'พิษโควิด-ไฟป่า' ถล่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวออสฯ คนตกงานอื้อ

The Great Ocean Road and 12 Apostles, Victoria

The Great Ocean Road and 12 Apostles, Victoria Source: AAP

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสฯ ชี้ 'โควิด-ไฟป่า' ทำคนทำงานภาคการท่องเที่ยวตกงานรุนแรงกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรัฐวิกตอเรียหลายรายเสี่ยงล้มละลายจากพิษล็อกดาวน์ระดับ 4


กดปุ่ม 🔊ที่ภาพด้านบนเพื่อฟังรายงานเรื่องนี้

อินเทรปิด ทราเวล (Intrepid Travel) หนึ่งในบริษัทดำเนินกิจการท่องเที่ยวผจญภัยขนาดใหญ่ของโลก มีกิจการในพื้นที่ 7 ทวีป แต่หลังจาก 31 ปีของการเติบโตทางธุรกิจ บริษัทดังกล่าวได้หยุดดำเนินกิจการในทั่วโลก ซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย

นายเจมส์ ธอร์นตัน (James Thornton) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Intrepid Travel กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้การดำเนินกิจการของบริษัทนั้น คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“เราสูญเสียรายได้จากแทบทุกช่องทาง เราไม่สามารถจัดทริปทั้งในและต่างประเทศได้ในจุดนี้ และมันไม่มีแผนแม่บทที่ชัดเจน ว่าเราจะมีโอกาสได้จัดทริปอีกครั้งเมื่อใด” นายธอร์นตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Intrepid Travel กล่าว

บริษัทดังกล่าว จำเป็นต้องปลดพนักงานในออสเตรเลียมากกว่า 1 ใน 3 โดยพนักงานที่เหลืออีก 200 ตำแหน่ง อยู่ระหว่างการรับเงินชดเชยค่าจ้าง JobKeeper

รายงานฉบับใหม่ จากสำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย (ABS) ได้ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ไฟป่า และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระยะแรก ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนการท่องเที่ยวมากกว่าภาคส่วนอื่น ๆ

โดยตำแหน่งงานงานในภาคการท่องเที่ยว ได้ลดลงในอัตราร้อยละ 3 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจทั้งหมดที่ร้อยละ 1.7

ส่วนธุรกิจที่พักแรมนั้นได้รับผลกระทบมากที่สุด ตามมาด้วยธุรกิจการบริการ กีฬา และกิจกรรมนันทนาการ 

คุณมาร์จี ออสมอนด์ (Margy Osmond) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับชาติ สภาการท่องเที่ยวและการขนส่ง (Tourism and Transport Forum) กล่าวว่า การปิดพรมแดนทั้งภายในและระหว่างประเทศ ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น มีเพียงแต่จะทำให้สถานการณ์นั้นแย่ลง 

“จากข้อมูลเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนคนทำงานลดลงไปประมาณ 65% ในภาคส่วนนี้ ดังนั้น แทนที่จะมีคนทำงานอยู่ประมาณ 700,000 ตำแหน่ง ก็เหลือเพียงประมาณ 230,000 ตำแหน่งในตอนนี้ และนั่นมีผู้ที่รับเงิน JobKeeper รวมอยู่ด้วย ดังนั้น มันจึงแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมของเรานั้นสิ้นหวังเพียงใด” คุณออสมอนด์ กล่าว

แต่จากการที่รัฐวิกตอเรียได้อยู่ภายในมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ทำให้เกิดความกังวลว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนั้น จะฟื้นตัวจากวิกฤตในครั้งนี้อย่างยากลำบาก 

คุณนาธาน เคลาท์แมน (Nathan Cloutman) นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโส จากบริษัทวิจัยธุรกิจไอบิสเวิล์ด (IBISWorld) กล่าวว่า การระบาดระลอกสองของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ถ่วงเวลาการกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างรัฐได้อีกครั้ง โดยยังคงมีการจำกัดห้ามบริเวณพรมแดนที่ยังคงมีผลบังคับใช้ในรัฐและมณฑลต่าง ๆ

“นักท่องเที่ยงจากต่างรัฐและมณฑล คิดเป็น 25% ของนักท่องเที่ยวในรัฐวิกตอเรีย และนั่นชัดเจนว่า มาตรการจำกัดห้ามต่าง ๆ นั้น กำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของรัฐนี้ มีแรงกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะจากธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ส่วนภูมิภาค เรากำลังพบการล้มลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผลกระทบของการขาดแคนการท่องเที่ยวในออสเตรเลีย และภายในรัฐวิกตอเรีย” คุณเคลาท์แมนกล่าว

ระหว่างที่หลายคนกำลังมีความหวัง ว่าการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ จะได้รับการควบคุมอย่างทันเวลา แต่นายธอร์นตันกล่าวว่า Intrepid Travel กำลังรับจองทริปต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป

“แน่นอนว่า เราจะพบกับความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผมคิดว่าผู้คนกำลังมองหาความแน่นอนว่า พวกเขาจะได้ออกไปท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อไหร่” คุณธอร์นตันกล่าว

ขณะที่รัฐบาลสหพันธรัฐ ยังคงไม่มีการตัดสินใจว่า มาตรการจำกัดห้ามการเดินทางของออสเตรเลียนั้น จะสิ้นสุดลงเมื่อใด


ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 



Share