สภาวะ "ลานีญา" ที่กำลังจะมาในปีนี้ ส่งผลกับออสเตรเลียอย่างไร?

รู้ทันความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศในออสเตรเลียกับอัพเดตล่าสุดจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization หรือ WMO) ที่คาดการณ์ว่าพายุเอลนีโญที่ร้อนระอุนี้กำลังจะสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้

Silhouettes of people walking through a city in the rain

La Niña conditions typically lead to cooler daytime temperatures and more rain. Source: AAP / Dean Lewins

นับตั้งแต่ปี 2566-2567 ที่ผ่านมา ปรากฎการณ์เอลนีโญ (El Niño) ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความแปรปรวนทางอากาศอย่างรุนแรง อีกทั้งยังส่งผลให้อุณหภูมิทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น

ทางองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization หรือ WMO) ได้คาดการณ์ไว้ว่าปรากฎการณ์เอลนีโญในปีนี้กำลังจะสิ้นสุดลง และมีแนวโน้มว่าจะเป็นมีปรากฎการณ์ลานีญา (La Niña) จะเข้ามาแทนภายในไม่กี่เดือนหลังจากนี้

และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้

อะไรคือเอลนีโญ (El Niño)?

เอลนีโญ คือ รูปแบบสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตลอดมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิผิวน้ำทะเลนั้นเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติ จึงทำให้เกิดสภาวะอากาศทั่วโลกมีความแห้งขึ้นและร้อนขึ้น

ส่วนในออสเตรเลียนั้น เอลนีโญนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงและความรุนแรงของไฟป่าได้ อีกทั้งยังทำให้คลื่นความร้อนทวีความรุนแรงขึ้น และก่อให้เกิดสภาวะอากาศที่แห้งแล้งขึ้นได้


เอลนีโญนั้นจะอยู่ในช่วงที่พีคที่สุดเมื่อนเดือนธันวาคมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุด เผยว่าส่งผลกระทบกับโลกรุนแรงมากที่สุดเป็นอันดับห้านับตั้งแต่มีการจัดทำสถิติ

เมื่อไหร่เอลนีโญจะจบลง?

สืบเนื่องจากการอัพเดตสถานการณ์ทางสภาพอากาศขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ที่ได้แถลงว่าปรากฎการณ์เอลนีโญประจำปี 2566-2567 นั้นเริ่มส่งสัญญาณว่ากำลังจะสิ้นสุดลง และจะเป็นช่วงเวลาที่ปรากฏการณ์เอลนีญาจะเริ่มเข้ามาแทนที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2566-2567 ที่ผ่านมา นับว่าอุณหภูมิโลกได้พุ่งสูงขึ้นที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การจบลงของปรากฏการณ์เอลนีโญในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าอุณหภูมิขอโลกจะมีแนวฉน้มว่าจะลดลง

ทางด้าน นางโค บาร์เร็ตต์ (Ko Barret) รองเลขาธิการกล่าวว่า อุณหภูมิสูงเช่นนี้จะยังคงระดับไว้ต่อเนื่องอันเกิดจากการปล่อยสารพิษและความเปลี่ยนแปลงทางอากาศในระยะยาว

"การสิ้นสุดลงของเอลนีโญไม่ได้เป๋นการบอกสัญญาณว่าอุณหภูมิจะลดลง แต่โลกของเรายังคงจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีสาเกตุสำคัญมาจากก๊าซภาวะเรือนกระจกที่ทำให้โลกไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้“ นางบาร์เร็ตต์กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า อุณหภูมิเหนือน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างมากนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อสภาวะอากาศในอีกหลายเดือนในอนาคต

ปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) คืออะไร?

ลานีญา เป็นปรากฏการณ์ทางอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อกระแสลมเพิ่มความรุนแรงจนเปลี่ยนทิศทางกระแสน้ำในมหาสมุทร โดยจะดึงเอาน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่าลงไปใต้ทะเล ซึ่งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะย่านเขตร้อนนั้น ผลกระทบของลานีญาจะแตกต่างกันกับเอลนีโญอย่างสิ้นเชิง

นั่นหมายความว่า ปริมาณน้ำฝนจะสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกและฝั่งเหนือ ส่งผลให้อุณหภูมิของอากาศลดลงในช่วงระหว่างวัน ซึ่งนั่นอาจเพิ่มความเสี่ยงในการน้ำท่วมมากขึ้นเช่นกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก WMO ที่มีการพยากรณ์ไว้ว่า จะเกิดลานีญาขึ้นในช่วงกรกฎาคมและกันยายน 60 เปอร์เซ็นต์ และช่วงสิงหาคมและพฤศจิกายนมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์

นางบาร์เร็ตต์ กล่าวเพิ่มอีกว่าความแปรปวนของสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน อันเกิดจากความร้อนสูงและความชื้นในชั้นบรรยากาศ


Share
Published 5 June 2024 2:30pm
By Jessica Bahr
Presented by Wanvida Jiralertpaiboon
Source: SBS


Share this with family and friends