Settlement Guide: สิ่งที่ควรรู้เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ

Cafe worker

Source: Pixabay

ในออสเตรเลีย อัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศนั้น ถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการแฟร์ เวิร์ค ลูกจ้างจึงไม่สามารถได้รับค่าจ้างต่ำกว่าอัตราที่กำหนดได้ แม้ว่าลูกจ้างจะยินยอมก็ตาม ถึงจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดควบคุม แต่ธุรกิจบางแห่งยังคงเอาเปรียบลูกจ้าง โดยเฉพาะนักเรียนต่างชาติและแบ็คแพ็คเกอร์


คุณกำลังได้รับค่าจ้าง ตามที่คุณมีสิทธิพึงได้รับหรือไม่?

อัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศของออสเตรเลีย ขณะนี้อยู่ที่อัตรา 18.29 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง ซึ่ง ซึ่งคิดเป็นรายได้ราว 695 ดอลลาร์ ต่อสัปดาห์ ก่อนหักภาษี

นายมาร์ค ลี ผู้อำนวยการด้านสื่อมวลชน ขององค์กร Fair Work Ombudsman หรือผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรม อธิบายว่า มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้คุณควรได้รับค่าจ้างมากกว่านั้น

“หลายๆ คนอาจมีสิทธิได้รับค่าจ้างมากกว่านั้น  ขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่ได้รับการว่าจ้าง และชั่วโมงที่ทำงาน เช่น หากคุณทำงานกะกลางคืน หรือทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือในวันหยุดราชการ ก็มักจะต้องมีการจ่ายอัตราค่าทำงานนอกเวลาหรือที่เรียกว่า penalty rates หรือหากคุณทำงานในอุตสาหกรรมการผลิต หรือทำงานในอุตสาหกรรมร้านอาหาร จะมีสิ่งที่เรียกว่า โมเดิร์น อะวาร์ด ที่จะกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่เกี่ยวข้องกับงานของคุณโดยเฉพาะ” นายลี จาก Fair Work Ombudsman อธิบาย

หากคุณทำงานเป็นลูกจ้างเผื่อเรียก หรือที่เรียกกันว่าลูกจ้าง casual คุณควรได้รับค่าจ้างมากกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เนื่องจากต้องมีการเพิ่มเงินพิเศษสำหรับการเป็นลูกจ้างเผื่อเรียก หรือที่เรียกว่า casual loading ด้วย

“ลูกจ้าง casual จะได้รับ casual loading อีกร้อยละ 25 เช่น หากคุณเป็นลูกจ้างเผื่อเรียก ซึ่งได้รับเงินค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ 18.29 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง คุณควรได้รับเงินอีกร้อยละ 25 เพิ่มขึ้นจากอัตราที่คุณได้รับสำหรับการทำงานในชั่วโมงปกติ สิ่งที่ต้องสูญเสียเป็นการแลกเปลี่ยนสำหรับลูกจ้างเผื่อเรียกนี้คือ คุณจะไม่ได้รับสิทธิการลาพักผ่อนประจำปีโดยได้ค่าจ้าง หรือสิทธิการลาพักงานเมื่อทำงานมานาน 10 ปี เป็นต้น” นายมาร์ค ลี ให้ข้อมูล

หากคุณทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำงานในวันหยุดราชการ หรือทำงานในเวลากลางคืน คุณควรได้รับเงินค่าจ้างเพิ่ม

“อัตราค่าทำงานนอกเวลาหรือที่เรียกว่า penalty rates ต้องจ่ายให้แก่ทุกคนที่ทำงานในวันอาทิตย์ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดราชการ หรืออาจเป็นเงินเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้ที่ทำงานในเวลาที่นอกเหนือจากเวลาทำการปกติ เช่น หากคุณทำงานที่ปั๊มน้ำมัน และคุณทำงานช่วงกลางคืนจนถึงเวลาตี 1 หรือ ตี 2 คุณจะได้รับเงินค่าทำงานนอกเวลา หรือได้รับเบี้ยเลี้ยงที่จ่ายให้นอกเหนือจากการได้รับค่าจ่างขั้นต่ำตามปกติ” นายลี ชี้แจง

หากคุณคิดว่าคุณได้รับค่าจ้างที่ไม่ถูกต้องตามที่ควรได้รับ หรือต้องการตรวจสอบให้มั่นใจ ทางองค์กร Fair Work Ombudsman มีเครื่องมือคำนวณและมีเจ้าหน้าที่ที่จะสามารถช่วยเหลือคุณได้

“คุณสามารถไปยังเว็บไซต์ แล้วตอบคำถามที่ไม่ซับซ้อน 2-3 คำถามเกี่ยวกับประเภทงานที่คุณทำ และเราจะบอกได้ว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่คุณมีสิทธิได้รับนั้น เป็นจำนวนเท่าไร คุณยังสามารถโทรศัพท์หาเราได้ที่เบอร์ 13 13 94 และคุณกับที่ปรึกษาของเรา ที่จะสามารถช่วยคุณให้ทำตามขั้นตอนในเว็บไซต์ และสามารถบอกได้ว่า คุณควรได้รับค่าจ้างเท่าไร หรือบอกได้ว่าอะไรที่คุณมีสิทธิพึงได้รับภายใต้อัตราโมเดิร์น อะวาร์ด เรท ที่เกี่ยวข้อง” นายมาร์ค ลี แนะนำ

Migrant workers
Source: AAP
นางลอรี เบิร์ก อาจารย์อาวุโส ประจำคณะกฎหมาย ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ซิดนีย์ ได้ทำการสำรวจร่วม เมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับการโจรกรรมค่าจ้าง และผลการสำรวจที่พบนั้น น่าวิตกอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนนานาชาติและนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ ที่มาท่องเที่ยวและทำงานไปด้วย ในออสเตรเลีย

“การสำรวจของเราทั่วประเทศจากคน 4,300 คนนั้นเป็นข้อมูลที่ตรวจวัดได้ชิ้นแรก ที่แสดงให้เห็นสภาพการจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดอย่างรุนแรง ที่แพร่หลายในหมู่นักเรียนนานาชาติและนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ ทั่วทั้งอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย และทั่วทุกชนชาติด้วย นักเรียนนานาชาติ 1 ใน 3 ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของอัตราค่าจ่างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด และจำนวนมากยังทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่อาจเทียบเท่ากับการบังคับใช้แรงงานตามกฎหมายอาญาด้วย” นางเบิร์ก ระบุ

การวิจัยดังกล่าวพบว่า นักเรียนและนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ส่้วนใหญ่รู้เกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ แต่เพราะพวกเขาอาจเห็นเพื่อนๆ ได้รับค่าจ้างที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงคิดว่าตนก็คงไม่มีโอกาสมากนักที่จะได้รับค่าจ้างที่ดีกว่านั้น

ขณะที่ปัญหาการจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้น ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลายประเภท แต่มีบางอุตสาหกรรมที่สภาพปัญหาเลวร้ายกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ

“มันพบได้บ่อยโดยเฉพาะในธุรกิจให้บริการด้านอาหาร ดังนั้น เกือบ 2 ใน 5 ของงานที่ได้ค่าจ้างต่ำที่สุด อยู่ในร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านเทค อะเวย์ ซึ่งเกิดขึ้นมากกว่างานอื่นๆ การจ่ายค่าแรงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดยังระบาดหนักในงานเก็บผักและผลไม้ ผู้ที่ทำงานเก็บผักและผลไม้เกือบ 1 ใน 5 ที่ได้รับค่าจ้าง 10 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้น” นางเบิร์ก เปิดเผย

ขณะที่ จำเป็นต้องมีการดำเนินการมากกว่านี้ จากทางรัฐบาลและภาคธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นายมาร์ค ลี กล่าวว่า ทาง Fair Work Ombudsman มีหลายวิธีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการแจ้งกรณีจ่ายค่าแรงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด

“เรามีบริการล่ามฟรี บนเว็บไซต์ของเรายังมีข้อมูล 40 ภาษา และเรายังมีเครื่องมือในการแจ้งการทำผิด โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อด้วย เราเข้าใจดีว่าบางคนอาจลังเลใจที่จะเปิดเผยตัว เราจึงพัฒนาเครื่องมือออนไลน์ขึ้นมาสำหรับเว็บไซต์ของเรา คือ ที่คนจะสามารถเข้าไปแจ้งข้อมูลกับเรา เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาโดยไม่ต้องเปิดเผยตัว” นายลี ให้ข้อมูล

หากคุณวิตกว่าคุณอาจประสบความยุ่งยากจากนายจ้าง หรืออาจถูกนายจ้างยกเลิกวีซ่า นายมาร์ค ลี กล่าวว่า Fair Work Ombudsman หรือผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อการจ้างงานที่เป็นธรรม จะทำให้แน่ใจได้ว่า เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณ

“พวกเขาอาจเป็นห่วงว่าถ้าพวกเขามาหาเรา อาจเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับวีซ่าของพวกเขา หรือพวกเขาอาจถูกให้ออกจากออสเตรเลีย เราสามารถยืนยันกับประชาชนว่า เราได้มีข้อตกลังกับกระทรวงการตรวจคนเข้าเมืองว่า หากมีใครมาหาเรา และบอกเราถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ทำงานของพวกเขา และให้ความร่วมมือในการสืบสวนของเรา เราสามารถทำให้แน่ใจได้ว่า พวกเขาจะไม่ได้รับความยากลำบากใดๆ เกี่ยวกับวีซ่า” นายมาร์ค ลี จาก Fair Work Ombudsman ยืนยัน

หากต้องการตรวจสอบว่าคุณได้รับค่าจ้างถูกต้องตามสิทธิที่พึงได้รับหรือไม่ หรือต้องการแจ้งร้องเรียน ให้ไปที่เว็บไซต์ของ Fair Work Ombudsman ที่ หรือโทรศัพท์ไปที่เบอร์ 13 13 94 หากพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง คุณสามารถใช้บริการล่ามฟรีได้ที่เบอร์ 13 14 50 และให้ล่ามโทรศัพท์ไปที่ แฟร์ เวิร์ค ที่เบอร์ 13 13 94


Share