ศาลแอดิเลดสั่งขังยาวชายไทยใคร่เด็ก 40 ปี

NEWS: อัยการเรียกเขาว่าเป็นคนใคร่เด็ก “ที่ไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์กฎหมายออสเตรเลีย"

Image of Ruecha Tokputza

Source: source: abc.net.au

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น)

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชายชาวไทยถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 40 ปี สามเดือน ที่นครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย โดยไม่สามารถทำทัณฑ์บนออกมาได้เป็นเวลา 28 ปี

โดยในการพิพากษา ผู้พิพากษาประจำเขต ลีเซิล แชปแมน ได้เรียกนายฤชา โต๊ะพุทรา วัย 31 ปี ว่าเป็น ‘ฝันร้ายที่สุดของเด็กๆ’ ‘ผู้จ้องที่จะละเมิดเหยื่อ’ ซึ่งเป็นภัยต่อชุมชน และการกระทำของเขานั้น ‘ต่ำช้า’

สำหรับคดีนี้ เอบีซีและสำนักข่าวของประเทศออสเตรเลียรายงานว่านายฤชา เกิดที่กรุงเทพมหานคร และพักอยู่ในย่านพักอาศัย ไมล์เอ็นด์ (Mile End) ห่างจากใจกลางนครแอดิเลดออกไปประมาณสองกิโลเมตร  เขาถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2018 จากการกระทำผิดกฎหมายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2011 เป็นเวลาประมาณหกปีครึ่ง โดยถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดอย่างไม่เหมาะสมกรณีรุนแรง ข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเด็กนอกประเทศออสเตรเลีย ถ่ายทำภาพเคลื่อนไหวโดยไม่เหมาะสม และผลิตวัสดุล่วงละเมิดเด็กนอกประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเขายอมรับสารภาพผิดต่อข้อหาต่างๆ จำนวน 51 กระทง (มีบางข้อหาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับการยินยอมถูกเพิกถอนไป) โดยมีการพบภาพถ่ายการล่วงละเมิดเด็กจำนวนประมาณ 12,500 ภาพ และวิดิโอกว่า 650 คลิปอยู่ในครอบครองของนายฤชา ซึ่งได้ทำการล่วงละเมิดเด็กจำนวนกว่า 13 ราย รวมถึงเด็กที่มีอายุเพียง 15 เดือนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเด็กๆ อยู่อาศัยที่ประเทศไทย

อัยการในคดีดังกล่าวนายฮีธ บาร์คลีย์ ได้กล่าวว่า การกระทำความผิดของนายฤชานั้น “ไม่เคยมีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์กฎหมายของออสเตรเลีย” และเมื่อเทียบกับคดีอันเป็นที่กล่าวขวัญของของนายแชนนอน แมคคูล คนใคร่เด็กซึ่งถูกจับกุมเมื่อปี 2015 ที่รัฐเดียวกันนั้น ถือว่า “รุนแรงกว่ามาก” โดยในกรณีดังกล่าว นายแมคคูลล่วงละเมิดเด็กและทารกเจ็ดรายเป็นเวลาสามปีครึ่ง และถูกพิพากษาจำคุก 35 ปี

สำนักข่าวท้องที่ในประเทศไทยยังได้รายงานว่า นายฤชาได้อาสาไปช่วยงาน ณ สถานดูแลเด็กแห่งหนึ่งที่จังหวัดลำปาง และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายทำวัสดุเกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็กไว้เป็นจำนวนมาก และมีผู้ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดอีกหนึ่งคนที่ประเทศไทย โดยตำรวจออสเตรเลียได้ประสานงานต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามของไทยแล้ว

Share
Published 22 May 2019 2:56pm
Updated 22 May 2019 11:10pm
By Tanu Attajarusit


Share this with family and friends