม (ในออสเตรเลีย) และสงครามในยูเครน”
“แต่อุปสงค์ (demand) ยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก... ดังนั้นธนาคารกลางจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเกี่ยวกับการขาดอุปทาน (supply) แต่ธนาคารกลางสามารถชะลออุปสงค์ได้ และวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการทำเช่นนั้นคือการขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน พยายามตีตัวออกห่างจากประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า คงจะไม่ถูกต้องที่จะมองเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยผ่าน "เลนส์ทางการเมือง"
“ชาวออสเตรเลียรู้ดีว่าความกดดันที่เรากำลังเผชิญที่นี่ในออสเตรเลียมีอยู่จริง และความกดดันเหล่านี้กำลังถูกกำหนดอย่างล้นหลามจากสิ่งต่างๆ นอกออสเตรเลีย” นายมอร์ริสัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมลเบิร์นในวันอังคารในนี้ (3 พ.ค.)
เขากล่าวว่า พรรคแรงงานจะเพิ่มความกดดันให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นด้วยการใช้จ่ายเงินของผู้เสียภาษีเกินความเหมาะสม
แต่นายแอนโทนี อัลบานีซี ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า “เป็นสิ่งผิดธรรมดา” ที่นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
“ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำเป็นเรื่องการเมืองแบบวันต่อวัน มันไม่เคยเกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติ” นายอัลบานีซี ผู้นำพรรคแรงงานกล่าว
ด้านนาย ไมเคิล ซุกคาร์ รัฐมนตรีช่วยด้านการคลังของสหพันธรัฐ กล่าวว่า "เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความเห็น" ที่อัตราดอกเบี้ยนั้นต่ำกว่าภายใต้รัฐบาลพรรคร่วม
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารกลางออสเตรเลียถูกกดดันให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
