'แฟร์เวิร์ก' ชี้ ผู้ขับขี่อูเบอร์ไม่ใช่ลูกจ้าง

NEWS: คณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์กตัดสินว่า "อูเบอร์" ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่เพื่อให้บริการในลักษณะลูกจ้าง-นายจ้าง

The Fair Work Ombudsman says Uber does not have a traditional employment relationship with drivers.

คณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก ระบุว่า อูเบอร์ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่เพื่อให้บริการแบบลูกจ้าง Source: AAP

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can read the full article in English 

สหภาพแรงงานออสเตรเลียโจมตีคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก หลังมีคำตัดสินว่า อูเบอร์ (Uber) บริการรถร่วมโดยสาร ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่เพื่อให้บริการ (พาร์ทเนอร์) ในลักษณะลูกจ้างและนายจ้าง

การตัดสินใจของคณะกรรมาธิการ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มิ.ย.) เป็นผลสืบเนื่องจากการสอบสวนถึงกรณีความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายในการประกอบการ

“น้ำหนักของหลักฐานจากการสอบสวนของเรานั้นได้ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง อูเบอร์ ออสเตรเลีย และผู้ขับขี่ให้บริการนั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในลักษณะลูกจ้างและนายจ้าง” นางแซนดรา พาร์กเกอร์ (Sandra Parker) จากคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.)

“เพื่อให้ความสัมพันธ์ในลักษณะลูกจ้างเกิดขึ้น ศาลได้ตัดสินว่า อย่างน้อย จะต้องมีข้อผูกมัดสำหรับลูกจ้างในการทำงานเมื่อนายจ้างร้องขอ" แถลงการณ์จากแฟร์เวิร์กระบุ

นางพาร์กเกอร์ กล่าวว่า ผลจากการสอบสวนโดยแฟร์เวิร์กนั้น หมายความว่า แฟร์เวิร์กจะไม่ดำเนินการใดๆ ในลักษณะความสัมพันธ์แบบลูกจ้างและนายจ้างกับ อูเบอร์ ออสเตรเลีย และผู้ขับขี่เพื่อให้บริการ

ทั้งนี้ อูเบอร์ ซึ่งมองผู้ขับขี่ให้บริการว่าเป็นผู้รับจ้างอิสระ (Independent contractor) เปิดรับการตัดสินใจของแฟร์เวิร์กในครั้งนี้ และระบุว่า การได้เป็น "นายของตัวเอง" นั้น คือเหตุผลที่ผู้คนเลือกที่จะมาขับรถให้บริการกับอูเบอร์ตั้งแต่แรก

"พวกเขาเลือกว่า เมื่อไหร่ และที่ไหน ที่พวกเขาจะขับรถเพื่อให้บริการ พาร์ทเนอร์ร่วมขับรถมากกว่า 90 เปอร์เซนต์บอกเราว่า ความยืดหยุ่นในการทำงาน เป็นกุญแจสำคัญในการใช้งานแอปพลิเคชันอูเบอร์" โฆษกหญิงของอูเบอร์แถลงกับเอเอพี

แต่ทางสมาคมผู้ขับขี่รถร่วมบริการแห่งออสเตรเลีย (Ride Share Drivers’ Association of Australia) และสหภาพแรงงานคมนาคม (The Transport Workers Union) ระบุว่า การตัดสินใจโดยแฟร์เวิร์กนั้น จะเปิดช่องโหว่ให้ผู้รับจ้างได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวนั้นไม่ใช่จุดจบ และผู้ขับขี่ยังสามารถดำเนินการใด ๆ ทางกฎหมายกับอูเบอร์ได้

"การตัดสินใจ (โดยแฟร์เวิร์ก) จะทำให้หลายๆ อย่างยากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ให้บริการในออสเตรเลีย บรรดาบริษัทเหล่านี้กำลังจะบอกว่า เราไม่ต้องเป็นห่วงอะไรกับคนขับในฐานะลูกจ้าง นั่นหมายถึงความรับผิดชอบที่จะหายไป" นายเลส จอห์นสัน เลขาธิการสมาคมผู้ขับขี่รถร่วมบริการแห่งออสเตรเลียกล่าวกับเอเอพี

โดยนายจอห์นสันระบุว่า ผู้ขับขี่ให้บริการที่ “อยู่ในกลุ่มเสี่ยง” อาจถูกไล่ออกโดยไม่ได้รับรู้ล่วงหน้า และไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ใดๆ

ด้านสหภาพแรงงานคมนาคม ระบุว่า การตัดสินของแฟร์เวิร์กนั้น หมายถึง ผู้ขับขี่ ซึ่งได้ค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่สามารถขอเจรจาเพิ่มค่าแรง ร้องขอการสนับสนุนยามเจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งได้รับเงินซูเปอร์ แต่ทางสหภาพฯ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีของบริษัท Foodora เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ผู้ขับขี่ส่งอาหารได้รับการจ่ายเงินคืนราว 1,700 คน มูลค่ารวมราว 2.3 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ชนะการต่อสู้กรณีถูกปลดออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อปลายปี 2018 ซึ่งทางสหภาพฯ ให้การสนับสนุน

โดยคณะกรรมาธิการแฟร์เวิร์ก ได้ตัวสินว่า นายจอห์น คลูเกอร์ เป็นลูกจ้างของบริษัท ไม่ใช่ผู้รับเหมา

“เรารู้ว่า ปัจจัยในการควบคุมตัวเดียวกันนี้มีผลกับผู้ร่วมขับรถกับอูเบอร์ และผู้รับจ้างทั่วไปในธุรกิจแบบ Gig economy” นายไมเคิล เคน (Michael Kaine) เลขาธิการสหภาพฯ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 มิ.ย.)

ผศ.ซาราห์ เคน (Assoc. Prof. Sarah Kaine) จากสถาบันธุรกิจ UTS เห็นแย้งกับการตัดสินของแฟร์เวิร์กในกรณีอูเบอร์ โดยระบุว่ามันเป็นเรื่องแปลกเมื่อเทียบกับในสหราชอาณาจักร และเป็นการตัดสินใจที่ “ไม่แน่วแน่”

“เรายังไม่เห็นจุดจบของการต่อสู้ในเรื่องนี้ องค์กรณ์และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีเดิมพัน จะยังคงท้าทายต่อไป (กับอูเบอร์)” ผศ. เคน กล่าวกับโทรทัศน์เอบีซี

Share
Published 12 June 2019 1:07pm
Updated 12 June 2019 6:10pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP


Share this with family and friends