ดอกเบี้ยปรับขึ้นอีก แต่จะช่วยลดเงินเฟ้อได้หรือไม่

Reserve Bank Governor Philip Lowe

นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย Source: AAP / DAN HIMBRECHTS/AAPIMAGE

ประชาชนและเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างไร หลังธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอีกเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.35


ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (หรืออาร์บีเอ) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (cash rate) ให้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.50 โดยเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผู้กู้เงินในช่วงเวลานั้นประสบกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอย่างสม่ำเสมอ แต่ตอนนี้ ผู้กู้เงินเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

ครอบครัวในออสเตรเลียจำนวนมากกำลังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากค่าครองชีพอยู่ในขณะนี้แล้ว การประกาศของอาร์บีเอจึงยิ่งจะทำให้ครอบครัวต่างๆ รู้สึกถึงแรงกดดันมากขึ้นไปอีก



สำหรับโจนาธานและเอลิซาเบธ เว็บสเตอร์ บ้าน ลูกๆ และสุนัขของครอบครัวคือทุกสิ่ง

พวกเขากำลังวางแผนฉลองวันเกิดให้ลูกสาววัย 17 ปี

แต่อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ครอบครัวประสบกับความท้าทายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายประเภทที่ไม่จำเป็นสักเท่าไรเหล่านี้ในอนาคต

ประธานกรรมการบริหารของอาร์บีเอ ได้ประชุมกันเมื่อวันอังคาร (6 ก.ย.) และประกาศการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.85 เป็นร้อยละ 2.35

นาย จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ กล่าวหลังการประกาศนี้ว่า

"นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก นี่จะทำให้ต้องรัดเข็มขัดกันมากขึ้นสำหรับงบประมาณครอบครัว นี่จะสร้างความกดดันแก่ชาวออสเตรเลียจำนวนมากที่ขัดสนเงินกันอยู่แล้ว"
ครอบครัวเว็บสเตอร์เป็นหนึ่งในครอบครัวชาวออสเตรเลียที่กำลังเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้

"สำหรับเรามันอาจหมายถึงการไม่ซื้อกาแฟทุกวันอีกต่อไป มันอาจหมายถึงการตัดบริการสตรีมมิ่งสองสามอย่างที่เราใช้บริการในช่วงล็อกดาวน์และต้องการความบันเทิง อาจหมายความว่าจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกช่วงปลายเดือน และเรายังจำเป็นต้องขับรถ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ไหม นั่นจะประหยัดกว่าสำหรับเราหรือเปล่า และหาทางอื่นๆ ที่เราจะลองและประหยัดเงิน เพื่อที่เราจะสามารถมีเงินเหลือใช้ได้สัก 300-500 ดอลลาร์ จนถึง 1,000 ดอลลาร์ ถ้ามันไปถึงจุดนั้น" ครอบครัวเว็บสเตอร์ กล่าว

พวกเขาซื้อบ้านเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 7.5 และกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยจะไต่ขึ้นไปในทิศทางนั้นอีกครั้ง

คุณ สกอตต์ ฟิลลิปส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน Motley Fool กล่าวว่าสำหรับผู้กู้เงินซื้อบ้านชาวออสเตรเลียทั่วๆ ไปแล้ว นี่หมายถึงการจ่ายเงินราว 300 ดอลลาร์ต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ชำระคืนในปัจจุบัน

"มันเป็นผลกระทบที่โหดร้ายเพราะไม่เพียงแต่ราคาจะสูงขึ้นเท่านั้น แต่ธนาคารกลางยังทำให้เงินกู้ซื้อบ้านของเราแพงขึ้นมากด้วย โดยหวังว่านั่นจะช่วยชะลอเงินเฟ้อ แต่ในระหว่างนี้ นั่นหมายความว่าครัวเรือนในออสเตรเลียต้องรับมือทั้งสองอย่างคือ ราคาสิ่งต่างๆ ที่สูงขึ้นที่แคชเชียร์ ที่ปั๊มน้ำมัน และโชคร้ายที่ต้องจ่ายมากขึ้นให้ธนาคารด้วย หากพวกเขากู้เงินซื้อบ้าน" คุณ ฟิลลิปส์ กล่าว
นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนถึงผลกระทบอย่างเต็มที่จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งยังไม่เห็นได้ในขณะนี้ โดยผู้กู้เงินจำนวนมากเพิ่งจะเริ่มรู้สึกได้ถึงผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งแรก

คุณ สกอตต์ ฟิลลิปส์ กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในอนาคตอันใกล้นี้

"ความเป็นจริงก็คือ แม้จะอยู่ในสภาวะเป็นกลาง โดยที่อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรง และส่วนอื่นๆ ของโลกมีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่เราพบในออสเตรเลีย ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่อาร์บีเอจะยังคง ‘ยิงก่อนแล้วถามคำถามทีหลัง’ ผมคิดว่าพวกเขาจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า พวกเขากำจัดภัยคุกคามเงินเฟ้อออกไปเสีย แทนที่จะปล่อยไปและเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงจนเราทำอะไรไม่ได้แล้ว" คุณ ฟิลลิปส์ กล่าว
ในขณะที่ผู้ที่กู้เงินกำลังพบกับความทุกข์ แต่ผู้ที่มีเงินออม เช่น ผู้รับบำนาญ ต่างก็ยินดีที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นหลังจากหลายปีแล้วที่เงินออมของพวกเขาได้ดอกเบี้ยน้อยมาก

"เมื่อธนาคารเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้ พวกเขาก็ควรจ่ายดอกเบี้ยเงินออมเพิ่มขึ้นอีกนิดด้วย ดังนั้นจึงควรมีผลประโยชน์สำหรับผู้ออมในระบบเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่นั่นคือผู้สูงอายุ แต่ยังรวมถึงกองทุนเงินเก็บหลังเกษียณ (หรือเงินซูเปอร์แอนนูเอชัน) ของพวกเราด้วย"

ในระหว่างนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ อย่างคุณริชาร์ด ชิดิแอค ทนายความด้านอสังหาริมทรัพย์ มีคำแนะนำนี้สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาด

"คำแนะนำของผมสำหรับผู้ซื้อคือให้รอไปก่อน ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของคุณใหม่ ให้มีเงินเป็นกันชนอยู่บ้างในบัญชีธนาคารของคุณ" คุณ ชิดิแอค กล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


Share