วิกตอเรียหมอกควันยังคลุม นิวเซาท์เวลส์ลุ้นฝนกลุ่มใหญ่ดับไฟป่า

NEWS: หมอกควันไฟป่าปกคลุมรัฐวิกตอเรียต่อเนื่อง คาดสถานการณ์ดีขึ้นตั้งแต่เย็นวันนี้ หลังอากาศเย็นลงและมีฝนตก ส่วนนิวเซาท์เวลส์รอลุ้นข่าวดีหลังพบฝนกลุ่มใหญ่คาดช่วยดับไฟป่า

Spectators wear face masks to combat smoke haze during an Australian Open practise session at Melbourne Park in Melbourne, Wednesday, January 15, 2020. (AAP Image/Michael Dodge) NO ARCHIVING, EDITORIAL USE ONLY

Spectators wear face masks to combat smoke haze during an Australian Open January, 2020. Source: AAP

ชาวรัฐวิกตอเรียเริ่มวันใหม่ท่ามกลางหมอกควันต่อเนื่องเป็นวันที่สองตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) โดยเจ้าหน้าที่จะยังคงประกาศเตือนคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย (Hazardous) ไปจนถึงช่วงเย็นวันนี้ (15 ม.ค.) เป็นอย่างน้อย

เมื่อวานนี้ รัฐวิกตอเรียมีคุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลก หลังควันไฟป่าจากพื้นที่ภูมิภาคอีสต์กิปส์แลนด์แผ่เข้ามาปกคลุมพื้นที่ตอนกลาง และพื้นที่ทางตะวันออกของรัฐ โดยคุณภาพอากาศเมื่อวานนี้อยู่ในระดับที่เลวร้ายที่สุดในโลก โดยเจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงอาศัยอยู่ภายในบ้านและอาคารที่ปิดมิดชิด
“เมื่อคุณภาพอากาศถึงขีดอันตราย (hazardous) ไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถเกิดอาการข้างเคียงได้ ซึ่งอาจเป็นการระคายเคืองตา จมูก และลำคอ นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการไอ และอาการหายใจลำบาก” นายเบรตต์ ซัตทัน หัวหน้าหน่วยงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียกล่าวเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.)

มีการคาดการณ์ว่า สภาพอากาศจะเย็นลงและมีฝนตกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยกระจายหมอกควันจากไฟป่าให้จางลง และทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BoM) ระบุว่า ลักษณะอากาศดังกล่าวจะดำเนินไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ราวต้น 20 องศาเซลเซียส ขณะที่คุณภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ คาดว่าระดับมลพิษจะลดลงมาที่ปานกลาง (Moderate)
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีฝนตกลงมาและสภาพอากาศที่เย็นลง แต่ก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในรัฐวิกตอเรียทำงานสะดวกขึ้น เนื่องจากในบริเวณที่เกิดไฟป่า คาดว่าจะมีฝนตกลงมาเพียง 5 มิลลิเมตร และมีพายุฝนฟ้าคะนอง ซื่งทำให้เกิดฟ้าผ่าในสภาพอากาศแห้ง และอาจทำให้เกิดไฟป่าลุกไหม้ขึ้นในจุดใหม่ได้

ส่วนพื้นที่ตอนกลางของรัฐวิกตอเรียนั้น อาจมีปริมาณฝนที่จะตกลงมาอยู่ที่ระหว่าง 5 – 15 มิลลิเมตร
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดของรัฐวิกตอเรียจนถึงขณะนี้ ไฟป่าได้ลุกไหม้เป็นพื้นที่ 1.4 ล้านเฮคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 4 คน มีบ้านเรือนเสียหาย 353 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เสียหาย 548 แห่ง

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีไฟป่าที่ยังคงลุกไหม้อยู่ในพื้นที่จำนวน 17 จุด และมีการประกาศเตือนภัยฉุกเฉินพื้นที่ไฟป่าในเมืองทัมบูน (Tamboon) ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ไฟป่าในเมืองดังกล่าวก่อให้เกิดระบบอากาศขึ้นเองซึ่งไม่สามารถควบคุมได้

นิวเซาท์เวลส์มีลุ้น พบฝนกลุ่มใหญ่คาดช่วยดับไฟป่า

มีการคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (14 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงพื้นที่เกิดเหตุไฟป่าในเทือกเขาสโนว์วี (Snowy Mountain) พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ และพื้นที่ทางชายฝั่งตอนใต้ของรัฐ

“เมื่อมองในเรื่องของสถานการณ์ไฟป่า นี่เป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เราเคยพบเจอมาในรอบหลาย ๆ เดือน ในแง่ของการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์” นายเชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ (Shane Fitzsimmons) ผู้บังคับการหน่วยดับเพลิงพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Rural Fire Service) กล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์ช่อง 9 ออสเตรเลีย ในวันนี้ (14 ม.ค.) 

“เราคาดว่าจะมีฝนตกลงมาเกือบทั้งรัฐ โดยเฉพาะแนวเทือกเขาเกรท ดีไวน์ดิง (Great Dividing Range) ซึ่งเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาเกิดไฟป่าหลายจุดขึ้นพร้อม ๆ กัน คาดว่าจะมีปริมาณฝนตกลงมาระหว่าง 30 – 80 มิลลิเมตร”
นอกจากนี้ นายฟิตซ์ซิมมอนส์ยังกล่าวอีกว่า อาจเกิดฝนฟ้าคะนอง (ที่มีฝนตกลงมา) ในบางพื้นที่ ซึ่งจะมีปริมาณฝนที่ตกลงมามากถึง 100 มิลลิเมตร 

“หากฝนจำนวนนี้ตกลงมาในพื้นที่ไฟป่า นั้นจะเป็นผลดีมากต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่” นายฟิตซ์ซิมมอนส์กล่าว

แต่ผลข้างเคียงที่จะตามมากับฝนปริมาณมากนี้ คือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่ ตามมาด้วยเหตุดินโคลนถล่มซึ่งอาจไหลลงไปในแหล่งน้ำต่าง ๆ ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิง RFS นิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ได้มีการส่งอุปกรณ์กรองน้ำและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในระบบชลประทาน เพื่อเป็นการปกป้องแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภค

โดยหน่วยดับเพลิง RFS จะทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง หน่วยบริการฉุกเฉินของรัฐ (State Emergency Service หรือ SES) ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ และสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BoM) เพื่อติดตามว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ใด
จนถึงขณะนี้ มีบ้านในรัฐนิวเซาท์เวสล์ถูกทำลายจากเหตุไฟป่าฤดูกาลนี้ราว 2,160 หลัง ในจำนวนดังกล่าวมีบ้าน 1,260 หลัง ถูกทำลายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์

“ตัวเลขความเสียหายจะเพิ่มขึ้น ระหว่างที่ชุดเจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสียหายในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากไฟป่า” หน้วยดับเพลิง RFS นิวเซาท์เวลส์ระบุไว้ในทวิตเตอร์ของหน่วยงาน 

จนถึงขณะนี้ ยังคงมีไฟป่าที่ยังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้มากกว่า 100 จุด
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียระบุว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดคะเนว่าฝนจะตกลงมามากน้อยเท่าใด เนื่องจากฝนจะตกลงมาในปริมาณไม่คงที่

ที่เมืองเบกา (Bega) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีการคาดการณ์ว่าจะมีในปริมาณระหว่าง 3 – 10 มิลลิเมตร ตกลงมาในวันพฤหัสบดีนี้ (16 ม.ค.) ส่วนที่เมืองคูมา (Cooma) ในรัฐเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่า อาจมีฝนตกลงมามากถึงระหว่าง 8 – 25 มิลลิเมตร

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 15 January 2020 11:06am
Updated 15 January 2020 1:58pm
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends