นายกฯ เยือนลิสมอร์ขณะชาวบ้านเดือดที่ความช่วยเหลือมาช้า

Prime Minister Scott Morrison tours the Norco Ice Cream Factory in Lismore, NSW

Prime Minister Scott Morrison tours the Norco Ice Cream Factory in Lismore, NSW Source: AAP

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ได้ไปเยี่ยมเมืองลิสมอร์ที่ประสบภัยพิบัติ กว่าหนึ่งสัปดาห์หลังเหตุน้ำท่วมทิ้งร่อยรอยแห่งความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่ชาวบ้านที่นั่นไม่พอใจกับความช่วยเหลือที่มาช้า


กดฟังรายงานข่าว
LISTEN TO
Anger boils over as PM tours flood-damaged Lismore image

นายกฯ เยือนลิสมอร์ขณะชาวบ้านเดือดที่ความช่วยเหลือมาช้า

SBS Thai

11/03/202208:09
นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ได้ไปเยี่ยมเมืองลิสมอร์ที่ประสบภัยพิบัติ กว่าหนึ่งสัปดาห์หลังเหตุน้ำท่วมทิ้งร่อยรอยแห่งความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์

นายมอร์ริสันประกาศให้งบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยหลังเขาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งทำให้รัฐบาลกลางมีอำนาจในการแทรกแซงและส่งทรัพยากรต่างๆ ไปช่วยเหลือ

ความโกรธกำลังเดือดพล่านในเมืองลิสมอร์เกี่ยวกับการขาดความเร่งด่วนในการตอบสนองของรัฐบาลต่อน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เมืองนี้

ชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อประท้วงก่อนการเดินทางมาเยือนตามแผนของนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน

หลังจากแยกตัวเพื่อกักโรคโควิด-19 เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดนายมอร์ริสันก็ออกจากบ้านได้และมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อเยี่ยมพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักในนิวเซาท์เวลส์
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลสหพันธรัฐได้จ่ายเงิน 238.9 ล้านดอลลาร์เป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ หรือ disaster payment ซึ่งจ่ายให้แก่ประชาชนกว่า 200,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้

แต่ตอนนี้นายกรัฐมนตรีกำลังประกาศว่ารัฐบาลสหพันธรัฐจะให้เงินช่วยเหลือเพิ่มอีก

“ในพื้นที่เขตเทศบาลของริชมอนด์ แวลเลย์ (Richmond Valley) ลิสมอร์ (Lismore) และคลาเรนซ์ แวลเลย์ (Clarence Valley) เราจะขยายการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเพิ่มให้อีก 2 งวด นั่นคือ 50 ล้านดอลลาร์ที่จะเข้ากระเป๋าของผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยตรง” นายมอร์ริสัน กล่าว

รัฐบาลยังได้จัดงบประมาณ 25 ล้านดอลลาร์สำหรับการบรรเทาทุกข์จากเหตุฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร และบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน

และรัฐบาลได้ประกาศให้ภัยพิบัติครั้งนี้เป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งทำให้รัฐบาลมีอำนาจในการจัดส่งทรัพยากรที่จำเป็นเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยไม่ต้องรอให้รัฐบาลของรัฐร้องขอความช่วยเหลือเสียก่อน

แต่นายมอร์ริสันไม่ได้ไปพบปะกับชาวบ้านทั่วไปที่ลิสมอร์

แต่เป็นการไปเยือนที่จัดอย่างระมัดระวังให้มีการแถลงข่าวบนเวที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการเผชิญหน้าอย่างกระอักกระอ่วนใจ เหมือนที่นายมอร์ริสันเคยประสบที่เมืองโคบาร์โก (Cobargo) เมื่อสองปีก่อนหลังเหตุไฟป่า แบล็ก ซัมเมอร์ (Black Summer)
Scenes in South Lismore, NSW, Wednesday , March 9, 2022.
Scenes in South Lismore, NSW, Wednesday , March 9, 2022. Source: AAP Image/Jason O'Brien
ในตอนนั้น ชาวบ้านแสดงความโกรธเคืองอย่างไม่ยั้งต่อการตอบสนองต่อเหตุภัยพิบัติของนายกรัฐมนตรี

เมื่อนายมอร์ริสันถามชาวบ้านว่า "คุณเป็นยังไงบ้าง" แต่ชาวบ้านกลับตอบว่า “ฉันจะจับมือคุณถ้าคุณให้งบมากขึ้นกับองค์กรดูแลด้านไฟป่า” ขณะที่ชาวบ้านอีกคนบอกกับนายมอร์ริสันว่า “คุณมันโง่งี่เง่าจริง ๆ” และโห่ไล่เขาปิดท้าย

แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ซ้ำสองได้ แต่ความโกรธเคืองในหมู่ชาวบ้านมีความคล้ายคลึงกัน

หลายคนกล่าวว่าพวกเขารู้สึกเหมือนถูกทางการทอดทิ้ง พร้อมบอกว่าการเดินทางมาเยือนของนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นการกระทำที่น้อยเกินไปหรือสายเกินไป

สำนักงานที่ตั้งอยู่ในเมืองลิสมอร์ของ ดาริล ไคลน์ ถูกทำลายหลังจมอยู่ใต้น้ำที่สูงสองเมตร

"ผมแค่คิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขาห่วงแต่ฐานเสียงของเขาที่ซิดนีย์ เขาไม่ใส่ใจใยดีพวกเรา เขาไม่ได้ห่วงใยพวกเราเลย เพราะมันไม่ใช่ปีเลือกตั้ง เอ๊ะหรือว่ามันเป็นปีเลือกตั้ง ถ้าอย่างนั้น หวังว่าเขาจะไม่ได้รับเลือกตั้งอีก เพราะจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อพวกเราเลย เขามาที่นี่เพื่อมาดู แต่ไม่ได้มาพบพวกเรา ไม่ได้มาดูปัญหาจริง ๆ ของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งแย่มาก ๆ" ดาริล ไคลน์ กล่าว

หลุยส์ โตโก กล่าวว่า ชาวบ้านที่นั่นต้องเป็นผู้ริเริ่มออกไปช่วยเหลือผู้คนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยจากความร่วมมือกันของอาสาสมัครอยู่หลายวัน ก่อนที่กองทัพออสเตรเลียจะเข้ามายังพื้นที่
ADF personnel assist with the clean up after the floods in Lismore, NSW,
Australian Defence Force Personel assist with the clean up after the floods in Lismore, NSW. Source: AAP
เธอตำหนินายมอร์ริสันว่าขาดความเป็นผู้นำ และบอกว่าการมาเยี่ยมพื้นที่ของเขาในตอนนี้ทำให้แย่ลงไปอีก

"เขาจะเสนออะไรให้กับเราพวกเราได้ พวกเราที่ทำงานในพื้นที่อย่างไม่ได้หยุดหย่อนในฐานะจิตอาสาในชุมชน เขาจะเสนออะไรให้เราได้ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องตลกที่สุด" หลุยส์ โตโก กล่าว

เทรซี นิวตัน กล่าวว่าร้านเสริมสวยของเธอ 'เสียหายยับเยิน' จากน้ำท่วม และเธอก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง

เธอบอกว่าความช่วยเหลือนั้นช้าเกินไป แต่ก็ยังไม่สายที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถยืนบนขาของตนได้อีกครั้ง

"เราต้องการความช่วยเหลือ และเราต้องการที่จะไม่ต้องฝ่าฟันขั้นตอนต่าง ๆ ที่ยุ่งยากและเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องทำ และฉันรู้ว่ารัฐบาลไม่สามารถแค่โยนเงินให้พวกเราได้ มันมีกระบวนการ แต่พวกเขาต้องทำให้มันซับซ้อนน้อยลง และทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับเรา... ณ จุดนี้ มีหลายคนที่เลิกพยายามไปแล้ว" เทรซี นิวตัน กล่าว

นาย สกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่าเขาเห็นใจผู้ประสบอุทกภัย และกล่าวว่าความโกรธที่พวกเขารู้สึกเป็นปฏิกิริยาทั่วไปที่เกิดขึ้นหลังประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ

"ผมเข้าใจดีถึงความคับข้องใจ ผมเข้าใจถึงความโกรธ ความผิดหวัง และความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง แต่เราจะทำอะไรกับเรื่องนี้ เราจะฟื้นฟู เราจะสนับสนุน เราจะให้เงินทุน และอย่างที่ผมกล่าวไปแล้วคือ เราจะทำให้แน่ใจว่า เราจะนำความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านการเงินไปให้ถึงกระเป๋าของผู้คน ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วขณะนี้ เกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ และเราจะทำเช่นนี้ต่อไป" นายมอร์ริสัน กล่าว
เขายังได้กล่าวปกป้องการตอบสนองต่อเหตุภัยพิบัติของรัฐบาลของเขาว่า

"ผมคิดว่าเราต้องมองตามความเป็นจริงว่า เมื่อเกิดภัยธรรมชาติใด ๆ เราไม่มีทรัพยากรหรือมีเจ้าหน้าที่กองทัพออสเตรเลียที่นั่งคอยท่าอยู่ไม่ไกล ผมหมายถึงว่า เราต้องรวบรวมทรัพยากร เราต้องโยกย้ายคนเหล่านั้นมา และความจริงแล้วกองทัพออสเตรเลียได้ช่วยเหลือผู้คนทางเฮลิคอปเตอร์ ช่วยพวกเขาจากบนหลังคาบ้านเมื่อวันจันทร์" นายมอร์ริสันกล่าว

"แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติใดๆ ทุกคนมีบทบาทที่ต้องทำ และการที่บอกว่ารัฐบาลเท่านั้นที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินนั้น ผมไม่คิดว่าชุมชนเห็นด้วย และพวกเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากสิ่งที่พวกเขาทำอย่างกล้าหาญ" 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด

หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  

Share