SA ผ่อนคลายล็อกดาวน์ขณะผู้นำรัฐเผยได้ข้อมูลเท็จจากผู้ติดเชื้อ

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประกาศจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในคืนวันเสาร์นี้ (21 พ.ย.) ขณะมุขมนตรี (Premier) ของรัฐเผย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางคนให้ข้อมูลเท็จแก่เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค

South Australia Premier Steven Marshall arriving to address the media during a press conference in Adelaide.

South Australia Premier Steven Marshall arriving to address the media during a press conference in Adelaide. Source: AAP

นายสตีเวน มาร์แชลล์ มุขมนตรี (Premier) ของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า เขารู้สึกโกรธมาก ที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการยืนยันผู้หนึ่ง ที่ร้านวูดวิลล์ พิซซ่า บาร์ จงใจให้ข้อมูลเท็จแก่ทีมเจ้าหน้าที่ติดตามผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

วันนี้ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 3 ราย ซึ่งทุกคนกำลังถูกแยกตัวเพื่อกักโรค

ส่งผลให้ขณะนี้มี การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่เชื่อมโยงกับกรณีการติดเชื้อกรณีนี้รวม 25 ราย

“เรื่องที่เขาบอกนั้นฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ เราจึงติดตามเขา ขณะนี้เรารู้ว่าเขาโกหก” นายมาร์แชลล์ กล่าว

“การกระทำที่เห็นแก่ตัวของบุคคลผู้นี้ได้ทำให้ทั้งรัฐตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การกระทำของเขาซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ต่อบุคคลต่างๆ ครอบครัวต่างๆ และเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”

ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าว บอกกับเจ้าหน้าที่ติดตามผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อว่า เขาไปยังร้านวูดวิลล์ พิซซ่า บาร์ เพื่อซื้อพิซซ่า แทนที่จะยอมรับว่าตนเองทำงานที่นั่นเป็นเวลาหลายกะ

แม้จะมีความจำเป็นที่จะต้องแยกตัวเพื่อกักโรคสำหรับผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ทั้งหมด แต่นายมาร์แชลล์ ได้ประกาศว่า รัฐเซาท์ออสเตรเลียจะเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัด โดยให้กลุ่มคนในครอบครัวเดียวกันสามารถไปออกกำลังกายด้วยกันได้ โดยมีผลทันที

“ผลของการโกหกในครั้งนี้ คือพวกเราต้องอยู่ในการล็อกดาวน์ 6 วัน” ผู้บัญชาการตำรวจ แกรนต์ สตีเวนส์ของเซาท์ออสเตรเลีย กล่าว

“ตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนวันเสาร์ เราจะกลับไปสู่ข้อจำกัดเดิม ที่ใช้บังคับอยู่แล้วก่อนต้นสัปดาห์นี้”

“ธุรกิจต่างๆ จะถูกจำกัดด้วยกฎความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร และจะจำกัดผู้ใช้บริการไม่เกิน 100 คนสำหรับธุรกิจให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม (hospitality) การจองโต๊ะจะถูกจำกัดให้สามารถจองได้ไม่เกินโต๊ะละ 10 คนเท่านั้น”
จะมีข้อจำกัดต่อไปนี้ที่ใช้บังคับ:

  • งานศพจะสามารถมีผู้ร่วมงานได้ไม่เกิน 50 คน และงานแต่งงานจะกลับไปสู่การอนุญาตให้มีผู้ร่วมงานได้ไม่เกิน 150 คน แต่ผู้ร่วมงานจะต้องนั่ง (ไม่มีการยืน) และจะต้องไม่มีการเต้นรำกัน
  • พิธีทางศาสนา จะถูกจำกัดให้มีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 100 คน ขณะที่การรวมกลุ่มกันเป็นการส่วนตัวจะสามารถมีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 50 คน
  • การรวมกลุ่มกัน ณ ที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล จะถูกจำกัดให้รวมกลุ่มกันได้ไม่เกิน 10 คน
  • บริการส่วนบุคคล เช่น ร้านตัดผมและร้านเสริมสวย จะถูกกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่มีการส่งเสริมให้ผู้รับบริการต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วยเช่นกัน
  • สถานออกกำลังกายในร่ม (ยิมและฟิตเนส) จะกลับมาเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนวันเสาร์ ขณะที่โรงเรียนจะกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนในเช้าวันจันทร์
ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรียได้ ปิดพรมแดนที่ติดกับเซาท์ออสเตรเลีย ขณะที่วิกตอเรียเร่งตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างเข้มข้นให้ประชาชนในเมืองเบแนลลาและพอร์ตแลนด์ เมืองส่วนภูมิภาคที่อยู่ใกล้พรมแดนเซาท์ออสเตรเลีย หลังมีการพบซากเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียที่ยังไม่ผ่านการบำบัดที่โรงงานบำบัดน้ำเสียสองแห่งในเมืองดังกล่าว

รัฐวิกตอเรีย ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่มา 21 วันติดกันแล้ว แม้ว่าขณะนี้ สาธารณสุขวิกตอเรียแจ้งว่า กำลังมีกรณีสงสัยว่าติดเชื้อ 1 ราย ที่คณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 20 November 2020 2:09pm
By Jennifer Scherer
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends