ผู้อพยพบางส่วนถูกทวงเงิน JobKeeper คืน

พบผู้อพยพย้ายถิ่นบางส่วน ได้รับหนังสือทวงถามหนี้จากสรรพากรออสเตรเลีย หลังรับเงินชดเชยค่าจ้าง JobKeeper จากรัฐบาล ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดหนักเมื่อปีก่อน

Hassan now works for the Migrant Workers Centre, helping others fight repayment notices

Hassan now works for the Migrant Workers Centre, helping others fight repayment notices Source: SBS

กรมสรรพากรออสเตรเลีย กำลังพยายามเรียกเก็บเงินหลายพันดอลลาร์จากคนทำงานอพยพย้ายถิ่นฐานในออสเตรเลีย ที่ได้รับเงินชดเชยค่าจ้าง JobKeeper จากรัฐบาล ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงเมื่อปีก่อน

โครงการเงินช่วยเหลือนี้จัดตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วน และเปิดโอกาสให้ลูกจ้างประเมินคุณสมบัติในการรับเงินชดเชยค่าจ้างนี้ได้ด้วยตนเอง

แต่ในตอนนี้ ผู้อพยพย้ายถิ่นจำนวนไม่น้อยได้รับแจ้งว่า ได้รับการจ่ายเงินอย่างผิดพลาด โดยเอสบีเอส ยังพบการทวงถามหนี้จากลูกจ้างที่เคยได้รับเงินช่วยเหลือนี้สูงถึง $20,000 ดอลลาร์

เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเริ่มต้น และมีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ งานขับรถให้กับแอปพลิเคชันอูเบอร์ (Uber) ของคุณฮัซซาน เจเบอร์ (Hassan Jaber) ซบเซาลงเพียงชั่วข้ามคืน เขาต้องการความช่วยเหลือทางการเงินอย่างมาก ไม่ต่างกับชาวออสเตรเลียอีกหลายล้านคน

“ตอนนั้น ผมอยู่ในจุดที่ยากลำบาก และไปหาตัวแทนด้านภาษี เพื่อถามเขาว่าผมมีคุณสมบัติในการรับเงิน JobKeeper ของรัฐบาลหรือไม่ ตัวแทนภาษีแจ้งว่า ผมมีคุณสมบัติรับเงินก้อนนี้” คุณเจเบอร์ กล่าว

จากนั้น เขาได้ลงทะเบียนเพื่อรับเงิน JobKeeper และได้รับการอนุมัติในเวลาต่อมา แม้ว่าเขาจะถือวีซ่าเพื่อการปกป้องชั่วคราว (Temporary Protection Visa) ซึ่งอยู่นอกเหนือคุณสมบัติในการรับเงินช่วยเหลือดังกล่าว  

หลังได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้มาเป็นเวลาเกือบปี แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับจดหมายทวงหนี้ เพื่อขอให้จ่ายเงินที่เขาได้รับคืนมาทั้งหมด

“พูดตรง ๆ เลย ผมรู้สึกช็อกมาก เพราะมันไม่ใช่ค่าปรับแบบว่า $50 หรือ $100 ดอลลาร์ ที่คุณจัดการมันได้ แต่มันเป็นจำนวนเงินถึง $27,000 – $27,900 ดอลลาร์

"ผมรู้สึกช็อก ผมเครียดมาก โดยเฉพาะตอนที่มีล็อกดาวน์ ผมไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร” คุณเจเบอร์ กล่าว

คุณเจเบอร์ ซึ่งยังคงว่างงานอยู่ และมีเงินไม่พอใช้ ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังสำนักงานสรรพากรออสเตรเลีย เขาเล่าถึงสิ่งที่สำนักงานสรรพากรได้ติดต่อเขากลับมา

“เขาแจ้งผมว่า พวกเขางดเว้นการทวงหนี้จำนวน $19,400 ดอลลาร์ แต่ผมต้องจ่ายให้พวกเขา $8,500 ดอลลาร์ ผมบอกพวกเขาไปว่า ผมจะไม่จ่ายอะไรทั้งนั้น มันไม่ใช่ความผิดของผม อย่างไรก็ดี ผมได้ยื่นคำคัดค้านกลับไปอีกครั้ง” คุณเจเบอร์ กล่าว

ต่อมา สำนักงานสรรพากรออสเตรเลียได้ยกเลิกการทวงหนี้จากเขา โดย นายสจ็วต โรเบิร์ต (Stuart Robert) รัฐมนตรีด้านการจ้างงานของออสเตรเลีย กล่าวว่า ความผิดพลาดนั้นสามารถแก้ไขได้ 

“หากการเรียกเก็บเงินต่าง ๆ เป็นความผิดพลาดจากทางฝั่งของ ATO หรือแม้กระทั่ง Services Australia เอง ซึ่งผมเคยเป็นรัฐมนตรีอยู่ช่วงหนึ่ง และเกิดความผิดพลาดขึ้นในหน่วยงาน ตามปกติแล้วทางหน่วยงานจะงดเว้นการทวงหนี้"

"ทุกกรณีนั้นแตกต่างกัน แต่มันสำคัญในการแยกแยะให้กระจ่าง ระหว่างความไม่เข้าใจกฎหมาย และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทางหน่วยงาน” นายโรเบิร์ต กล่าว  

แต่จากมุมมองของ คุณวอลเลซ ฮวง (Wallace Huang) เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จากศูนย์เพื่อคนทำงานอพยพย้ายถิ่น (Migrant Workers Centre) บ่อยครั้งที่ความเสียหายด้านอารมณ์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว 

“เมื่อคุณได้รับจดหมายที่บอกว่า คุณมีหนี้กับรัฐบาลเป็นเงิน $10,000 ดอลลาร์หรือมากกว่า มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าผู้คนจำนวนมากก็คงจะต้องตื่นตระหนก เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับสถานการณ์แบบนั้นอย่างไร”

“และก็อย่างที่คุณรู้ดีก็คือ มันสร้างความเสียหายให้กับผู้คน มันมีผลกระทบอย่างมากกับสุขภาพของพวกเขา เรากำลังพูดถึงผู้คนที่มีสถานะวีซ่าไม่มั่นคง มีความมั่นคงทางรายได้และหน้าที่การงานเพียงน้อยนิดตลอดช่วงการแพร่ระบาดใหญ่” คุณฮวง กล่าว

เขากล่าวอีกว่า มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ 

“มีคนมาพบกับเราจนถึงตอนนี้ก็ 22 คนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มี 17 คน ที่ปัญหาของพวกเขาได้รับการแก้ไข ขณะที่อีก 5 ยังคงดำเนินเรื่องอยู่ในตอนนี้ ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จึงยังคงได้รับการแก้ไขจากทาง ATO 

“มีผู้คนจำนวนมากที่ถือวีซ่าเพื่อการปกป้อง ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาเหล่านี้ เป็นคนทำงานสัญญาจ้างอิสระที่ทำงานอย่างการขับรถให้อูเบอร์ งานอะไรทำนองนั้น และแน่นอนว่า ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาแรกของพวกเขา” คุณฮวงกล่าว 

ศูนย์นี้ ได้ช่วยผู้คนในการสะสางหนี้ที่เกิดจากการขอรับเงินชดเชยรายได้ JobKeeper ราว $130,000 ดอลลาร์

สำนักงานสรรพากรออสเตรเลีย ได้ระบุในแถลงการณ์มายังเอสบีเอส นิวส์ เพื่อยืนยันว่า ทางสำนักงานฯ ได้เรียกเก็บหนี้จากการจ่ายเงินชดเชยค่าจ้าง JobKeeper เกินได้แล้วเกือบ $140 ล้านดอลลาร์

แม้ทาง ATO จะงดเว้นการทวงถามหนื้ไปมากกว่า $60 ล้านดอลลาร์ จากสิ่งที่เรียกว่า “ความผิดพลาดโดยไม่เจตนา” อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงติดตามทวงถามเงิน JobKeeper ที่อ้างว่าได้จ่ายให้อย่างผิดพลาดเป็นจำนวนเงินราว $82 ล้านดอลลาร์

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย ได้กล่าวระหว่างการประชุมสภา เพื่อปกป้องกระบวนการติดตามค้นหาผู้ที่ไม่ควรได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว 

“ท่านประธานที่เคารพ ผู้คนทราบถึงภาระผูกพันที่พวกเขามี ผู้ที่ได้รับเงิน JobKeeper ทราบถึงภาระผูกพันของตนเอง ผู้รับเงินสวัสดิการมีภาระผูกพันที่จะต้องรายงานการได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ เฉกเช่นการรับเงินได้ตามปกติ” นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าว

แต่ นายอดัม แบนท์ (Adam Bandt) ผู้นำพรรคกรีนส์ กล่าวว่า กฎเกณฑ์นั้นกลับมีความแตกต่างกัน ระหว่างมหาเศรษฐี และผู้คนที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน 

“รัฐบาลให้เงิน JobKeeper หลายพันล้านดอลลาร์กับบริษัทใหญ่ ๆ และมหาเศรษฐี แล้วพวกเขาก็เอาเงินนั้นไปซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ไปจ่ายโบนัสให้กับผู้บริหาร ขณะที่ผู้คนบางส่วนที่ต้องมีชีวิตอย่างยากลำบากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดได้รับเงินจากรัฐบาล ซึ่งพวกเขาคิดว่ามีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือนั้นตามกฎหมาย และรัฐบาลก็ส่งหนังสือไปเรียกเก็บเงินเหล่านั้นคืนจากพวกเขา” นายแบนท์ กล่าว


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

จะช่วยเด็กๆ ในการเรียนจากที่บ้านช่วงล็อกดาวน์ได้อย่างไร


Share
Published 12 August 2021 7:16pm
Updated 12 August 2022 3:06pm
By Gareth Boreham, Shuba Krishnan
Presented by Tinrawat Banyat

Share this with family and friends