ธุรกิจขนาดเล็กอ่วม ผลกระทบยืดเวลาล็อกดาวน์ซิดนีย์

การขยายเวลาและยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่เกรเทอร์ซิดนีย์ (Greater Sydney) ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก ถึงแม้รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยา แต่ก็มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ต้องดิ้นรนท่ามกลางวิกฤตนี้

Atefeh Hekmat (left) with one of her students prior to lockdown Source: Supplied

LISTEN TO

ธุรกิจขนาดเล็กอ่วม ผลกระทบยืดเวลาล็อกดาวน์ซิดนีย์

SBS Thai

13/07/202106:59

Play

คุณอาเตเฟห์ เฮ็ชมัท (Artefe Hekmat) หนึ่งในผู้ประกอบการนับพันรายในนครซิดนีย์ ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน ท่ามกลางคำสั่งอยู่แต่ในบ้าน (stay-at-home order)  

ตามปกติแล้ว เธอจะสอนศิลปะให้กับนักเรียน 80 คนต่อสัปดาห์ที่สตูดิโอของเธอ ในพื้นที่ทางตะวันตกของซิดนีย์ ซึ่งตอนนี้ ขาตั้งวาดรูปในสถานที่แห่งนี้มีเพียงความว่างเปล่า

“มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับฉันมาก มันเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก และเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากสำหรับฉัน”

ฉันสอนใครก็ไม่ได้ ฉันหาเงินไม่ได้ มันยากสำหรับฉัน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ประดังเข้ามา ฉันมีปัญหาเรื่องค่าอาหาร ฉันมีปัญหากับทุกอย่าง แต่เรื่องการเช่าสตูดิโอนั้น ฉันกำลังคิดว่า นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด คุณเฮ็ชมัท กล่าว

เมื่อไม่มีรายได้เข้ามา ผู้ลี้ภัยวัย 49 ปีรายนี้ ต้องกู้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่าอาหารและค่าเช่า

“ฉันโทรหาเพื่อนสนิทของฉัน และบอกเขาว่า ฉันจะทำอะไรได้บ้าง คุณให้ฉันยืมเงินได้ไหม ฉันต้องนำไปจ่ายค่าเช่า เขาบอกฉันว่า ผมให้คุณยืมได้ และก็ส่งเงินมาที่บัญชีของฉัน และฉันก็นำมันไปจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่าเช่าร้าน ฉันเพิ่งจ่ายมันไปวันนี้หมาด ๆ” คุณเฮ็ชมัท กล่าว

หลังก่อร่างสร้างตัวจนเป็นศิลปินในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน คุณเฮ็ชมัท ได้เปลี่ยนตนเองเป็นคริสต์ศาสนิกชน เนื่องจากความหวาดกลัวต่อความปลอดภัยของเธอ ทำให้เธอลี้ภัยมาอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2013 และลี้ภัยเข้ามายังออสเตรเลียทางเรือในเวลาต่อมา

“เราลอยเคว้งอยู่ในมหาสมุทรอยู่ 5 วัน มันอันตรายมาก เพราะเป็นเรือขนาดเล็ก ตอนที่ฉันอยู่บนเรือ ฉันคิดถึงเพียงแต่อดีต เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก” คุณเฮ็ชมัท กล่าว

สมอลล์ บิซิเนส ซีเครทส์ (Small Business Secrets) ของเอสบีเอส พบว่า ธุรกิจขนาดเล็กในย่านซีบีดีของนครซิดนีย์จำนวนมาก ต่างต้องดิ้นรนเพื่อให้สามารถเปิดทำการได้ ขณะที่การล็อกดาวน์ในซิดนีย์ ได้รับการขยายเวลาออกไปเป็น 3 สัปดาห์ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเวลา 23:59 น. ในวันศุกร์ที่ 16 ก.ค.นี้  

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์มาโดยตลอด ในการขอให้มีการประกาศใช้โครงการเงินชดเชยค่าจ้างจ๊อบคีปเปอร์ (JobKeeper) อีกครั้ง สำหรับธุรกิจจำนวนมากที่ต้องดิ้นท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์

ด้าน นางเจส สกัลลีย์ (Jess Scully) รักษาการนายกเทศมนตรี เทศบาลนครซิดนีย์ กล่าวว่า ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากกำลังเผชิญกับความยากลำบาก

มีธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคส่วนธุรกิจบริการ ที่กำลังสูญเสียเม็ดเงินจำนวนมากในทุกสัปดาห์ พวกเขาต้องนำเงินออมออกมาใช้กันแล้ว และพวกเขาต้องการการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม นางสกัลลีย์ กล่าว

นายโดมินิก เพอร์รอตเท็ต (Dominic Perrottet) รัฐมนตรีการคลังของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ประเมินความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของรัฐนิวเซาท์เวลส์ จากมาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้ เป็นมูลค่าราว $2,500 ล้านดอลลาร์ 

เขากล่าวว่า ได้มีการอนุมัติเงินมูลค่าระหว่าง $5,000 – $10,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงได้ พร้อมมาตรการเยียวยาภาษี ซึ่งจะงดเว้นภาษีเงินได้ที่ต้องหักจากการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (payroll tax deferral) สำหรับนายจ้าง

สำหรับมาตรการเยียวยาดังกล่าว คาดว่าจะมีการขยายให้ครอบคลุมธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงกิจการเจ้าของคนเดียว (sole trader) ที่มีผลประกอบการต่อปีน้อยกว่า $75,000 ดอลลาร์

นางสกัลลีย์ กล่าวว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เริ่มรู้สึกได้ในพื้นที่เทศบาลนครซิดนีย์นั้นมีขนาดที่เริ่มเห็นได้ชัด

เราคิดเป็น 7% ของระบบเศรษฐกิจทั้งออสเตรเลีย หากเราไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงในเทศบาลนครซิดนีย์ มันจะส่งผลเป็นระลอกคลื่นไปทั่วทั้งออสเตรเลีย นางสกัลลีย์ กล่าว

ร้านอาหารต่าง ๆ ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค ก็กำลังประสบปัญหาสูญเสียรายได้อย่างหนัก ในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนที่ผ่านมา ซึ่งควรเป็นเวลาที่มีความคึกคัก   

คุณนาธาน ทอมกินส์ (Nathan Tomkins) เป็นเจ้าของร้านอาหารในเมืองพอร์ตแม็กควารีย์ (Port Macquarie) ในพื้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของนครซิดนีย์

ทันทีที่มีการประกาศล็อกดาวน์จากโควิด ลูกค้าเราลดลงจาก 200 คน เหลือ 50 คนในทันที มันเป็นเรื่องเลวร้ายมาก คุณทอมกินส์ กล่าว

นอกจากเหตุอุทกภัย ที่ทำให้กิจการของคุณทอมกินส์สูญเสียรายได้ และเกิดความเสียหายจากน้ำท่วมรวมกันถึง 1 ล้านดอลลาร์แล้ว ผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ได้ทำให้ความเสียหายในกิจการของเขาสะสมมากขึ้นไปอีก

“ถ้ามาตรการล็อกดาวย์ยังคงมีอยู่ต่อจากนี้อีกสักพัก ผมไม่แน่ใจว่าจะออกจากปัญหานี้ได้หรือไม่” คุณทอมกินส์ กล่าว

แต่สำหรับศิลปินอย่าง คุณอาเตเฟห์ เฮ็ชมัท นั้น เป้าหมายของเธอชัดเจน นั่นคือความตั้งใจ ไม่ให้วิกฤตล็อกดาวน์ครั้งนี้ทำอะไรกับเธอได้

“ฉันไม่ต้องการปิดกิจการ กิจการของฉันยังดีพร้อม และมีเป้าหมายใหญ่สำหรับอนาคต” คุณเฮ็ชมัท กล่าว

---

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้ ที่นี่

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai