ชาวออสเตรเลียสูญเสียเงินหลายล้านไปกับสแกมเมอร์ในปีนี้ นี่คือวิธีการตุ้มตุ๋น

บทความนี้พาไปดูแนวโน้มการหลอกลวงในปีนี้ ตั้งแต่วิธีที่ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้ไปจนถึงความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้น

Many scammers used text messages as a contact method. Source: Getty / Chayantorn Tongmorn

ชาวออสเตรเลียสูญเสียเงินอย่างน้อย 73 ล้านดอลลาร์จากการหลอกลวงในปีนี้ และในขณะที่หน่วยงานเฝ้าระวังผู้บริโภคกล่าวว่าผลกระทบทางการเงินที่เกิดจากการกระทำเหล่านี้กำลังลดลง เราได้ออกคำเตือนให้ยังคงระมัดระวัง

รายงานล่าสุดของคณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (ACCC) สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นที่มีการรายงานผ่านบริการ Scamwatch รวมถึง ReportCyber และ Australian Financial Crimes Exchange (AFCX) มีมูลค่ารวมประมาณ 346 ล้านดอลลาร์ แม้ว่ารายงานดังกล่าวอาจจมีความเป็นไปได้ว่าจะมีความซ้ำซ้อนของข้อมูลในการรายงาน

ข้อมูลจากหน่วยงาน Scamwatch เพียงอย่างเดียวพบว่ามีการสูญเสียการสแกมเมอร์73.2 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10.8% จากไตรมาสุดท้ายของปีก่อน

การรายงานการหลอกลวง 16,342 รายการไปยัง ReportCyber ลดลง 7.1% จากไตรมาสก่อน

ด้านข้อมูลของ AFCX พบการรายงาน 23,200 รายการ (ลดลง 30.1 เปอร์เซ็นต์)และในส่วนของ Scamwatch พบว่ามีการรายงานเข้าไป 67,709 รายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว

รายงานข้อมูลชิ้นนี้ตั้งข้อสังเกตว่าการสูญเสียยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023

แต่ เนวา สคิลตัน (Neva Skilton) ผู้ตรวจการแผ่นดินอาวุโสของ Australian Financial Complaints Authority (AFCA) เตือนว่า "มีการหลอกลวงสำหรับทุกคน และน่าเสียดายที่ AFCA ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคทุกประเภท"

การหลอกลวงใดที่ทำให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด?

มีเพียง Scamwatch เท่านั้นที่ให้รายละเอียดว่าการหลอกลวงส่งผลกระทบต่อชาวออสเตรเลียอย่างไร

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการหลอกลวงด้านการลงทุนยังคงก่อให้เกิดความสูญเสียทางการเงินส่วนใหญ่ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 47.1 ล้านดอลลาร์

ผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงด้านการลงทุนอาจล่อเหยื่อด้วยโฆษณาปลอมหรือข่าวที่อ้างว่าคนดังสนับสนุนโครงการใดโครงการหนึ่ง

“หากบางสิ่งดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง และฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง มันคือใช่เลย” สคิลตันกล่าว

การหลอกลวงเรื่องการออกเดทและความโรแมนติก และการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง(การหลอกล่อเอาข้อมูลส่วนบุคคล)ติดอันดับ 3 อันดับแรก โดยคิดเป็นมูลค่าความสูญเสีย 5.9 ล้านดอลลาร์ และ 3.9 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

การหลอกลวงแบบไหนที่ถูกรายงานมากที่สุด?

Scamwatch ได้รับรายงานเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง 27,848 ครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสก่อนหน้า

ในการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง นักต้มตุ๋นจะปลอมแปลงเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยพยายามดึงข้อมูลประจำตัวหรือข้อมูลทางการเงิน เพื่อให้นักต้มตุ๋นมีข้อมูลเพียงพอที่จะเข้าถึงสิ่งต่างๆ เช่น บัญชีธนาคารหรือบัญชีเงินบำนาญ และเปิดบัญชีในนามของเหยื่อ

“หากคุณได้รับสายในลักษณะนี้ ให้วางสายและติดต่อธนาคาร [ของคุณ] ทันที” Skilton กล่าว

.

Scamwatch รายงานการสูญเสียการหลอกลวง 73.2 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 10.8% จากไตรมาสก่อนหน้า

มีการหลอกลวงการเรียกเก็บเงินที่เป็นเท็จ 8,544 ครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเหยื่อจะได้รับใบแจ้งหนี้ที่ไม่คาดคิดสำหรับสินค้าหรือบริการที่ไม่เคยมีการสั่งซื้อหรือมีประสบการณ์มาก่อน

การหลอกลวงการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวถือเป็นการหลอกลวงที่มีการรายงานมากที่สุดเป็นอันดับสาม โดยมีรายงานการหลอกลวงทั้งหมด 4,517 ครั้ง

นักต้มตุ๋นใช้วิธีการใดบ้าง?

ในไตรมาสที่แล้ว Scamwatch พบว่าข้อความ อีเมล และโทรศัพท์เป็นวิธีติดต่อสามอันดับแรกที่นักต้มตุ๋นใช้

Scamwatch ยังพบว่าแม้ว่าการสูญเสียจากการหลอกลวงจะลดลง แต่ก็มีรายงานเพิ่มขึ้นสำหรับวิธีการติดต่อทั้งสามนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

มีการหลอกลวงทางข้อความเพิ่มขึ้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ การหลอกลวงทางอีเมลเพิ่มขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์ และการหลอกลวงทางโทรศัพท์เพิ่มขึ้น 5.7 เปอร์เซ็นต์

คุณจะป้องกันตัวเองจากการหลอกลวงได้อย่างไร?

ACCC แนะนำให้ใช้แนวทาง "หยุด คิด และป้องกัน" หากคุณได้รับข้อความที่ดูน่าสงสัย

มันเป็นแนวทางที่ Skilton ก็สนับสนุนเช่นกัน

“ฉันไม่สามารถประมาทได้เลยว่าธนาคารจะไม่โทรหาคุณและโอนเงินของคุณเข้าบัญชีที่ปลอดภัย” เธอกล่าว

สำหรับชาวออสเตรเลียที่กำลังมองหาสถานที่ที่จะลงทุน Skilton สนับสนุนให้พวกเขาแน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังลงทุน

“ฉันขอแนะนำให้ผู้บริโภคไม่ลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่พวกเขาไม่เข้าใจ” เธอกล่าว "พูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่เชื่อถือได้ และอาจสะท้อนความคิดเหล่านั้นออกไป"

สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่สามารถทำได้เพื่อป้องกันการหลอกลวงคือต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ ได้รับการปกป้องด้วยรหัสผ่านหรือข้อมูลไบโอเมตริกที่รัดกุม

“เราทำธุรกรรมจำนวนมากในแต่ละวันบนโทรศัพท์มือถือของเรา” Skilton กล่าว "เมื่อคุณมีสิ่งเหล่านี้ คุณจะต้องดูแลปกป้องอุปกรณ์นี้"