Explainer

กฎการกักตัวและการตรวจเชื้อโควิดเป็นอย่างไรในแต่ละรัฐในออสเตรเลีย

ขณะที่ช่วงเทศกาลวันหยุดของออสเตรเลียใกล้เข้ามาและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดในการกักตัวและการตรวจเชื้อทั่วประเทศ

Graphic showing map and woman wearing mask

Source: SBS News

ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกครั้งหลายในพื้นที่ของออสเตรเลีย จำนวนผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (contacts) ที่ต้องแยกตัวจากผู้อื่นเพื่อกักโรคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

กฎการแยกตัวจากผู้อื่นเพื่อกักโรคและคำจำกัดความของผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเปลี่ยนแปลงไปในบางรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย ขณะที่ทางการกำลังบริหารจัดการสถานการณ์ของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)

ตัวอย่างเช่น ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ในสัปดาห์นี้ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงคำจำกัดความของผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ซึ่งตอนนี้จะเน้นที่ ผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อเท่านั้น

นอกจากนี้ มณฑลนครหลวงแห่งออสเตรเลีย (Australian Capital Territory หรือเอซีที) ยังได้ผ่อนคลายข้อกำหนดการกักตัวสำหรับผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน

นี่คือกฎที่ใช้อยู่ขณะนี้สำหรับแต่ละรัฐและมณฑล

นิวเซาท์เวลส์

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ผู้คนจำนวนมากที่ได้ไปยังร้านอาหาร ผับ และไนต์คลับบางแห่งในซิดนีย์และนิวคาสเซิล ได้รับคำสั่งให้กักตัว 1 สัปดาห์ หลังจากถูกระบุว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

หน่วยงานด้านสุขภาพเป็นห่วงเกี่ยวกับการเพิ่มของผู้ติดเชื้อในพื้นที่นิวคาสเซิล ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ซูเปอร์สเปรดเดอร์ (superspreader หรือการแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วจากผู้ติดเชื้อเพียงคนเดียว) หลายเหตุการณ์ หนึ่งในเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นการระบาดที่ไนต์คลับ Argyle House เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม โดยจนถึงขณะนี้มีผู้คนที่ไปเที่ยวไนต์คลับดังกล่าว 200 คนจากทั้งหมด 680 คนพบผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก

ผู้ใดที่ไปยังที่ไนต์คลับดังกล่าวตั้งแต่เวลา 21.00 น. ในวันพุธที่ 8 ธันวาคม ถึง 03.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม ถือว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) และต้องเข้ารับการตรวจเชื้อและต้องกักตัว (self-isolate) ทันทีเป็นเวลาเจ็ดวัน

อีกเหตุการณ์หนึ่งนั้น ผู้ใดก็ตามที่ไปยัง  Finnegan's Hotel ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ในวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม ถึง 02.30 น. ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม เป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) และต้องปฏิบัติตามกฎเดียวกัน สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ แถลงในวันพุธ (15 ธ.ค.)
Healthcare workers administer COVID-19 tests at the St Vincent's Hospital drive-through testing clinic at Bondi Beach in Sydney, Wednesday, December 15, 2021.
Healthcare workers administer COVID-19 tests at the St Vincent's Hospital drive-through testing clinic at Bondi Beach in Sydney, Wednesday, December 15, 2021. Source: AAP
ในการเปลี่ยนแปลงที่ถูกประกาศออกมาเมื่อวันพุธ มุขมนตรีโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ ของนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า คำจำกัดความของผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) จะมุ่งเน้นที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ติดเชื้อเป็นหลัก

“หากคุณถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) โดยทั่วไปก็จะเป็นสมาชิกในครัวเรือน (ในบ้าน) ของคุณ (ที่ติดเชื้อ)” นายเพอร์โรต์เทต์ กล่าว

“อาจมีบางสถานการณ์ที่สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์อาจกำหนดนอกคำจำกัดความนั้นว่าคุณเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ในสถานการณ์เหล่านั้น แทนที่จะต้องกักตัว 7 วัน คุณจะต้องได้รับผลการตรวจเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ (PCR โดยตรวจเชื้อจากภายในจมูกและลำคอ) เป็นลบ"
NSW Premier Dominic Perrottet
NSW Premier Dominic Perrottet. Source: AAP
โฆษกของสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนต้านโควิดครบสองโดสแล้ว จะต้องกักตัวจนกว่าพวกเขาจะได้รับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์เป็นลบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันและผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในสถานการณ์อื่นๆ ซึ่งถูกระบุจากสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ จะยังคงต้องกักตัว 7 วันและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์

“คนส่วนใหญ่ที่กักตัวอยู่ในตอนนี้ได้ถูกระบุว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเพราะพวกเขาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับผู้ติดเชื้อ หรือเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง” มุขมนตรี เพอร์โรต์เทต์ กล่าว

