วิกตอเรียพบผู้ติดโควิดเพิ่ม 75 รายทำทางการวิตก

รัฐวิกตอเรีย ประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนายืนยันรายใหม่ 75 รายในวันจันทร์ โดยเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขหลักสิบเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน

A COVID-19 testing facility in Melbourne.

A COVID-19 testing facility in Melbourne. Source: AAP

องค์กรด้านสุขภาพของรัฐวิกตอเรีย ประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 75 รายในวันจันทร์วันนี้ (29 มิ.ย.)

“มีการพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นรวม 71 ราย ขณะที่อีก 4 รายเป็นกรณีการติดเชื้อที่พบก่อนหน้านี้ ที่ถูกจัดประเภทใหม่” นางเจนนี มิคาคอส รัฐมนตรีด้านสุขภาพของวิกตอเรีย กล่าว

สถิตินี้เป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่สูงเป็นอันดับ 4 นับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19 เริ่มขึ้น

“นี่ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 2,099 รายในวิกตอเรีย” นางมิคาคอส กล่าว

“โชคดีที่ เรายังไม่มีผู้เสียชีวิตรายให้เกิดขึ้นในข้ามคืนที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้เสียชีวิตคงเดิมที่ 20 ราย”

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุดแบ่งออกเป็น:

  • 1 ราย ที่อยู่ในโรงแรมที่กักโรคผู้เดินทางจากต่างประเทศ
  • 14 ราย ที่เชื่อมโยงการกรณีการติดเชื้อที่พบก่อนหน้านี้
  • 37 ราย ซึ่งตรวจพบผ่านการตรวจเชื้อให้ประชาชนทั่วไป
  • 23 ราย ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนที่มาของเชื้อ
รัฐวิกตอเรีย ได้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ เป็นจำนวนหลักสิบต่อวัน เป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน

มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 41 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา และอีก 49 รายในวันอาทิตย์เมื่อวานนี้ ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากภายในท้องถิ่น

‘นี่ไม่ใช่การระบาดระลอกสอง’

นพ.ไมเคิล คิดด์ รองประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นในรัฐวิกตอเรียนั้น “น่าวิตกอย่างแท้จริง” แต่กล่าวว่า รัฐบาลสหพันธรัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับแนวทางที่รัฐวิกตอเรียบริหารจัดการการปะทุขึ้นของเชื้อไวรัสนี้

“นี่ไม่ใช่การระบาดระลอกสอง” นพ.คิดด์ บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์ราเมื่อวันอาทิตย์

“สิ่งที่เรากำลังเห็นในวิกตอเรีย เป็นสิ่งที่ได้ถูกวางแผนรับมือไว้แล้ว ตั้งแต่เมื่อมีการระบาดของเชื้อนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ”

รัฐบาลวิกตอเรียกำลังกระหน่ำตรวจเชื้อให้ประชาชนทั่วไป เพื่อพยายามป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยได้จัดการตรวจเชื้อให้ก่อนเป็นพื้นที่แรกๆ ในย่านบรอดมีโดวส์ (Broadmeadows) และคีลอร์ ดาวส์ (Keilor Downs) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

รัฐบาลวิกตอเรียจะกระหน่ำตรวจเชื้อให้ประชาชนเป็นพื้นที่ต่อไปอีก 8 พื้นที่ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อในชุมชนในอัตราสูงเช่นกัน

รัฐบาลจะบังคับให้ต้องมีการตรวจเชื้อผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่ถูกกักโรคในโรงแรม หลังมีการเปิดเผยว่าผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศร้อยละ 30 ปฏิเสธไม่ยอมรับการตรวจเชื้อ

นอกจากนี้ การตรวจเชื้อผ่านน้ำลาย ซึ่งเจ็บน้อยกว่าการตรวจเชื้อแบบปัจจุบัน จะเริ่มนำมาใช้ด้วย

ศ.คิดด์ กล่าวว่า ทางการกำลังเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า การตรวจเชื้อแบบใหม่นี้จะได้รับการตอบรับอย่างไร

“การตรวจเชื้อผ่านน้ำลายอาจเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ที่การเก็บตัวอย่างเชื้อจากจมูกและลำคอทำได้ยาก และนั่นอาจรวมไปถึงเด็กเล็กและผู้ที่อายุมากๆ ด้วย”

เขายังเตือนให้ประชาชนในออสเตรเลียทุกคนเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในหมู่คนอายุน้อย เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19

“จนถึงขณะนี้ ผู้คนจำนวนมากที่ติดเชื้อในการปะทุขึ้นของเชื้อในเมลเบิร์นเป็นคนหนุ่มสาวอายุน้อย ที่บ่อยครั้งมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ศ.คิดด์ กล่าว

“คุณอาจไม่ป่วย หรือไม่ป่วยมาก แต่หากคุณนำเชื้อไปติดพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของคุณ พวกเขาอาจล้มป่วยอย่างรุนแรงได้ หรือแม้แต่อาจเสียชีวิตได้”


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 29 June 2020 12:28pm
By SOURCE AAP - SBS
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends