งูและแมงมุมจะชุมกว่าเดิม จากอากาศไม่ปกติ

A very large funnelweb spider donated to the Australian Reptile Park.

แมลงมุมพันธุ์ฟันเนล เว็บ (Funnel-Web) ที่สวนสัตว์เลื้อยคลานแห่งออสเตรเลีย Source: AAP

คำเตือนให้คนออสเตรเลียเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากถูกงูหรือแมงมุมกัดในฤดูร้อนปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศทำให้พวกมันออกมาเดินยั้วเยี้ยมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ วิธีเฝ้าระวังงูและแมงมุมอย่างไร


สำหรับบางคน ฤดูร้อนอาจเป็นเหมือนฝันร้าย

ราวกับว่าชื่อเสียงของสัตว์ที่เป็นอันตรายในออสเตรเลียจะยังน่ากลัวไม่พอ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าออกคำเตือนว่า จะมีงูและแมงมุมมีพิษจำนวนมากในฤดูร้อนนี้

ด้วยสภาพอากาศที่เปียกชื้น และอาหารอันโอชะจากภาวะหนูระบาดในเขตนิวเซาท์เวลส์ ส่งผลให้จำนวนงูและแมงมุมเพิ่มขึ้นในอีกสองสามเดือนหน้า

ไม่นานมานี้ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศสภาวะอากาศลานีญา (La Niña) ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเหตุให้บริเวณตอนเหนือและตะวันตกของออสเตรเลียประสบกับฤดูร้อนที่ชื้นและมีพายุเข้า

คุณเจเนวีฟ อดาโม่ (Genevieve Adamo) เภสัชกรอาวุโสของศูนย์ข้อมูลสิ่งมีพิษในรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า สภาพอากาศแบบนี้จะส่งผลให้จำนวนแมงมุมและงูออกมาจากที่หลบซ่อนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณใกล้บ้านเรือน

“งูและแมงมุมมักจะออกเพ่นพ่านในช่วงฤดูร้อน และเรามักจะอยู่นอกบ้านในบริเวณที่พวกมันอยู่ จับตาดูงูและแมงมุมให้ดีหน้าร้อนนี้ โดยเฉพาะหากคุณออกไปทำสวน ตั้งแคมป์ หรือเดินป่า”


คุณอดาโม่กล่าวว่า ทีมงานของเธอรับมือกับเหตุคนถูกงูกัดเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลานี้ เมื่อปีที่แล้ว สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังได้ออกคำเตือนชุมชนให้เฝ้าระวังอีกด้วย

การวิจัยเผยว่า คนออสเตรเลียเกือบ 3,000 คนจะถูกงูกัดในแต่ละปี และประมาณ 300 คนต้องรับการรักษาด้วยยาต้านพิษ

ออสเตรเลียนับเป็นประเทศที่มีสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดอันดับต้นๆ ตั้งแต่งูสีน้ำตาล (Brown snake) ไปจนถึงแมงมุมกรวย (Funnel-web spider)

ตัวเลขของสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Health and Welfare) พลเมืองรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นกลุ่มที่มักถูกงูและแมงมุมกัดเมื่ออยู่นอกบ้าน

คำเตือนในฤดูร้อนนี้เน้นที่ผู้อพยพย้ายถิ่นที่มาออสเตรเลียใหม่ๆ และกลุ่มคนที่มีภูมิหลังจากที่อื่น ซึ่งไม่เคยพบเห็นสัตว์มีพิษในออสเตรเลีย เหมือนเช่นที่บ้านเกิด

คุณอดาโม่ชี้ว่า แม้ว่างูและแมงมุมที่มีพิษจะพบได้ยาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีจัดการกับพวกมันอย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการปฐมพยายาลก่อนที่จะเข้ารับการรักษา
หากผู้ใดถูกแมงมุมหลังแดง (Redback spider) กัด แค่ทำความสะอาดแผล ทายาฆ่าเชื้อ และประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด โทรหาศูนย์ข้อมูลสิ่งมีพิษเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องอาการปวด และเราจะแนะนำว่าคุณควรไปโรงพยาบาลหรือไม่
ติดต่อศูนย์ข้อมูลสิ่งมีพิษได้ที่ 13 11 26
Spiders on the wall
แมงมุมบนผนัง Source: Pexels/Karolina Grabowska
การถูกแมงมุมหลังแดงกัดอาจทำให้เจ็บปวดและมีรอยแดง แต่ไม่ถือว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต และมียาต้านพิษมากมายที่ใช้รักษาการถูกแมงมุมกัด แต่แมงมุมส่วนใหญ่นั้นมักไม่เป็นอันตราย

แต่หากมีผู้ใดถูกแมงมุมสีดำตัวใหญ่หรือแมงมุมกรวยกัด นั่นถือเป็นเหตุฉุกเฉิน หากมีคนถูกกัด คุณควรให้พวกเขาอยู่นิ่งๆ โทรเรียกรถฉุกเฉิน ใช้ผ้าพันแผลกดทับบริเวณนั้นและใช้ผ้าพันส่วนทั้งหมดไว้

แผลที่ถูกแมงมุมกรวยกัดอาจก่อให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง เหงื่อออก อาเจียน หายใจลำบาก และกล้ามเนื้อกระตุก

“หากคุณออกไปทำสวน ตั้งแคมป์ หรือเดินป่า การมองเห็นงูอาจเป็นไปได้ยาก เราจึงถือว่าแผลงูกัดเป็นกรณีฉุกเฉินและอาจถึงแก่ชีวิต ผู้ใดที่ถูกงูกัดต้องเรียกรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาล ตรวจเลือดเพื่อพิจารณาว่าได้รับพิษหรือไม่ หรือต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่”

คุณฮาร์ลีย์ โจนส์ เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตจับงูและมีธุรกิจของตัวเองชื่อว่า สเนคส์ อิน เดอะ ซิที (Snakes in the City) ที่ทำงานทั่วทั้งแถบตัวเมืองและภูมิภาคในรัฐนิวเซาท์เวลส์
โดยปกติแล้ว มีงูอยู่ทุกชุมชนในซิดนีย์ เมื่อวันก่อน ผมจับงูดำท้องแดงตัวใหญ่ได้ในเขต โรส เบย์ (Rose Bay) ใกล้ๆ กับร้านอาหาร ในเมืองมีงูเหลือมอยู่ตามหน้าผาใกล้แถบพีร์มอนต์ (Pyrmont)
snake
งูเลื้อยอยู่บนไม้ Source: Pexels/Pixabay
คุณโจนส์กล่าวว่า สิ่งแรกที่ควรทำคือ หากพวกเขาพบเห็นงูในบ้าน ให้ถ่ายรูปและส่งไปให้คนจับงู พวกเขาจะสามารถระบุได้ว่าเป็นงูพิษหรือไม่ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง

ในกรณีที่ถูกงูกัด ให้ไปพบแพทย์ทันที

หากใครเป็นลมล้มลงหลังถูกงูกัด ให้ปั๊มหัวใจ (C-P-R) ทันที

ใช้ผ้าพันแผลพันรอบๆ รอยกัด จากนั้นใช้ผ้าพันบริเวณทั้งขาหรือแขนไว้ ใช้เฝือกดามให้บริเวณนั้นขยับไม่ได้ ให้ผู้ที่ถูกกัดอยู่นิ่งๆ ไว้ และไม่เคลื่อนย้ายผู้ป่วย โทรสายด่วนฉุกเฉิน 000 และให้รถฉุกเฉินนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

พยายามสังเกตสีและลายของงูที่กัด แต่อย่าพยายามจับมัน ห้ามล้างบริเวณที่ถูกกัด เพราะพิษบนผิวหนังสามารถใช้ระบุสายพันธุ์ของงูได้

อาการของการถูกงูพิษกัด คือ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดหัว อย่างไรก็ตาม ควรปฐมพยาบาลก่อนแม้ไม่มีอาการ

คุณโจนส์กล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือการไม่เข้าใกล้งูเลย เพราะหนึ่งในสี่ของการถูกงูกัดในออสเตรเลีย เกิดจากการที่มีคนเข้าใกล้งู เพื่อพยายามทำให้มันกลัวหรือฆ่ามัน

“ 98 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ถูกงูกัดมักพยายามจับหรือฆ่างู ผมว่าคุณสามารถเดาได้ว่าส่วนใหญ่เป็นคนแบบไหน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายขี้เมาที่พยายามจะทำตัวเป็นฮีโร่ พยายามฆ่างู พยายามทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และสุดท้ายอาจทำให้พวกเขาเสียชีวิต”

พวกมันจะออกมาที่ไหนบ้างในฤดูร้อนนี้?

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พวกมันสามารถปรากฎตัวได้ในทุกแห่ง เช่น งูมักชอบกองไม้หรือกองฟืนที่อยู่นอกบ้าน

แมงมุมชอบอาศัยอยู่ในรองเท้า ตะกร้าผ้า เก้าอี้พลาสติก และกระชอนตักใบไม้จากสระน้ำ พวกมันสามารถอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน

ผู้เชี่ยวชาญเตือน ถึงแม้ว่าคุณอาจคิดว่ามันตายแล้ว แต่คุณควรคิดว่ามันอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และปฏิบัติกับมันแบบนั้น อย่าหยิบมันด้วยมือของคุณ

แทนที่จะบีบหรือฆ่าแมงมุม ควรจับมันและส่งให้หน่วยงานที่สามารถรีดพิษของมันเพื่อนำไปทำยาต้านพิษสำหรับช่วยชีวิตผู้อื่นต่อไป


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share