วีซ่าออสฯ ชั่วคราวชนิดใหม่สำหรับพ่อแม่ ต้องมีรายได้เกิน $83,000

NEWS: รัฐบาลสหพันธรัฐกล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจำเป็นจะต้องมีรายได้ถึงขั้นต่ำหากจะเป็นสปอนเซอร์ให้พ่อแม่ขอวีซ่าชนิดใหม่

familie familienzusammenführung visa visum australien auswandern einwandern

Source: Pixabay

You can read the full version of this story in English on SBS Hindi .

เฉพาะผู้อพยพย้ายถิ่นฐานที่มีรายได้ก่อนหักภาษี $83,454.80 เป็นต้นไปจึงจะสามารถเป็นสปอนเซอร์หรือเป็นผู้รับประกันให้กับพ่อแม่ ในการยื่นขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับบิดามารดาชนิดใหม่

รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง สัญชาติ และกิจการพหุวัฒนธรรม นายเดวิด โคลแมน ได้ระบุตัวเลขดังกล่าวไว้ในกฎหมายลูกฉบับใหม่

นายโคลแมนประกาศเรื่องนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ว่าจะเปิดรับผู้สมัครเป็นสปอนเซอร์ให้พ่อแม่เพื่อขอวีซ่าชนิดใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019
เมื่อคำร้องขอเป็นสปอนเซอร์ได้รับการอนุมัติแล้ว พ่อหรือแม่ก็จะสามารถยื่นขอวีซ่าบิดามารดาแบบมีสปอนเซอร์(ชั่วคราว) โดยคาดว่าคำร้องยื่นขอวีซ่านั้นจะเปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019

วีซ่าบิดามารดาแบบมีสปอนเซอร์ (ชั่วคราว) ซับคลาส 870 นั้น จะให้ช่องทางใหม่กับพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายเพื่อมาพบกับลุกๆ ของพวกเขาและใช้เวลาร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องไม่เกินห้าปี

โดยมีโอกาสที่สามารถยื่นขอวีซ่าครั้งที่สองได้อีกห้าปี หลังจากที่ออกนอกประเทศออสเตรเลียไปก่อนเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งก็หมายความว่าพ่อแม่และปู่ย่าตายายนั้นสามารถที่จะใช้เวลาอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้ถึง 10 ปี

ข้อกำหนดเกี่ยวกับรายได้สำหรับการสปอนเซอร์ต่อครั้งที่สองนั้นยังไม่ชัดเจน

คุณสุมาน ดัว (Suman Dua) จากศีรัสไมเกรชัน (Sirus Migration) ในนครบริสเบน กล่าวว่า “ขณะนี้เราทราบว่า ใครสักคนจำเป็นจะต้องมีรายได้ $83,454.80 จึงจะมีสิทธิสปอนเซอร์ (เป็นผู้สนับสนุน) พ่อแม่ของเขาสำหรับวีซ่าชนิดใหม่นี้”

“ค่าธรรมเนียมนั้นเท่ากับ $5,000 ดอลลาร์สำหรับวีซ่าระยะยาวสามปี ส่วนค่าธรรมเนียมการขอเป็นสปอนเซอร์นั้นเท่ากับ $420 ดอลลาร์ พวกเขาบอกกับเราเมื่อไม่นานมานี้ว่าผู้ยื่นจำเป็นจะต้องพิสูจน์ว่ามีรายได้ $83,454.80 ซึ่งอาจเป็นรายได้รวมกันของครอบครัวก็ได้”คุณดัวกล่าวกับเอสบีเอสภาคภาษาฮินดี
Cả gia đình có nhiều thời gian hơn cho nhau trong lúc phong tỏa
(Image source: Rhoda Baer/Public Domain) Source: Rhoda Baer/Public Domain
                               

วีซ่าชั่วคราวแบบมีสปอนเซอร์ดังกล่าว ได้รับการออกแบบเพื่อให้บิดามารดาของผู้อพยพย้ายถิ่นฐานสามารถใช้เวลาอยู่ในประเทศออสเตรเลียได้นานยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างด้านรายได้และเงื่อนไขอื่นๆ ของวีซ่า ได้ทำให้ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานบางคนนั้นเดือดดาล

“วีซ่านี้เลือกปฏิบัติ” คุณยาสวินเดอร์ สิทธู ผู้นำชุมชนคนหนึ่งในนครเมลเบิร์นกล่าว

“ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานหลายคนไม่สามารถที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมอันสูงของวีซ่านี้ได้ เงื่อนไขต่างๆ ของวีซ่านี้ก็เข้มงวดกว่าวีซ่าสำหรับผู้มาเยี่ยมเยือน (visitor visa) ชนิดอื่นๆ อยู่แล้ว โดยจำเป็นจะต้องมีประกันสุขภาพสำหรับวีซ่านี้ มันเป็นวีซ่าที่ตั้งใจเลือกปฏิบัติต่อผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน” คุณสิทธูกล่าว

วีซ่าซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันในระยะยาว เป็นสิ่งที่ชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจำนวนหนึ่งในประเทศออสเตรเลียหนึ่งเรียกร้องมาเป็นเวลานานแล้ว คุณอาร์วินด์ ดักกัล จากนครแอดิเลด ได้ดำเนินโครงการรณรงค์เพื่อสนับสนุนความต้องการนี้ เขากล่าวว่าเงื่อนไขใหม่ต่างๆ ทำให้วีซ่านี้แพงเกินกว่าที่ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานหลายคนจะจ่ายได้

คุณดักกัลตั้งขอกังขาว่า “ทำไมวีซ่าผู้เยี่ยมเยือนจึงต้องมีการทดสอบรายได้”

“วีซ่านี้ไม่ได้ช่วยเหลือชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานที่รอคอยวีซ่าเพื่อพาพ่อแม่ของพวกเขามาที่ประเทศนี้ วีซ่านี้มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ไม่ยุติธรรม มีการทดสอบรายได้ซึ่งไม่จำเป็นแต่อย่างใด”

ตัวของผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเองจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติหลายประการจึงจะสามารถสปอนเซอร์พ่อแม่ของพวกเขาเพื่อวีซ่าใหม่ดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 17 เมษายน โดยรวมไปถึงการมีรายได้ของครัวเรือนตามที่กำหนด หลังจากที่ได้อยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียมาแล้วอย่างน้อยสี่ปี

คุณดักกัลกล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจำนวนมากจะไม่ผ่านการทดสอบรายได้

“มันยังแพงเกินไปสำหรับผู้ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติด้านรายได้ก็ตาม มันเป็นแค่วีซ่าผู้เยี่ยมเยือน มันไม่ควรจะเข้มงวดขนาดนี้ รัฐบาลได้สัญญาว่าจะมีวีซ่าซึ่งยุติธรรม ซึ่งวีซ่านี้ไม่ใช่” คุณดักกัลกล่าวกัลเอสบีเอสฮินดี โดยเสริมว่าการต่อสู้เพื่อให้มีวีซ่าสำหรับบิดามารดาซึ่งยุติธรรมนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป

ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีโคลแมน ได้ปกป้องราคาค่าใช้จ่ายสำหรับวีซ่าบิดามารดาแบบมีสปอนเซอร์ โดยอธิบายว่าเป็น “ค่าเรียกเก็บที่สมเหตุสมผล”

“มันสำคัญที่รัฐบาลนั้นจะสามารถดำเนินการระบบการตรวจคนเข้าเมืองอันยั่งยืน โดยที่ค่าใช้จ่ายของการดำเนินโครงการ ค่าใช้จ่ายของการทำการประเมินนั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นภาระต่อผู้เสียภาษีเท่านั้น ผู้ยื่นขอก็ต้องรับภาระด้วย”

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 11 April 2019 12:50pm
Updated 11 April 2019 2:24pm
By SBS Hindi
Presented by Tanu Attajarusit
Source: SBS Hindi, Pixabay


Share this with family and friends