โควิดอัปเดต: คลายกฎหน้ากากอนามัย เหตุน่ากังวลจากควารันทีน และเปิดพรมแดน WA

สรุปสถานการณ์โควิด-19 ในสัปดาห์นี้ วิกตอเรียผ่อนคลายกฎการสวมหน้ากากอนามัย นิวเซาท์เวลส์ทำพลาดเรื่องการกักกันโรคผู้เดินทางจากต่างประเทศ และเวสเทิร์นออสเตรเลียอนุญาตให้ผู้เดินทางจากวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์เข้ารัฐได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

Source: Getty

LISTEN TO

โควิดอัปเดต: คลายกฎหน้ากากอนามัย เหตุน่ากังวลจากควารันทีน และเปิดพรมแดน WA

SBS Thai

09/12/202010:22

Play

รัฐวิกตอเรียผ่อนคลายกฎการสวมหน้ากากอนามัย โดยให้ประชาชนต้องสวมเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ เมื่อเข้าไปภายในร้านค้าและห้างสรรพสินค้า และในสภาพแวดล้อมที่ยากจะรักษาระยะห่างทางกายภาพกับผู้อื่นเท่านั้น

นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรี (Premier) ของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ประชาชนต้องพกหน้ากากติดตัวไปด้วยตลอดเวลา เพื่อให้ง่ายขึ้นที่พวกเขาจะนำขึ้นมาสวมเมื่อจำเป็น

“ทุกคนต้องพกหน้ากากอนามัยติดตัว นอกเสียจากว่าคุณได้รับการยกเว้นเพราะเหตุผลทางการแพทย์ ทุกคนต้องนำหน้ากากอนามัยติดตัวไป หน้ากากอนามัยเป็นนโยบายรับประกันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราและจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป เราจะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งในเดือนมกราคม เพื่อดูว่ากฎเหล่านี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่” นายแอนดรูส์ กล่าว

เทราพิวติก กูดส์ แอดมินิสเตรชัน (Therapeutic Goods Administration) หรือ ทีจีเอ ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลผลิตภัณฑ์เพื่อการบำบัดโรคของออสเตรเลีย กล่าวว่า องค์กรจะอยู่ในจุดที่เหมาะสมที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติวัคซีนโควิดได้ภายในสิ้นเดือนมกราคม

ศ.จอห์น สเคอร์ริตต์ กล่าวว่า ออสเตรเลียจะสามารถเข้าถึงข้อมูลจากอังกฤษ ซึ่งได้อนุมัติวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) แล้วเพื่อการใช้งานฉุกเฉิน

“เมื่อถึงช่วงปลายเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ เราจะไม่เพียงแต่จะมีข้อมูลจากการทดลองฉีดวัคซีนให้กับผู้คนตั้งแต่ 10 ถึง 40,000 คนขึ้นอยู่กับประเภทของบุคคลที่ร่วมการทดลองเท่านั้น แต่เราจะยังมีประสบการณ์จริงในโลกของผู้คนหลายแสนคนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนให้ และนั่นจะทำให้เรารู้ว่าวัคซีนจะเหมาะสมหรือไม่ เช่น หากว่าคุณมีโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งและมีอาการของโรคบางอย่าง มันจะช่วยพัฒนาคุณภาพของคำแนะนำที่เราสามารถมีให้แก่ชาวออสเตรเลียได้” ศ. สเคอร์ริตต์ ของ ทีจีเอ กล่าว

ขณะเดียวกัน มีการสงสัยกันว่า ลูกเรือของสายการบินนานาชาติจากสหรัฐอเมริกา จะเป็นต้นตอของกรณีการติดเชื้อโควิด-19 กรณีหนึ่งที่เกิดกับพนักงานทำความสะอาดโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่กักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ในซิดนีย์

ภายใต้กฎปัจจุบัน ลูกเรือของสายการบินนานาชาติไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้ากักกันตัว เนื่องจาก ลูกเรือเหล่านี้จำนวนมากพักอยู่เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้นก่อนจะเดินทางกลับประเทศ

นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีของนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของการดูแลระบบกักกันโรคและป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 เข้ามายังชุมชน

“นี่เป็นเครื่องเตือนใจที่เด่นชัดว่าโรคนี้นั้นแพร่กระจายได้ง่ายเพียงไร มันมีความเสี่ยงอย่างมาก และยังเป็นภาระที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องทำในแต่ละวันไม่มีหยุดหย่อนในการบริหารจัดการระบบกักกันโรคของเรา” นางเบเรจิกเลียน มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ กล่าว

ความผิดพลาดชองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินซิดนีย์ ทำให้หญิงชาวเยอรมันผู้หนึ่งและลูกชายของเธอ สามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อมายังเมลเบิร์นได้

หญิงวัย 53 ปีและลูกชายวัย 15 ปีดังกล่าวขณะนี้อยู่ในสถานกักกันโรคในเมลเบิร์น และผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวถูกบังคับให้ต้องแยกตัวเพื่อกักโรคและไปรับการตรวจเชื้อ สำหรับชาวเยอรมันทั้งสองคนพบผลการตรวจเชื้อเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) แล้วสองครั้ง

ตำรวจนิวเซาท์เวลส์ยอมรับในความผิดพลาด รองผู้บัญชาการตำรวจ เจฟ ลอย กล่าวโทษความเข้าใจผิดในการสื่อสาร

“เราไม่ได้บอกว่าพวกเขาโกหก แต่มีอุปสรรคด้านภาษา มีปัญหาในการสื่อสารกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นั้นก็ยอมรับความผิดพลาด ซึ่งเขาไม่ได้ตรวจว่ามีแบบฟอร์มหรือเอกสารการยกเว้นกักกันโรคที่เหมาะสมหรือไม่” รองผู้บัญชาการตำรวจ เจฟ ลอย กล่าว

รัฐวิกตอเรียได้เริ่มรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว และเริ่มใช้ระบบกักกันโรคในโรงแรมโฉมใหม่

วิกตอเรียได้หยุดรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศในเดือนมิถุนายน หลังความล้มเหลวของระบบกักกันโรคในโรงแรมของรัฐ ได้ก่อให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วทั้งชุมชน จนทำให้เกิดการระบาดระลอกสองที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก

เพื่อหลีกเลี่ยงความหายนะซ้ำสอง รัฐวิกตอเรียจึงได้ก่อตั้งหน่วยงาน โควิด-19 ควารันทีน วิกตอเรีย (COVID-19 Quarantine Victoria) ขึ้น เพื่อบริหารจัดการโครงการใหม่นี้ทั้งหมด

นางเอ็มมา คาสซาร์ ผู้อำนวยการชั่วคราวของหน่วยงานดังกล่าว อธิบายถึงขั้นตอนที่ผู้เดินทางทางเครื่องบินจะต้องผ่านเมื่อมาถึง

“ขั้นแรกคือผู้เดินทางมาถึงทั้งหมดจะต้องล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนไปใช้หน้ากากอนามัยอันใหม่ จากนั้นจะมีการตรวจคัดกรองด้านสุขภาพ 2 ระดับ คือมีคำถามเกี่ยวกับโควิดตามปกติและการตรวจอุณหภูมิร่างกาย หากมีนักเดินทางที่มีอาการหรือมีผู้ที่มีอุณหภูมิสูง พวกเขาจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้านสุขภาพระดับสอง ซึ่งจากนั้นจะระบุชี้ว่าพวกเขาจะเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่มีการดูแลด้านสุขภาพทั่วไป หรือไปยังโรงแรมที่มีการดูแลที่ซับซ้อน” นาง คาสซาร์ กล่าว

แพทย์ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในชุมชนในแอดิเลด ขณะนี้กลับมาทำงานแล้ว

การปะทุขึ้นของเชื้อดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจากกรณีนี้กว่า 30 ราย

พญ.ดาร์มินี ทูไรรัตนัม แพทย์แผนกฉุกเฉิน กล่าวว่า เธอรู้สึกปลื้มใจและซาบซึ้งใจที่ชุมชนให้การสนับสนุนแก่เธอ จากการที่เธอสังเกตเห็นอาการของหญิงวัย 81 ปีผู้หนึ่งที่ติดเชื้อ

“ระหว่างการให้คำปรึกษาแก่เธอ ฉันเห็นเธอไอ ฉันจึงต้องการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อส่งตรวจ ไม่ว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นเช่นไร ซึ่งเรื่องเชื้อโควิดกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นขณะนี้ แต่ตอนนั้น ฉันไม่ได้คาดว่าผลการตรวจเชื้อของเธอจะออกมาเป็นบวกสำหรับเชื้อโควิด” พญ.ทูไรรัตนัม กล่าว

เวสเทิร์นออสเตรเลีย อนุญาตให้มีการเดินทางเข้ารัฐได้อย่างเสรีจากวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมเป็นต้นไป

มุขมนตรี มาร์ก แมกโกวัน กล่าวว่า เขาตระหนักดีว่า การควบคุมพรมแดนของเวสเทิร์นออสเตรเลียได้ส่งผลต่อหลายๆ ครอบครัว

“ผมขอชื่นชมและขอบคุณทุกคนที่อดทนและเข้าอกเข้าใจ ไม่เพียงแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเท่านั้น แต่สำหรับช่วงที่ผ่านมาทั้งปี การควบคุมพรมแดนของเราเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสนี้ แต่มันมาพร้อมกับผลกระทบต่อหลายๆ ครอบครัว แต่ข่าวดีคือ ด้วยความมั่นใจและจากคำแนะนำที่ดีที่สุดด้านสุขภาพ ขณะนี้ เราสามารถดำเนินการในขั้นต่อไปอย่างระมัดระวังและปลอดภัยได้แล้ว” นายแมกโกวัน มุขมนตรีเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้ที่เดินทางจากรัฐเซาท์ออสเตรเลีย จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปยังเวสเทิร์นออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วันตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 11 ธันวาคม หากไม่มีการติดเชื้อโควิดในชุมชนเพิ่มเติมในเซาท์ออสเตรเลีย

สำหรับมาตรการรับมือกับการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19 ที่กำลังบังคับใช้ในพื้นที่ต่างๆ ในออสเตรเลีย เป็นภาษาของคุณ ให้ไปที่เว็บไซต์ sbs.com.au/coronavirus

---

---

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ ที่นี่

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai