‘คนทำความสะอาด’ เบื้องหลังความอุ่นใจในวิกฤตโควิด

Olinga Services founder Badi Mahabat with some of his team.

Olinga Services founder Badi Mahabat with some of his team. Source: SBS Sandra Fulloon

ในช่วงที่ออสเตรเลียประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง พนักงานทำความสะอาดต้องทำงานมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณจุดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 Small Business Secrets ของเอสบีเอส พูดคุยกับบริษัททำความสะอาดแห่งหนึ่งซึ่งให้โอกาสคนทำงานที่ตกงานจากธุรกิจอื่น ๆ ในช่วงวิกฤตโควิด


LISTEN TO
Cleaners help to keep Sydney's essential workers safe during lockdown image

‘คนทำความสะอาด’ เบื้องหลังความอุ่นใจในวิกฤตโควิด

SBS Thai

19/07/202107:48
คุณบรูนา บริงเกิล (Bruna Bringel) เชฟวัย 27 ปี จากประเทศบราซิล เธอตกงานจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อนครซิดนีย์กลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์
เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มกระทบ พวกเขาช่วยฉันไว้ เพราะที่นี่ฉันได้รับโอกาสอีกครั้ง ตอนที่สถานการณ์โควิดกระทบเมื่อปีก่อน ฉันตกงานเป็นเวลา 5 เดือน พวกเขาทำให้ฉันกลับสู่การทำงานอีกครั้ง และหาเงินเลี้ยงตัวเองได้
ในตอนนี้ เธอเป็นหนึ่งในทีมทำงานที่หลากหลาย ซึ่งประกอบด้วยพนักงานชั่วคราว (แคชวล) ราว 600 คน ซึ่งได้รับการจ้างงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

หนึ่งในงานของเธอ คือการทำความสะอาดพื้นที่ซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เช่น สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในนครซิดนีย์อย่าง หาดบอนได (Bondi Beach) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ประจำวันในงานของเธอ 
เราทำความสะอาดราวจับทุกราว ป้ายหยุดรถประจำทางทุกป้าย เราทำความสะอาดถังขยะต่าง ๆ รวมถึงอะไรก็ตามที่ผู้คนอาจสัมผัสมัน และแจกหน้ากากอนามัยฟรีให้กับผู้คนบนท้องถนนด้วย คุณบริงเกิล กล่าว
พนักงานเหล่านี้ทำงานให้กับ คุณบาดี มาฮาบาท (Badi Mahabat) ผู้ลี้ภัยจากไลบีเรีย ในพื้นที่แอฟริกาตะวันตก และเป็นผู้นับถือศาสนาบาไฮ

คุณมาฮาบาท ก่อตั้งบริษัทโอลินกา (Olinga) เมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของธุรกิจรับจ้างพนักงานชั่วคราว ที่เสนองานให้กับผู้ลี้ภัย และผู้อพยพย้ายถิ่น 

“ผมเดาว่า น่าจะเป็นการผสมผสาน ระหว่างภูมิหลังทางศาสนา และประสบการณ์ที่เรามีต่อชุมชนและรัฐบาลของออสเตรเลีย ที่พยายามและต้องการที่จะตอบแทนให้กับผู้คนที่นี่” คุณมาฮาบาท กล่าว

เขากล่าวว่า การทำให้คนทำงานที่มีความจำเป็นปลอดภัยในการเดินทางแต่ละวันนั้น เป็นเรื่องท้าทาย ขณะที่รายชื่อจุดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อจุดใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ   
รถไฟนั้น เป็นจุดใหญ่ในยุทธ์ศาสตร์ของหน่วยงานขนส่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ของเรา และการปกป้องผู้โดยสาร เมื่อช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตู้โดยสารไปมากกว่า 2.6 ล้านตู้ คุณมาฮาบาท กล่าว
แต่ด้วยพนักงานจำนวนมาก ที่เปลี่ยนผ่านมาทำงานนี้จากอุตสาหกรรมอื่น ๆ สหภาพแรงงานระบุว่า มีความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องจัดการ

สหภาพแรงงาน (The United Workers Union) ระบุว่า จากผลสำรวจล่าสุด ที่ได้มีการสอบถามพนักงานทำความสะอาดโรงเรียนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ พบว่าร้อยละ 66 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดมีเวลาไม่พอในการทำความสะอาดในบริเวณที่จำเป็นขณะที่ร้อยละ 60 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด บอกว่า พวกเขาต้องทำงานโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) อย่างเหมาะสม

คุณลินดอล ไรอัน (Lyndal Ryan) จากสหภาพแรงงาน กล่าวว่า จำเป็นจะต้องมีการป้องกันทุกรูปแบบสำหรับพนักงานทำความสะอาด 
พวกเขาเป็นเสมือนกองทัพซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้าตรู่ และกลางดึก เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเราที่เหลือนั้นปลอดภัย งานของพวกเขาไม่มีใครมองเห็นหรือสังเกตจนกระทั่งถูกมองข้ามไป
"ทุกวันนี้ พนักงานทำความสะอาดไปทำงานโดยเอาชีวิตของพวกเขาไปอยู่ในความเสี่ยง เพื่อให้เราทุกคนปลอดภัย พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน พวกเขาควรอยู่แถวหน้าของคิวรอฉีดวัคซีน และเราจะผลักดันให้คนทำงานที่มีความสำคัญทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนโดยทันที" คุณไรอัน กล่าว

เนื่องจากจำนวนจุดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อที่เป็นร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มจำนวนมากขึ้น มีเสียงเรียกร้องให้คนทำงานในร้านค้าปลีก ได้รับการจัดลำดับให้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน

คุณพอล ซาห์รา (Paul Zahra) ประธานบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งออสเตรเลีย (Australian Retailers Association) กล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนนั้นจำเป็นต้องได้รับการเร่งให้เร็วขึ้นสำหรับคนทำงานในร้านค้าปลีก
พวกเขาเอาความปลอดภัยส่วนบุคคลเข้าไปอยู่ในความเสี่ยง และพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรก เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถควบคุมการติดเชื้อนี้ได้ คุณซาห์รา กล่าว
รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า พนักงานทำความสะอาด ซึ่งรวมถึงพนักงานทำความสะอาดแบบสัญญาจ้าง ได้รับการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนระยะ 1A ตามแผนของโครงการเปิดตัววัคซีนโควิด-19 ระดับชาติ ในส่วนของพนักงานเพื่อสนับสนุนคนทำงานด้านสุขภาพ 

นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 10 ล้านโดส และมีประชากรร้อยละ 13.6 จากทั้งประเทศ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างสมบูรณ์ 

โดยในกลุ่ม 38 ประเทศสมาชิกโออีซีดี (OECD) หรือองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ออสเตรเลีย ถือเป็นประเทศที่เปิดตัววัคซีนล่าช้าที่สุดเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากประเทศนิวซีแลนด์

คุณมาฮาบาท จากบริษัททำความสะอาดโอลินกา (Olinga) กล่าวว่า กลยุทธ์ในการป้องกันส่วนบุคคลนั้น เป็นกุญแจสำคัญในการประกันความความปลอดภัยสำหรับพนักงานของเขา

“พนักงานของเราตระหนักถึงอันตรายในงานที่พวกเขากำลังทำ โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ PPE อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นชุดป้องกัน หน้ากาก N95 ถุงมือ และแว่นตาป้องกันด้วย” คุณมาฮาบาท กล่าว

สำหรับคุณบรูนา บริงเกิล ในตอนนี้เธอได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างสมบูรณ์ และรู้สึกมั่นใจในการทำให้คนอื่น ๆ ปลอดภัย

“มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นระหว่างที่ฉันทำความสะอาดผิวสัมผัสต่าง ๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดีหลังจากที่มีอุปกรณ์ PPE แล้ว หลังจากรู้วิธีรับมือกับผู้คนแล้ว ฉันรู้สึกปลอดภัยจริง ๆ มันทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิใจในการได้ช่วยเหลือชุมชนให้กลับมาสู่วิธีชีวิตปกติอีกครั้ง” คุณบริงเกิล กล่าว


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share