จะเลิกจัดงาน “สกัลป์เชอร์บายเดอะซี” ที่หาดบอนไดของซิดนีย์

NEWS: กลุ่มผู้จัดกล่าวว่างาน “สกัลป์เชอร์บายเดอะซี” มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ อาจย้ายออกจากชายหาดบอนไดหลังจัด ณ สถานที่ดังกล่าวมาเป็นเวลา 23 ปี

Image of a sculpture at the seaside park with an ocean backdrop.

งานสกัลป์เชอร์บายเดอะซีที่ชายหาดบอนไดปีนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย Source: AAP

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can read the full version of this story in English on SBS News .

กลุ่มผู้จัดงาน สกัลป์เชอร์บายเดอะซี บริเวณชายหาดบอนไดซึ่งมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ กำลังหาสถานที่จัดงานแห่งใหม่ หลังกล่าวหาสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์ว่า “บั่นทอน” นิทรรศการดังกล่าวด้วยทางเท้าใหม่

ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ นายเดวิด แฮนด์ลีย์ เจ้าของงานซึ่งเป็นที่สนใจของผู้เยี่ยมชมประมาณ 450,000 คนต่อปีกล่าวว่า ทางเท้าคองกรีตซึ่งมีความยาว 279 เมตร และกว้าง 1.8 เมตร จะเป็นอุปสรรคต่องานดังกล่าวซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ และจะทำให้จำนวนของชิ้นงานที่ตั้งได้นั้นลดน้อยลง

ขณะนี้กำลังมีการสร้างทางเท้าดังกล่าวขึ้นที่บริเวณสันเนินของสวนสาธารณะมาร์กส์ จากหาดบอนไดถึงหาดทามารามา ซึ่ง(ตามปกติ)จะมีรูปปั้นตั้งเด่นอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงบริเวณดังกล่าวได้มากขึ้น

“การตัดสินใจของสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์นั้นทำลายงานสกัลป์เชอร์บายเดอะซีและทำลายบริเวณสวนสาธารณะมาร์กส์ ซึ่งเป็นหน้าต่างสู่โลกสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมงานศิลปะที่ตั้งอยู่หน้าฉากทิวทัศน์อันเป็นสัญลักษณ์จำนวนหลายแสนคนทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิ” นายนแฮนด์ลีย์กล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ (11 ก.ค.)

“เราแจ้งให้สภาเทศบาลทราบแล้วว่าครั้งนี้อาจเป็นนิทรรศการครั้งสุดท้าย”

“มันสายเกินไปแล้วที่จะยกเลิกงานปี 2019 อย่างไรก็ตาม จะมีรูปปั้นจำนวนเก้ารูปที่ไม่สามารถจัดแสดงได้ และอีก 12 รูปที่จะถูกบั่นทอนลงไปอย่างมาก”

“สวนสาธารณะมาร์กส์จะไม่เป็นฉากหลังอันบริสุทธิ์งดงามอีกต่อไปสำหรับการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติ”
Image of Mark's Park, Tamarama, during Sculptures by the Sea 2011
สวนสาธารณะมาร์กส์ ระหว่างงานสกัลป์เชอร์บายเดอะซี ปี 2011 (Image: John Gilmore via Wikimedia Commons/CC BY 3.0) Source: Image: John Gilmore via Wikimedia Commons/CC BY 3.0
งานวิจัยโดยบีไอเอสออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิคส์ (BIS Oxford Economics) ประเมิณว่างานดังกล่าวก่อให้เกิดการใช้สอยโดยตรงต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่จำนวน $11 ล้านดอลลาร์ ในขณะนี่ผู้เดินทางมาเยี่ยมเยือนนิทรรศการดังกล่าวโดยเฉพาะจากต่างรัฐและต่างประเทศนั้นก่อให้เกิดรายได้ $38.9 ล้านดอลลาร์ต่อเศรษฐกิจของรัฐนิวเซาท์เวลส์

นายแฮดลีย์กล่าวว่า ศิลปินจำนวนมากได้สร้างงานศิลปะเสร็จเรียบร้อยแล้ว “และควักเงินของตัวเองเป็นจำนวนหลายแสนดอลลาร์” สำหรับนิทรรศการในปี 2019

และเช่นเดียวกัน กลุ่มผู้จัดงานก็ได้ใช้เวลากว่าแปดเดือนเพื่อเตรียมงานดังกล่าว โดยใช้กองทุนจากสปอนเซอร์ ผู้บริจาค และรัฐบาล ดังนั้นงานจะเดินหน้าต่อไป “แต่ว่ามันก็อาจเป็นจุดจบของสกัลป์เชอร์บายเดอะซีที่บอนได”

สมาชิกสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์ นางแซลลี เบตส์ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟว่า สมาชิกสภาถูก “บิดเบือนให้เข้าผิด” หลังจากเจ้าหน้าที่ของสภาฯ กล่าวว่ากลุ่มผู้จัดงานนั้นรู้สึกพอใจกับการออกแบบทางเท้าแบบใหม่

Share
Published 11 July 2019 10:49am
Updated 11 July 2019 12:57pm
By AAP-SBS
Presented by Tanu Attajarusit
Source: AAP, SBS News


Share this with family and friends