Didar outside his shop
Didar outside his shop
This article is more than 3 years old

Profile

ร้านของชำแห่งนี้ต้องอาศัยความซื่อสัตย์ของลูกค้า

ดิดาร์สูญเสียการมองเห็น เขาจึงต้องอาศัยความซื่อสัตย์ของลูกค้าที่มาซื้อของจากร้านของเขา

Published 7 September 2021 11:59am
Updated 7 September 2021 12:04pm
By Peta Doherty
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News
Image: Didar longs to reunite with his siblings. (Peta Doherty/SBS News)
ดิดาร์ อาลี (ดิดาร์ Ali) หนีตายจากตาลีบัน (Taliban) หลังพ่อแม่ของเขาถูกสังหาร และขณะนี้เขาเปิดร้านขายของชำที่เน้นอาหารอัฟกัน ที่เมืองนาราคอร์ต (Naracoorte) ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

ธุรกิจของดิดาร์ อาลี สร้างขึ้นจากความซื่อสัตย์ของลูกค้า และกำลังเจริญเติบโตอย่างดี

ผู้ลี้ภัยชาวฮาซารา (Hazara) ผู้นี้เป็นเจ้าของร้าน Daily Market ร้านขายของชำที่เน้นอาหารอัฟกันแห่งหนึ่งที่เมืองนาราคอร์ต (Naracoorte) ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างเมลเบิร์นและแอดิเลด

นับตั้งแต่เปิดร้านนี้มาเมื่อเจ็ดปีก่อน การมองเห็นของดิดาร์ค่อยๆ ย่ำแย่ลงจนถึงจุดที่ว่า ตอนนี้เขาต้องอาศัยความซื่อสัตย์ของลูกค้า ให้จ่ายเงินในราคาที่ถูกต้อง
img_0355.jpg
“หากบางครั้งผมคิดเงินผิดพลาด พวกเขาจะบอกผมว่า นั่นไม่ถูกต้อง และจากนั้นก็จะอธิบายให้ผมฟัง” ดิดาร์ กล่าว

“มีผู้คนที่ซื่อสัตย์มากมาย ชาวออสเตรเลียเป็นคนซื่อสัตย์ และเมืองนาราคอร์ตก็เป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมที่สุด”

ดิดาร์มีภาวะ retinitis pigmentosa ซึ่งเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ตาซึ่งพบได้ยาก โดยภาวะดังกล่าวทำให้เซลล์ในเรตินาที่ไวต่อแสงเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ในระดับที่แตกต่างกันไป

“เรามองเห็นภาพเป็นแค่สีขาวหรือสีดำเท่านั้นแหละ ไม่ค่อยมีสี” เขากล่าว

“บรรดาแพทย์ทั้งหมดต่างไม่พบ (การรักษา) สำหรับปัญหานี้"

ดิดาร์ได้เรียนรู้การจัดวางชั้นวางสินค้าในร้านด้วยการสัมผัสสินค้าที่เขามีอยู่ในร้าน

หนีตายจากตาลีบัน

ดิดาร์หนีออกจากอัฟกานิสถานหลังจากที่พ่อแม่ของเขาถูกสังหารโดยกลุ่มตอลิบาน

“เราพบศพพวกเขาที่หน้าบ้าน” เขากล่าว

“เมื่อเราถามว่า 'ทำไมจึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นและทำไมคุณถึงต้องฆ่า' (พวกเขาพูดว่า) 'เพราะคุณเป็นชาวฮาซารา'”
ฮาซาราเป็นชนเผ่าหนึ่งที่ถูกกดขี่ในอัฟกานิสถาน

ด้วยเกรงว่าเขาจะถูกสังหารเช่นกัน ดิดาร์จึงหลบหนีไปยังอินโดนีเซีย จากที่นั่นเขาเริ่มการเดินทางทางเรือที่แสนอันตรายมายังออสเตรเลีย

"มันยากลำบากมากๆ ที่จะเดินทางเข้ามาทางเรือ แต่ก็ดีกว่าอยู่ต่อไปในอัฟกานิสถาน ซึ่งพวกตาลีบันจะฆ่าเรา" ดิดาร์กล่าว

เขาเป็นหนึ่งใน 40 คนที่เดินทางรอนแรมกลางทะเลเป็นเวลา 12 วันก่อนที่เรือจะพังและเริ่มจม

“ตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้เห็นกองทัพมาถึงและช่วยกลุ่มของผมได้ทัน”

“ถ้าพวกเราไม่ได้รับการช่วยเหลือ ภายในสองสามวันทุกคนบนเรือคงจะจมน้ำตาย”

ความหลากหลายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พื้นที่ที่ดิดาร์อาศัยอยู่มีชุมชนหลากหลายวัฒนธรรมที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเขากล่าวว่าลูกค้าบางคนขับรถมาไกลกว่า 100 กิโลเมตรเพื่อมาซื้อส่วนผสมที่หาได้ยากในร้านของเขา

เขาได้เรียนรู้ที่จะทักทายลูกค้าด้วยประโยคทักทายสองสามประโยคเป็นภาษาต่างๆ กว่า 40 ภาษาที่พูดกันในภูมิภาคนี้

ลูฟิซา นูร์ดิน (Loufiza Noordin) นักศึกษาชาวมาเลเซียกล่าวว่า Daily Market มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ตั้งแต่พริกแช่แข็งไปจนถึงน้ำจากมาเลเซีย อุปกรณ์ตัดแต่งกิ่งให้ต้นไม้ และรองเท้าสำหรับการเดินโดยเฉพาะ

“ดิดาร์เป็นคนดีและอัธยาศัยดี ฉันชอบดิดาร์” เธอกล่าว “เราโกงดิดาร์ไม่ได้หรอก เพราะเขามองไม่เห็น”
ดิดาร์ คุณพ่อลูกสี่ ได้สร้างชีวิตใหม่ให้ครอบครัวของเขาในเมืองนาราคอร์ต หลังจากทำงานโรงงานชำแหละเนื้อสัตว์ในท้องถิ่น เขาได้เปิดธุรกิจของตัวเองในปี 2014

ด้วยการมองเห็นของเขาที่หายไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์ บาสบานู ภรรยาของดิดาร์ และไรฮานา ลูกสาววัย 9 ขวบของพวกเขา ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการประจำวันในร้าน

“พ่อเป็นคนมีน้ำใจเสมอ และพ่อก็เหลือเชื่อจริงๆ ” ไรฮานากล่าว “ถึงพ่อจะมีปัญหาที่ดวงตา แต่พ่อก็ยังทำงานต่อไป”

ดิดาร์ทำงานหลังเคาน์เตอร์เจ็ดวันต่อสัปดาห์ และหลังเลิกเรียนไรฮานาก็มาช่วยที่ร้าน

“บางครั้งหนูก็สะกดสิ่งต่างๆ ให้พ่อ หนูบอกราคาให้พ่อและบอกพ่อว่า (ลูกค้า) ให้เงินพ่อเท่าไหร่”

ครอบครัวแตกกระเซ็น

อย่างไรก็ตาม ดิดาร์เป็นห่วงอย่างมากสำหรับพี่น้องของเขาที่ยังคงอยู่ในอัฟกานิสถาน ท่ามกลางการยึดอำนาจของกลุ่มตาลีบันเมื่อเดือนที่แล้ว

ดิดาร์ไม่สามารถติดต่อพี่น้องของเขาทางโทรศัพท์ได้ตั้งแต่กลุ่มตาลีบันยึดหมู่บ้านของพวกเขา

ดิดาร์หวังว่า ใบสมัครเพื่อนำพี่น้องของเขามายังออสเตรเลียจะได้รับการอนุมัติ
Didar outside his shop
Didar longs to reunite with his siblings. Source: Peta Doherty/SBS News
ศูนย์ข้อมูลเพื่อผู้อพยพแห่งออสเตรเลีย (Australian Migrant Resource Centre หรือ AMRC) กล่าวว่าการสนับสนุนจากครอบครัวสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะรับประกันความอยู่รอดของร้านค้าแห่งนี้ในอนาคต

คุณฟรานเซส เคอร์บี (Frances Kirby) ผู้จัดการของ AMRC สาขาเมืองนาราคอร์ต (Naracoorte) กล่าวว่า “มันจะน่าเสียดายมากถ้าเขาต้องปิดร้านลง เพราะนั่นจะทำให้เกิดช่องว่างในตลาดทั่วทั้งพื้นที่ ไลม์สโตน โคสต์ (Limestone Coast) เลยทีเดียว”

“ร้านของเขาค่อนข้างเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะเจาะจงเล็กน้อย หรือหายากสักหน่อย”

ดิดาร์ยังเป็นผู้นำในชุมชนชาวฮาซารา (Hazara) ในท้องถิ่น ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 4 ของประชากรของ เมืองนาราคอร์ต จากข้อมูลตามการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2016

เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งของเทศบาลท้องถิ่น โดยหวังว่าจะตอบแทนชุมชนหลากวัฒนธรรมที่ให้การสนับสนุนเขา

“ไม่เป็นไรที่เขาไม่ได้รับเลือกตั้ง” คุณเคอร์บีกล่าว

“แต่เขาเป็นคนแรกจากชุมชนหลากวัฒนธรรม ที่เต็มใจจะเป็นตัวแทนชุมชนในเทศบาลท้องถิ่นแห่งนี้”

รัฐบาลออสเตรเลียได้ร่วมกับประเทศต่างๆ เรียกร้องเรียกร้องมีการรับประกันว่า ผู้คนที่ต้องการหลบหนีจากกลุ่มตาลีบันจะสามารถเดินทางออกจากอัฟกานิสถานได้อย่างปลอดภัย

ออสเตรเลียยังได้ประกาศเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์แก่การองค์การข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ขอลี้ภัยที่หลบหนีออกจากอัฟกานิสถานได้


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share