"คบซ้อน-หนี้สุม" สู่เหตุสลดดับยกครัวในซิดนีย์

NEWS: เฟอร์นานโด แมนริก เผชิญกับสภาพทางการเงินที่เลวร้าย และมีความสัมพันธ์ซ้อนกับหญิงชาวฟิลิปปินส์อายุ 17 ปี ตำรวจพบเขาเสียชีวิตพร้อมลูกและภรรยาในบ้านพักทางตอนเหนือของซิดนีย์ในเวลาต่อมา

You can read the full news article in English 

เฟอร์นานโน แมนริก (Fernando Manrique) อายุ 44 ปี และ มาเรีย ลูตซ์ (Maria Lutz) อายุ 43 ปี ถูกพบเสียชีวิตพร้อมกับลูกสาวและลูกชาย เอลิซา อายุ 11 ปี และมาร์ติน อายุ 10 ปี พร้อมสุนัขครอบครัว “เตกิลา” ที่บ้านพักทางตอนเหนือในนครซิดนีย์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016

ทั้งหมด เสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์

การพิจารณาคดีเริ่มต้น ที่ศาลพิสูจน์การเสียชีวิตลิดคอมบ์ (Lidcombe Coroners Court) นายอดัม แคซเซลเดน ผู้ช่วยที่ปรึกษาระบุว่า ยังมีสาเหตุเล็กน้อยที่น่าสงสัย ซึ่งเป็นการกระทำโดยนายแมนริก

“เขาวางแผนการสังหารครอบครัวไว้แล้วเป็นช่วงเวลาระยะหนึ่ง โดยภรรยาของเขาไม่มีส่วนรู้เห็น หรือรับรู้แผนการณ์ของเขาเลย” นายแคซเซลเดนกล่าวเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.)

สารวัตรทิมอร์ที พูลีย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ สถานการณ์ทางการเงินของนายแมนริกอยู่ในสภาพ “เลวร้าย” เขาเป็นหนี้อย่างน้อย $15,000 ดอลลาร์กับสำนักงานสรรพากรออสเตรเลีย (ATO) เป็นหนี้บัตรเครดิตอีก $25,000 ดอลลาร์ อีกทั้งยังไม่สามารถชำระเงินจำนองบ้าน 2 หลังของครอบครัว ซึ่งรวมกันเป็นมูลค่าราว $500,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ กองทุนกลางของครอบครัวเขา มียอดเงินคงเหลือเพียง $6 ดอลลาร์เท่านั้น
manrique
he family of four, Fernando Manrique, Maria Claudia Lutz, and their children 11-year-old Elisa, her brother Martin, 10, were found dead in their Davidson Source: AAP
ทั้งนี้ นอกจากปัญหาหนี้สินที่เขาได้เผชิญ ยังพบว่า เขาได้ให้การสนับสนุนทางการเงินกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขามีความสัมพันธ์ “อย่างจริงจัง” กับเธอจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่เขาเดินทางไปทำงานเดือนละครั้ง

ผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งต่อมาทราบเพียงชื่อว่า Jamilyn เธอมีอายุ 17 ปี ในวันที่พบกับนายแมนริกในบาร์ที่เธอทำงานเมื่อปี 2015 เขาบอกเธอให้ลาออกจากงาน และจะซื้อบ้านให้หนึ่งหลัง

สำหรับนางลูตซ์ ภรรยาของนายแมนริก ได้ขอที่จะหย่าร้างกับเขา

ตำรวจระบุว่า นางลุตซ์ ภรรยาของเขาตื่นเต้นกับการที่จะได้กลับไปทำงาน เนื่องจากเธอกำลังจะได้รับเงินช่วยเหลือการเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอทั้งสองคนที่มีความต้องการพิเศษ ผ่านโครงการประกันความพิการแห่งชาติ (NDIS) เป็นจำนวนเงิน $25,000 ดอลลาร์  

“เธอวางแผนที่จะมีชีวิตในอนาคตกับลูกๆ โดยไม่มีเขาอีกแล้ว” สารวัตรพูลีย์ ระบุ

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

10 วันหลังก่อนเกิดเหตุสลด นายแมนริกได้ซื้อก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จำนวน 2 ถัง และจัดแจงให้มีการนำส่งไปยังบ้าน นายไจโร แคมโปส (Jairo Campos) เพื่อนของเขา

นอกจากนี้ เขายังเดินทางไปยังร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บันนิงส์ 4 ครั้ง ในวันที่เขาสามารถทำได้ เพื่อไปซื้ออุปกรณ์ในการก่อเหตุ เขาอ้างกับเพื่อนว่า จะนำอุปกรณ์เหล่านั้นมาทดสอบการปล่อยก๊าซพิษในลานจอดรถชั้นใต้ดิน โดยได้ให้เงินกับนายแคมโปส $400 ดอลลาร์ เพื่อเป็นค่าฝากเก็บถังก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

นายแคซเซลเดนระบุว่า ดูเหมือนนายแมนริกต้องการที่จะเสียชีวิตไปพร้อมกับครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบความชัดเจนใดๆ ในส่วนนี้ เขายังระบุอีกว่า การพิจารณาจะเพ่งเล็งไปที่การส่งมอบและจัดเก็บก๊าซพิษที่ใช้ก่อเหตุ

การพิจารณาคดียังคงดำเนินต่อไป ภายใต้การดูแลของ นายเอเลน ทรัสคอตต์ รักษาการณ์ผู้ชันสูตรการเสียชีวิตแห่งรัฐ

หากคุณ หรือคนใกล้ตัวต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อ
Lifeline หมายเลขโทรศัพท์ 13 11 14
beyondblue หมายเลขโทรศัพท์ 1300 22 4636
หากต้องการใช้บริการล่ามแปลภาษา โปรดติดต่อหมายเลข 13 14 50 (TIS)

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

สงกรานต์ยุค 4.0 คนไทยในออสฯ คิดอย่างไร


Share
Published 9 April 2019 4:10pm
Updated 15 April 2019 5:02pm
By AAP-SBS
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends