เจ้อ้วน เมลเบิร์น และการนำทุเรียนมาขายในออสเตรเลีย

BS Cover Interview Thai durian seller 02.jpg

"ในความรู้สึกพี่นะคะ พี่เชื่อว่ายังไงผลไม้ไทยของเราก็นัมเบอร์วัน" Credit: Anonglak Dimkovski

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

จากความอยากรับประทานทุเรียน ผลไม้หายากในออสเตรเลีย คุณอนงค์ลักษณ์ (อลิส) ดิมคอฟสกิ หรือเจ้อ้วน เมลเบิร์น เล่าถึงแรงบันดาลใจจากเป็นผู้ซื้อ จนวันนี้นี้เป็นผู้นำเข้าทุเรียนส่งขายในหลายรัฐที่ออสเตรเลีย

กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน

คุณอนงค์ลักษณ์ (อลิส) ดิมคอฟสกิหรือ “เจ้อ้วน เมลเบิร์น” เล่าถึงวันหนึ่งที่ได้รับประทานทุเรียนที่ออสเตรเลีย ทำให้หายคิดถึงบ้าน จากนั้นเป็นตัวแทนขายในหมู่เพื่อนๆ

พอได้ลองทานครั้งแรกแล้วแบบ หืม ทุเรียนสามารถเอามาขายที่ออสเตรเลียได้เหรอ

Photo-slice of durian ready for sell-pexels-hong-son.jpg

ทุเรียนที่ผ่าเพื่อแกะนำไปขาย Credit: Pexels/Hong Son

ตอนได้รับประทานครั้งแรกๆ รู้สึกว่าทุเรียนมีราคาแพง แต่กลับได้ในปริมาณน้อย

“พอมาถึงจุดจุดนึง พี่อยากจะควบคุมในเรื่องของคุณภาพ น้ำหนัก และราคา ให้ลูกค้าได้กินในสิ่งที่เขาซื้อไป"

ก็เลยแบบว่า ถ้างั้นเดี๋ยวลองเข้ามาเองดีกว่า

ด้วยความอยากควบคุมเรื่องคุณภาพและน้ำหนัก เจ้อ้วนจึงคิดนำเข้าทุเรียนมาขายในออสเตรเลีย Credit: Supplied/Anonglak Dimkovski

สำหรับขั้นตอนการนำเข้าทุเรียนมาขายที่ออสเตรเลียซึ่งการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) ค่อนข้างเข้มงวด เจ้อ้วนกล่าวว่าหากผ่านกระบวนการตามมาตรฐานแล้วไม่ใช่เรื่องยาก

เจ้อ้วนยังเล่าถึงครั้งที่โดนตรวจของทั้ง 1,200 แพ็คในล็อตที่ส่งมาออสเตรเลียด้วย

โดยเริ่มแรกเจ้อ้วนขายทุเรียนทางออนไลน์ก่อนที่จะไปเสนอส่งขายให้กับตามร้าน จนตอนนี้ส่งขายไปยังรัฐอื่นด้วย

“ณ ตอนนั้นพี่ยังไม่รู้ว่าจะไปฝากขายที่ไหน เพราะว่าเราเป็นแบรนด์น้องใหม่ ไม่รู้ว่าทางร้านจะรับของเราไหม จะถูกใจลูกค้าไหม พี่ก็เลยยิงตรงไดเร็กถึงลูกค้า"

กลายเป็นว่าล็อตแรกบูมเลยค่ะ ขายดีมาก

นอกจากจะมีลูกค้าคนไทยแล้วก็มีลูกค้าชาติอื่นด้วย

“ฝรั่ง ชาวต่างชาติก็เริ่มกินทุเรียนแล้วค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัวที่เป็นคนไทยหรือมีภรรยาเป็นคนไทยค่ะ”

เจ้อ้วนเล่าถึงครั้งที่เธอให้คนในครอบครัวลองทานทุเรียน ซึ่งคนแรกคือสามีของเธอ เคล็ดลับการบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ และความแตกต่างระหว่างทุเรียนของออสเตรเลียและของไทย