"คนเหล่านี้จะต้องแยกตัวจากผู้อื่นอยู่เช่นนั้นจนกว่าพวกเขาจะกักตัวครบ 7 วันและมีผลการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์เป็นลบในวันแรกและวันที่ 6 ของการกักตัว”

"สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ จะติดต่อคนส่วนน้อยที่กำลังกักตัวอยู่ ซึ่งตอนนี้จะได้รับคำแนะนำว่าพวกเขาสามารถออกจากการกักตัวได้หลังมีผลการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์เป็นลบ"

แพทย์หญิง แคร์รี ชานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนมาตรการติดตามผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ไม่เข้มข้นเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มี

“เราทราบดีว่าความเสี่ยงสูงสุด คือผู้ที่เป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ” พญ.ชานต์ กล่าว และเสริมว่า นอกเหนือผู้ที่อยู่ในครัวเรือนเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ จะมีบางสถานการณ์ที่ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงสูง

“แล้วจะมีบางครั้ง เช่น ที่เกิดขึ้นที่ไนต์คลับในนิวคาสเซิล ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างสูง ดังนั้น เราจึงแจ้งเตือนผู้คนในทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงนั้น” พญ.ชานต์ กล่าว

การแยกตัวเพื่อกักโรคหรือการกักตัวหมายความว่า คุณต้องอยู่บ้านหรืออยู่ในที่พักของคุณและแยกตัวจากผู้อื่น แม้ว่าคุณจะได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือรู้สึกสบายดีก็ตาม

วิกตอเรีย

ในขณะเดียวกัน ชาวรัฐวิกตอเรียกว่า 700 คนถูกสั่งให้ต้องแยกตัวจากผู้อื่นหลังจากไปยังบาร์ Sircuit Bar ในย่านฟิตซ์รอย (Fitzroy) และ Peel Hotel ในย่านคอลลิงวูด (Collingwood) ในคืนวันศุกร์ (10 ธ.ค.)

ผู้คนราว 410 คนที่ Sircuit Bar และ 320 คนที่ Peel Hotel ถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contacts) พวกเขาต้องไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ทันที และต้องกักตัว 7 วันหากได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว หรือกักตัว 14 วันหากไม่ได้ฉีดวัคซีน

สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียแบ่งผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเป็น 4 ประเภทคือ: household contact (ผู้ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้ติดเชื้อ หรือใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงกับผู้ติดเชื้อภายในบ้าน ที่พักหรือสถานดูแล) social contact (ผู้ที่พบปะกับผู้ติดเชื้อระยะหนึ่งแต่ไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมบ้านกับพวกเขา) workplace (ผู้ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ภายในอาคารร่วมกันกับพนักงานทำงานที่ติดเชื้อ) หรือ education (ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภายในอาคารร่วมกันกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือ เด็กที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกัน)

ผู้ที่ถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ประเภทอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน (household contact) ต้องกักตัวที่บ้าน 7 วันหากได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและ 14 วันหากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน พวกเขาต้องได้รับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์โดยเร็วที่สุดและเฝ้าติดตามอาการของตนขณะกักตัว

ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วต้องเข้ารับการตรวจอีกครั้งในวันที่ 6 ของการกักตัวก่อนจะออกจากการกักตัวได้ ในวันที่ 7 หากมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสจะต้องได้รับการตรวจเชื้อในวันที่ 13 และสามารถออกจากการกักตัวได้ในวันที่ 14 หากได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

มีคำแนะนำให้ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อประเภทพบปะสังสรรค์กันเป็นระยะเวลาหนึ่ง (social contact) ให้ไปรับการตรวจเชื้อและแยกตัวจากผู้อื่นจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในที่ทำงานหรือในสถานศึกษาต้องแยกตัวจากผู้อื่นทันทีเมื่อได้รับแจ้ง ต้องไปรับการเชื้อแบบพีซีอาร์ภายใน 24 ชั่วโมง และกักตัวจนกว่าจะได้ผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

สาธารณสุขวิกตอเรีย กล่าวว่า องค์การอาจให้คำแนะนำโดยตรงแต่ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในกรณีอื่นๆ ที่อาจไปยังสถานที่สาธารณะที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป

ควีนส์แลนด์

รัฐควีนส์แลนด์ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางไปในเที่ยวบินที่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งเพิ่งเดินทางจากนิวคาสเซิลเมื่อเร็วๆ นี้ จะถูกระบุเป็นผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contacts) และไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันอีกต่อไป

ผู้ที่ถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ในรัฐควีนส์แลนด์จะต้องกักตัวทันที 14 วันนับจากวันที่พวกเขาไปยังสถานที่เสี่ยง และรับการตรวจเชื้อโดยเร็วที่สุด พวกเขาต้อง หลังจากนั้นพวกเขาจะได้รับการติดต่อกลับจากสาธารณสุขควีนส์แลนด์

พวกเขาถูกกำหนดให้ต้องกักตัวต่อไปแม้จะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบก็ตาม

ผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านกับผู้ที่ถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ถูกกำหนดให้เป็น secondary contacts หรือผู้สัมผัสเชื้อที่มีความเสี่ยงรองลงมา และต้องกักตัวทันที 14 วันหรือจนกว่าจะได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมจากทางการ

พวกเขาจำเป็นต้องไปรับการตรวจเชื้อเฉพาะหากมีอาการเกิดขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องกักตัวจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ หรือไปตรวจเชื้อหากใครในบ้านของพวกเขาพบผลตรวจเชื้อเป็นบวก

ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contacts) รับการตรวจเชื้อโดยเร็วที่สุดและจะต้องกักตัวจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ ในขณะที่พบปะกับผู้ติดเชื้อที่ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ (low-risk contacts)จะต้องไปรับการตรวจเชื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องกักตัว

มณฑลนครหลวงแห่งออสเตรเลีย (เอซีที)

ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ในเอซีที (ACT) จะต้องกักตัวทันที พร้อมต้องกรอกแบบฟอร์ม ACT Contact Declaration Form (เว้นแต่จะได้รับคำสั่งเป็นอย่างอื่นเมื่อได้รับการติดต่อจากสาธารณสุขเอซีที) ไปรับการตรวจเชื้อทันทีและปฏิบัติตามคำแนะนำเพิ่มเติม

กฎการกักตัวและการตรวจเชื้อขึ้นอยู่กับสถานะการฉีดวัคซีน ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วต้องกักตัว 7 วันหลังสัมผัสเชื้อไม่ว่าจะพบผลการตรวจเชื้อเป็นลบ พวกเขาสามารถออกจากการกักตัวหลังจากเจ็ดวัน แต่ต้องไปรับการตรวจเชื้ออีกครั้งในวันที่ 6 และวันที่ 12 หรือวันที่ 13 หลังจากวันสัมผัสเชื้อ

ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสจะต้องกักตัว 14 วันหลังสัมผัสเชื้อไม่ว่าจะพบผลการตรวจเชื้อเป็นลบ พวกเขาต้องไปรับการตรวจเชื้ออีกครั้งในวันที่ 12 หรือวันที่ 13 หลังจากวันสัมผัสเชื้อ จากนั้นพวกเขาสามารถออกจากการกักตัวได้ในวันรุ่งขึ้นหากได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

ตั้งแต่เวลา 23.59 น. ในวันพุธที่ 15 ธันวาคม ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) สายพันธุ์โอมิครอน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนจะต้องกักตัว 7 วันขณะที่ก่อนหน้านี้ต้องกักตัว 14 วัน

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสุขภาพของเอซีที ได้เรียกร้องให้ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) สายพันธุ์โอมิครอน เพื่อจำกัดการไปไหนมาไหนของพวกเขาในชุมชนในช่วงวันที่ 8-14 นับจากวันสัมผัสเชื้อ

ผู้ที่อยู่บ้านเดียวกับผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) สายพันธุ์โอมิครอน ไม่จำเป็นต้องกักตัวในฐานะ secondary contacts หรือผู้สัมผัสเชื้อที่มีความเสี่ยงรองลงมา อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนยังคงต้องกักตัว 14 วัน

นางวาเนสซา จอห์นสตัน รองประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเอซีที กล่าวว่า ผู้ที่ออกจากการกักตัวหลังจาก 7 วัน ควรจำกัดพบปะสังสรรค์ในชุมชนและหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก

เซาท์ออสเตรเลีย

มีการระบุสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อหลายแห่งในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ขณะเซาท์ออสเตรเลียรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64 ราย (ศุกร์ 17 ธ.ค.)

รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ได้แนะนำรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า การตรวจเชื้อ การติดตามตัว การแยกตัวและการกักตัว (TTIQ) มาใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน ซึ่งสาธารณสุขเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้คนจำนวนน้อยลงจะต้องกักตัว 14 วัน และผู้คนมากขึ้นสามารถกักตัวเป็นระยะเวลาที่สั้นลงได้ 

"ภายใต้รูปแบบ TTIQ ใหม่ ใครก็ตามที่ระบุว่าเป็นผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contacts) หรือเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) โควิด-19 จะได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุขเซาท์ออสเตรเลีย และจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำในด้านการกักตัวและการตรวจเชื้อ" สาธารณสุขเซาท์ออสเตรเลีย ระบุ

เวสเทิร์นออสเตรเลีย

สาธารณสุขของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียกล่าวว่า ได้ติดต่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้วทุกราย เพื่อระบุตัวและแจ้งผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

"เมื่อสามารถติดตามตัวผู้พบปะห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contacts) และผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ในสถานที่หนึ่งๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น ที่ทำงาน ที่บ้านของครอบครัว หรือบ้านเพื่อน ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยสถานที่เหล่านี้ต่อสาธารณะ เนื่องจากผู้ติดต่อทั้งหมดจะถูกติดตามและติดต่อตามลำดับความสำคัญ" สาธารณสุขเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุ

“อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ติดเชื้อไปยังสถานที่ที่สาธารณะเข้าถึงได้ และผู้พบปะห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contacts) และผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) นั้นไม่สามารถระบุตัวได้ในทันที จะมีการเปิดเผยชื่อสถานที่ดังกล่าวเพื่อช่วยมาตรการทางสาธารณสุข”

สาธารณสุขเวสเทิร์นออสเตรเลียได้เผยแพร่ มีการร้องขอผู้ที่ได้ไปยังสถานที่เหล่านั้นในช่วงเวลาที่ระบุไว้ให้ไปรับการตรวจเชื้อทันทีและแยกตัวจากผู้อื่นจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำโดยตรงจากสาธารณสุข

นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี

ในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) ผู้พบปะกับผู้ติดเชื้อ (contacts) จะถูกแบ่งเป็น 4 ประเภทคือ : ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contact) ผู้พบปะผู้ที่ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงต่ำ (low-risk contact) และผู้ที่ได้ไปยังสถานที่ที่น่ากังวล (locations of concern contact)

ผู้ที่ได้ไปสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะตามวันและเวลาที่เกี่ยวข้องต้องกักตัวทันที ให้โทรศัพท์ไปยังสายด่วนโควิด-19 ที่ 1800 490 484 และไปรับการตรวจเชื้อ พวกเขาจะต้องกักตัว 14 วัน

ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contact) ต้องกักตัวทันที ให้โทรศัพท์ไปยังสายด่วนโควิด-19 และไปรับการตรวจเชื้อ แต่จำเป็นต้องกักตัวจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ และมีคำแนะนำให้พวกเขาเฝ้าสังเกตอาการของตนเป็นเวลา 14 วัน

ผู้พบปะผู้ที่ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงต่ำ (low-risk contact) จะต้องติดตามอาการของเป็นเวลา 14 วันและกักตัว และต้องไปรับการตรวจเชื้อหากมีอาการเกิดขึ้น ผู้ที่ได้ไปยังสถานที่ที่น่ากังวล (locations of concern contact) ต้องไปรับการตรวจเชื้อและกักตัวจนกว่าจะได้ผลการตรวจเชื้อเป็นลบและติดตามอาการต่อไปเป็นเวลา 14 วัน

แทสเมเนีย

ในรัฐแทสเมเนีย ผู้ที่ได้ไปที่สถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางไป อาจถูกระบุว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contact) และผู้พบปะผู้ที่ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงต่ำ (low-risk contact)

โดยทั่วไปแล้วผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) คือผู้ที่มีการพบปะกันซึ่งๆ หน้าอย่างน้อย 15 นาทีกับผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ เช่น ผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกัน ผู้ที่พบปะกันทางสังคม และผู้ที่ทำงานในที่ทำงานเดียวกัน

ผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วต้องกักตัวทันทีและรับการตรวจเชื้อ พวกเขาจะต้องรับการตรวจเชื้อในวันที่ 5 หรือ 6 และสามารถออกจากการกักตัวได้หลัง 7 วันหากพบผลการตรวจเชื้อเป็นลบ ในอีกเจ็ดวันข้างหน้าพวกเขาจะถูกขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงและรับการตรวจเชื้อในวันที่ 12 หรือ 13

ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้องกักตัวทันที 14 วันนับจากวันที่สัมผัสเชื้อ พวกเขาจะต้องมีการตรวจเชื้อในช่วงเริ่มต้นของการกักตัว และในวันที่ 12 ถึง 13 และจะถูกปล่อยตัวหลังจาก 14 วันหากมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contact) ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน แต่ไม่ตรงตามข้อกำหนดสำหรับผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contact) ไม่มีการกำหนดให้พวกเขาต้องกักตัว แต่มีการขอร้องให้พวกเขาสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่สัมผัสเชื้อ และรับการตรวจเชื้อระหว่างวันที่ 3 ถึง 5

ผู้พบปะอย่างห่างๆ กับผู้ติดเชื้อ (casual contact) ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ได้ฉีดวัคซีน หากมีอาการ ควรแยกตัวจากผู้อื่นและไปรับการตรวจเชื้อทันที


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 17 December 2021 2:55pm
Updated 21 December 2021 9:40am
By Emma Brancatisano
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends