ขณะที่ชาวออสเตรเลียต่างยินดีกับการเริ่มผ่อนคลายกฎข้อบังคับต่างๆ และเริ่มออกพบปะกัน โดยมีหลายๆ คนออกฉลองวันแม่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 พ.ค) ทางเจ้าหน้าที่การแพทย์สูงสุดก็ออกเตือนว่าเรื่องนี้จะยังไม่จบไปอีกนาน
ในการให้ข้อมูลประจำวัน ศาสตราจารย์เบรนแดน เมอร์ฟี กล่าวเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) ว่า ประเทศออสเตรเลียมีการบันทึกกรณีของโรคโควิด-19 แล้วเป็นจำนวน 6,941 ราย โดยมีผู้ป่วยจำนวน 14 รายที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
ด้านตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นยังคงเดิมที่ 97 ราย หลังจากมีรายงานว่าการเสียชีวิตที่บ้านพักคนชรานิวมาร์ช (Newmarch House) ที่นครซิดนีย์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19
ศาสตราจารย์เมอร์ฟีกล่าวว่า “ผมต้องการจะเน้นย้ำอย่างจริงๆ ว่าเราจำเป็นจะต้องปกป้องผู้ที่เปราะบางเหล่านี้ในชุมชนของเรา ผู้ซึ่งเป็นคนชราและผู้มีภาวะเรื้อรังต่างๆ”
“ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับพวกเราคนวัยผู้ใหญ่ที่แอคทีฟและสามารถเดินทางได้ ผู้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ที่จำต้องทำเรื่องจำเป็นต่างๆ เพื่อปกป้องผู้สูงอายุและผู้มีภาวะเรื้อรัง”
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ได้ประกาศแผนสามระยะเพื่อผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ ทั่วประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้ผ่านเสียงสนับสนุนจากคณะผู้นำแห่งชาติ (National Cabinet) แล้ว แม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐและแต่ละมณฑลว่าจะนำระยะต่างๆ เหล่านี้มาปฏิบัติใช้เมื่อไร
Queensland restrictions have eased, allowing gatherings of up to 10 people together in a public space. Source: AAP
รัฐวิกตอเรียนั้นไม่รีบร้อนที่จะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม แต่คาดว่ามุขมนตรีนายแดเนียล แอนดรูส์ ประกาศวันนี้ (10 พ.ค.) ว่าจะอนุญาตให้ครัวเรือนต่างๆ สามารถมีผู้มาเยี่ยมเยียนได้ไม่เกิน 5 คน และโรงเรียนต่างๆ คาดว่าจะสามารถทำการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ภายในสิ้นภาคการศึกษานี้ แต่ขณะนี้ยังคงให้นักเรียนเรียนออนไลน์จากบ้านไปก่อน
ส่วนชาวรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้นคาดการณ์กันว่าจะสามารถกลับไปทำงานได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม เป็นต้นไป ซึ่งทั้งผับและคาเฟ่ต่างๆ ก็จะเปิดให้บริการได้ในวันเดียวกัน และจำนวนของผู้ที่จะสามารถมารวมตัวกันได้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจาก 10 คนเป็น 20 คน
การเดินทางไปยังสถานดูแลคนชราในรัฐแทสมาเนียจะได้รับการผ่อนปรนลงตั้งแต่วันนี้ (10 พ.ค.) เป็นต้นไป โดยผู้เยี่ยมเยือนเป็นจำนวนไม่เกินสองคนจะสามารถเดินทางไปเยี่ยมได้หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนพิธีศพนั้นจะได้รับอนุญาตให้มีจำนวนผู้มาแสดงความเสียใจได้ไม่เกิน 20 คน และสวนสาธารณะและอุทยานต่างๆ ก็จะเปิดให้บริการหลังจากที่เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) รัฐดังกล่าวไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นติดต่อกันอีกหนึ่งวัน
อ่านเพิ่มเติม
นายกฯ ออสเผยแผนคลายล็อกดาวน์ภายในกรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม ภาพของชาวรัฐเซาท์ออสเตรเลียจำนวนหลายพันคนตามห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาเก็ตทั่วนครแอดิเลดซึ่งปรากฏออกไป ก็ได้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นถึงความชะล่าใจของผู้คนในช่วงการระบาดใหญ่นี้
เมื่อมีจำนวนคนกลับไปทำงานเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ศาสตราจารย์เมอร์ฟีก็กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องลดความแออัดตามพื้นที่ต่างๆ ของการขนส่งมวลชนลง เขายังต้องการให้นายจ้างนั้นพิจารณาเวลาเริ่มงานและเลิกงานที่ไม่ตรงกันให้กับลูกจ้าง ทว่าในตอนนี้หากใครสามารถทำงานจากที่บ้านได้ก็ควรจะทำงานที่บ้านไปก่อน
เขาเสริมว่า “การที่ชาวออสเตรเลียแต่ละคนนั้นจะยึดถือปฏิบัติด้วยตัวของตัวเองตามวิถีที่เรียกว่าความปกติแบบใหม่ (new normal) มากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้รัฐบาลต่างๆ นั้นกล้าที่จะทำการผ่อนคลายกฎข้อบังคับของขั้นตอนสามระยะของเรามากยิ่งขึ้นเท่านั้น”
“ดังนั้น สารของผมในวันนี้ก็คือ มันขึ้นอยู่กับพวกเราทุกๆ คนที่จะปฏิบัติตามวิถีความปกติแบบใหม่นี้ โดยแต่ละคนนั้นต่างก็มีความรับผิดชอบในเรื่องนี้”
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร ให้ตรวจสอบข้อจำกัดในรัฐของคุณเกี่ยวกับการรวมกลุ่มกัน
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ทูตออสเตรเลียชื่นชมที่ไทยควบคุมวิกฤตโควิด-19 ได้ดี
