เด็กๆ ในออสเตรเลียกว่า 800,000 คน ใช้ชีวิตบนความยากจนในวิกฤติเศรษฐกิจ

Saba Al-Khamisi is a recipient of JobSeeker (SBS Supplied).jpg

คุณ ซาบา อัล-คามิสิ รับเงินช่วยเหลือจาก JobSeeker พูดถึงความยากลำบากในช่วงวิกฤติเศรษบกิจ

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

รายงานประจำปีล่าสุดจาก องค์กรแองกลิแคร์ (Anglicare Australia) ระบุว่าครอบครัวที่ได้รับเงินช่วยเหลือจาก Centrelink ต้องเผชิญกับความอัตคัตมากขึ้น หลายครอบครัวต้องเลือกระหว่างการใช้เงินเพื่อจ่ายค่าเช่า ซื้ออาหารหรือยารักษาโรค รายงานดังกล่าวยังพบว่า มีจำนวนเด็กที่ยากจนกว่า 800,000 คน ในออสเตรเลีย


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน


คุณ ซาบา อัล-คามิสิ รับเงินช่วยเหลือจาก JobSeeker ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนรายปักษ์ของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือ ผู้ว่างงานและกำลังมองหางาน

เธอเปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดของเธอว่า เธอต้องย้ายบ้านเพราะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ เธอเล่าให้ เอสบีเอสนิวส์ฟังว่า

 "ฉันต้องจ่ายค่าเช่า $550 ต่ออาทิตย์ แต่ฉันได้เงินช่วยเหลือจาก Centrelink $600 ต่อสองอาทิตย์ แล้วฉันควรจะทำอย่างไร? ฉันจะใช้ชีวิตในแต่ละวันของฉันอย่างไง ฉันจะต้องไม่ซื้อยาไหม หรือ ต้องอดอาหารหรือเปล่า?”

คำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องเผชิญอยู่ เช่นเดียวกับ คุณ ซาบา และพวกเขาต้องอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก คุณ ซานา เปิดเผยว่า
สุขภาพจิตของฉันแย่ลง ฉันโกรธ ฉันเครียดตลอดเวลา เพราะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไรเพื่อมีชีวิตรอด
คุณ ซาบา อัล-คามิสิ เธอเปิดเผยสถานการณ์ส่วนตัวกับเอสบีเอสนิวส์

ข้อมูลจากรายงานฉบับใหม่โดยองค์กร Anglicare Australia ชี้ว่า หลายๆ คนในประเทศนี้ ตกอยู่สถานการณ์เดียวกับ คุณ ซาบา

รายงานค่าครองชีพประจำปีดังกล่าวพบว่า หลังจากหักค่าเช่า ค่าเดินทาง และอาหารแล้ว ผู้ปกครองเลี้ยงเดี่ยว ที่ได้รับการสนับสนุนจาก เงิน Parenting Payment ของรัฐบาล จะมีเงินเหลือเพียง 3 ดอลลาร์ต่อวัน

ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน และมีทั้งพ่อและแม่ 2 ที่อยู่ในโครงการ Jobseeker มีรายได้ลดลง 17 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

และคนโสดที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่ได้รับเงินสนับสนุนในโครงการดังกล่าว จะต้องจ่ายเงินเอง เพิ่มขึ้นราว 135 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

 คุณ เคซี แชมเบอร์ ผู้บริหารระดับสูงของ Anglicare กล่าวว่าผู้คนกำลังประสบกับความเครียดขั้นรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจ คุณ แชมเบอร์ อธิบายว่า

"วิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ผู้คนตกอยู่ในความาตึงเครียด ด้านสุขภาพจิต ในเมื่อทุกๆ วัน คุณต้องคิดว่า คุณจะมีกำลังเลี้ยงตัวเองและลูกๆ ของคุณอย่างไร จะทำอย่างไรให้ยังมีที่อยู่อาศัย"


แม้จะว่า จากรายงานจะชี้ให้เห็นสถิติที่น่าตกใจ แต่คุณ คุณ เคซี แชมเบอร์ กล่าวว่าในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขดังกล่าวไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งความเป็นจริงมันเลวร้ายกว่ามาก

"เราเห็นตัวเลขเฉพาะแค่ค่าใช้จ่ายพื้นฐานรายสัปดาห์เท่านั้น ยังไม่ได้รวมค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ายา และค่ารายการใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าประกัน แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือ คนในบ้านเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือ ต้องจ่ายเงินให้ลูกเข้าร่วมทัศนศึกษากับทางโรงเรียน หรือ (ซื้อ) ของขวัญวันเกิดเล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเอง เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตยากขึ้นไปอีก "

A file image taken Wednesday, May 14, 2014 of Centrelink signage at the Yarra branch in Melbourne. Australia's unemployment rate has fallen to 6.3 per cent, official figures show, Thursday, March. 12, 2015. (AAP Image/Julian Smith) NO ARCHIVING
องค์กร Anglicare กล่าวว่าดัชนีให้ให้เงินสนับสนุนของ Centrelink ไม่สอดคล้องกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค Source: AAP

องค์กร Anglicare เป็นหนึ่งในองค์กรช่วยเหลือด้านสวัสดิการ ที่เรียกร้องให้ Centrelink เพิ่มเงินสนับสนุนแก่ประชาชนผู้ที่เดือดร้อนมานานหลายปี

แต่รัฐบาลบอกว่า พวกเขาทำเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน รัฐมนตรี กระทรวงการคลัง จิม ชาลเมอร์ส กล่าวว่า

 "ทุกปีงบประมาณ เราพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดการช่วยเหลือประชาชน เราเข้าใจดีว่าผู้คนตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ด้วยเหตุนี้จึงมีการช่วยเหลือการบรรเทาค่าครองชีพหลายทาง"

ปีที่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อนุมัติเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในโครงการ JobSeeker และเงินสนับสนุนในโครงการอื่นๆ 40 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

แต่ผู้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ชี้ว่า เงินที่เพิ่มขึ้นเพียง 2.85 ดอลลาร์ต่อวันนั้นไม่เพียงพอ


องค์กร Anglicare กล่าวว่าดัชนีให้ให้เงินสนับสนุนของ Centrelink ไม่สอดคล้องกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งหมายความว่าการให้เงินช่วยเหลือไม่ได้ช่วยผู้คนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 คุณ เคซี เชมเบอร์ แนะนำว่าการเพิ่มเงินสนับสนุนของ Centrelink ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ

"เรารู้ว่ารัฐบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ต้องใช้เงินเช่นกัน เราประเมินว่าบางครั้งการยื้อการลงทุนในเรื่องนี้ อาจส่งผลเสียในอนาคต เรามีเด็กกว่า 800,000 คน ในออสเตรเลียที่มีชีวิตแร้นแค้น พวกเขาใช้ชีวิตบนความยากจน ทุกวัน ถ้าไม่ทำอะไรเด็กเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างที่พวกเขาควรได้รับ"

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  

Share