วิดิโอเกมนั้น ‘เสพติดเท่ากับโคเคนหรือการพนัน’

NEWS: “ความผิดปกติเกี่ยวกับการเล่นเกม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ได้ถูกจัดเพิ่มไว้ในการจำแนกโรคนานาชาติฉบับปรับปรุงแล้ว

องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ขณะนี้การเล่นวิดิโอเกมอย่างควบคุมไม่ได้นั้นจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิตชนิดใหม่แล้ว

องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ขณะนี้การเล่นวิดิโอเกมอย่างควบคุมไม่ได้นั้นจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิตชนิดใหม่แล้ว Source: AAP

“ความผิดปกติเกี่ยวกับการเล่นเกม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ได้ถูกจัดเพิ่มไว้ในการจำแนกโรคนานาชาติฉบับปรับปรุงแล้ว

องค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ในการปรับปรุง(คู่มือ)การจำแนกโรคนานาชาติ (International Classification of Diseases, ICD-11) ที่หลายๆ ฝ่ายตั้งตารอ ว่าการเล่นวิดิโอเกมนั้นสามารถเสพติดได้เช่นเดียวกับโคเคนหรือการพนัน

“หลังจากที่ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก และตรวจสอบหลักฐานอย่างถ้วนทั่วแล้ว เราตัดสินใจว่าภาวะดังกล่าวควรจะถูกเพิ่มเติมเข้าไว้” คุณเชคาร์ แซกซีนา ผู้อำนวยการฝ่ายสุขภาพจิตและการติดสารเสพติดขององค์การอนามัยโลกกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

“ความผิดปกติเกี่ยวกับการเล่นเกม” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ “ความผิดปกติเนื่องจากการใช้สารเสพติดหรือมีพฤติกรรมที่เสพติด” ใน ICD ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 11 ซึ่งเป็นฉบับแก้ไขใหญ่ครั้งแรกในกว่าสามทศวรรษ

ถ้อยคำของบทเพิ่มเติมใหม่ๆ ดังกล่าวเป็นที่ทราบกันตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อองค์การอนามัยโลกประกาศว่าปัญหาการเล่นเกมจะได้รับการจัดว่าเป็นปัญหาทางพยาธิวิทยา (ส่งผลเสียต่อสุขภาพ)
อาการหลักๆ รวมไปถึง “การควบคุมตัวได้ที่ลดลง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่สามารถจะหยุดเล่นเกมได้ และการมุ่งเน้นต่อเกมโดยไม่สนใจสิ่งอื่นๆ
อาการหลักๆ รวมไปถึง “การควบคุมตัวได้ที่ลดลง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่สามารถจะหยุดเล่นเกมได้ และการมุ่งเน้นต่อเกมโดยไม่สนใจสิ่งอื่นๆ

“บุคคลซึ่งเล่นเกมมากเสียจนเมนเฉยต่อความสนใจหรือกิจกรรมอื่นๆ รวมถึงการนอนและการรับประทานอาหาร” คุณแซกซีนาชีแจ้งทางโทรศัพท์

ในรายที่สุดโต่ง ผู้เล่นเกมจะไม่สามารถแยกตัวเองออกมาจากหน้าจอได้ จนออกจากโรงเรียน ตกงาน และตัดขาดออกจากครบครัวและเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เล่นเกม ส่วนใหญ่ของผู้ซึ่งเล่นเกมเก่งนั้นมักมีอายุน้อย โดยที่จำนวนมากเป็นวัยรุ่น

พฤติกรรมที่แสดงอาการต้องดำเนินต่อเนื่องอย่างน้อยหนึ่งปี จึงจะถือว่าเป็นภัยต่อสุขภาพที่อันตรายร้ายแรง ตามการจำแนกโรคใหม่นี้

คุณแซกซีนากล่าวว่า มีผู้คนประมาณ 2.5 พันล้านคน หรือหนึ่งในสามของโลก ที่เล่นเกมแบบฟรีไม่เสียเงินทางหน้าจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ความผิดปกติดังกล่าวนั้นจะกระทบต่อ “คนเพียงส่วนน้อย” เท่านั้น

“เราไม่ได้บอกว่า การเล่นเกมทุกชนิดนั้นมีผลเสีย” คุณแซกซีนากล่าว
ผู้เข้าชมงานร่วมเล่นวิดิโอเกม เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่บูธของบ. นินเทนโดอเมริกาในงาน E3 ซึ่งเป็นมหกรรมคอมพิวเตอร์และวิดิโอเกมขนาดใหญ่ที่นครลอสแอนเจลิส
ผู้เข้าชมงานร่วมเล่นวิดิโอเกม เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่บูธของบ. นินเทนโดอเมริกาในงาน E3 ซึ่งเป็นมหกรรมคอมพิวเตอร์และวิดิโอเกมขนาดใหญ่ที่นครลอสแอนเจลิส (AP) Source: AP
การตอบโต้จากอุตสาหกรรมเกม

อุตสาหกรรมเกมนั้นทำเงินเป็นจำนวน $108 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกในปี ค.ศ. 2017 ซึ่งมากเป็นสองเท่าของรายรับจากการขายตั๋วภาพยนตร์ อ้างอิงข้อมูลจากซูเปอร์ดาตา (Superdata) ซึ่งติดตามภาคส่วนของเกมและสื่อเชิงโต้ตอบ (games and interactive media sector)

กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายนั้นอยู่ที่เอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีนและเกาหลีใต้ ตลาดสำคัญอื่นๆ นั้นรวมถึงสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และบราซิล

ในเกาหลีใต้และสหรัฐฯ มีคลินิกหลายแห่งผุดขึ้นเพื่อรักษาการติดวิดิโอเกม  ตลอดจนกลุ่มให้ความช่วยเหลือต่างๆ  ทั้งทางออนไลน์และในชุมชน

เกมทีเรียกกันว่า “เกมยิง” เช่น “ฟอร์ทไนท์” ซึ่งเว็บไซต์คอยให้ความช่วยเหลือที่ชื่อว่า เกม ควิทเทอส์ (Game Quitters) เรียกว่าเป็น “เกมที่ร้อนแรงที่สุดในโลก” นั้นจะเล่นด้วยเครื่องเล่นเกมได้ทางออนไลน์หรือขณะที่ออฟไลน์ก็ได้

ทว่าการรวบรวม “ความผิดปกติเกี่ยวกับการเล่นเกม” เข้าไว้ในรายการโรคขององค์การอนามัยโลกฉบับปรับปรุงใหม่นี้ก็มีผู้ต่อต้าน ทั้งจากในอุตสาหกรรมเองและจากผู้เชี่ยวชาญ

“ชั้นตอนขององค์การอนามัยโลกนั้นขาดความโปร่งใส มีความผิดพลาดอย่างมาก และขาดข้อสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์” นายไมเคิล กาลลาเฮอร์ ประธานและผู้บริหารสูงสุดของสมาพันธ์ซอฟท์แวร์เพื่อความบันเทิงกล่าวผ่านแถลงการณ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
หนึ่งในสามของผู้คนทั่วโลกเล่นเกมแบบฟรีทางหน้าจอ
หนึ่งในสามของผู้คนทั่วโลกเล่นเกมแบบฟรีทางหน้าจอ (AP) Source: AP
ในงานวิจัยที่จะตีพิมพ์ในวารสารพฤติกรรมเสพติดต่างๆ กลุ่มนักวิจัย 36 คนกล่าวว่า มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะตั้งให้มีกลุ่มใหม่นี้ขึ้น

พวกเขาเขียนในงานวิจัยชิ้นหนึ่งซึ่งวิเคราะห์บทประพันธ์ทางด้านการศึกษาค้นคว้าต่างๆ ว่า “จากความหนักหน่วงของการจำแนกการวินิจฉัยโรคดังกล่าว และผลกระทบวงกว้างต่อสังคม เราขอเรียกร้องให้ผู้ร่วมงานของเราที่องค์การอนามัยโลกนั้น ในตอนนี้ให้ยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อนโดยเลื่อนการดำเนินการอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ออกไปก่อน”

(คู่มือการจำแนกโรค) ICD นั้นระบุการบาดเจ็บ โรค ภาวะ และสาเหตุการตายกว่า 50,000 อย่าง และถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการวินิจฉัยโรคและการประกันสุขภาพ

“มันช่วยให้เราเข้าใจเป็นอย่างมากว่าอะไรทำให้ผู้คนเจ็บป่วยและเสียชีวิต และจะได้ลงมือเพื่อป้องกันความทุกข์ทรมานและช่วยชีวิตผู้คน” ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส กล่าวผ่านแถลงการณ์

โดย ICD ฉบับใหม่นี้ยังได้รวมแพทย์แผนโบราณเข้าไว้ด้วยเป็นครั้งแรก ซึ่งก็มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนหลายล้านคนทั่วโลก

Share
Published 21 June 2018 12:19pm
By SBS Newsroom
Presented by Tanu Attajarusit
Source: AAP, AFP, SBS News, AP


Share this with family and friends