ไม่มีเอกสารให้, ขึ้นค่าเช่าตามใจ: เจ้าของบ้านเช่าจ้องเอาเปรียบนักเรียนต่างชาติ

NEWS: นักเรียนต่างชาติกำลังถูกเอาเปรียบจากเจ้าของบ้านเช่าต่างๆ ในตลาดบ้านเช่าของซิดนีย์ ที่มีการแข่งขันกันสูง จากการค้นพบของการวิจัยโครงการหนึ่ง

Source: Pixabay

รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai

You can read the full article in English here.

จากรายงานล่าสุดพบว่า นักเรียนต่างชาติในนครซิดนีย์กำลังตกเป็นเหยื่อถูกเอารัดเอาเปรียบทางการเงิน จากเจ้าของบ้านเช่าหรือห้องเช่าที่ไร้จริยธรรม ซึ่งเก็บเงินมัดจำการเช่าห้องที่สูงเกินความจำเป็น ขึ้นค่าเช่าอย่างทันทีทันใด และไม่ยอมเก็บเอกสารการเช่าที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานเรื่อง ‘โน เพลส ไลค์ โฮม’ (No Place Like Home) หรือไม่มีที่ใดเหมือนบ้าน ของคลินิกสิทธิมนุษยชน แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ พบว่า การขาดแคลนที่พักอาศัยสำหรับนักเรียน และตลาดบ้านเช่าที่มีการแข่งขันกันสูงในซิดนีย์ ส่งผลให้เจ้าของบ้านเช่าเอารัดเอาเปรียบผู้เช่าที่เป็นนักเรียนต่างชาติ จากความไม่รู้สิทธิทางกฎหมายในฐานะผู้เช่าของพวกเขา

“นักเรียนต่างชาติจำนวนมากจ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้แก่ผู้ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของบ้าน ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ซึ่งพวกเขาพบออนไลน์” นางมาเรีย นาวาซ อาจารย์และผู้กำกับดูแลโครงการของคลินิกสิทธิมนุษยชน แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กล่าว

“เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงซิดนีย์ ที่พักก็กลายเป็นว่ามีสภาพแย่กว่าที่เห็นในโฆษณา หรือมีอย่างอื่นผิดปกติ พวกเขามักไม่ได้รับการปกป้องตามกฎหมายในฐานะผู้เช่า และเผชิญอุปสรรคในการขอรับความช่วยเหลือ”

คลินิกยังได้ระบุชี้ถึงปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงการที่เจ้าของบ้านเช่าหรือห้องเช่าเรียกเก็บค่ามัดจำการเช่าเป็นเงินจำนวนมาก การเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนที่มากกว่ากฎหมายอนุญาต การเรียกค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และการเรียกเก็บค่าบริการพื้นฐานอย่างค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊สในอัตราที่แพงลิบ

รายงานดังกล่าวได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากคำตอบที่ได้รับ ในการสนทนากลุ่มซึ่งประกอบด้วยนักเรียนต่างชาติจากมหาวิทยาลัยหลากหลายแห่งทั่วนครซิดนีย์ การสัมภาษณ์ผู้ให้บริการทางกฎหมายต่างๆ ที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัยของมหาวิทยาลัย และการวิเคราะห์สถิติจากศูนย์กฎหมายคิงส์ฟอร์ด แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ระหว่างเดือนตุลาคม 2017-เมษายน 2018