ทำไมคนถึงแห่กันย้ายไปอยู่ควีนส์แลนด์?

ข้อมูลจากสำมะโนประชากรที่เผยแพร่ออกมาในสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่า ในระยะเวลา 5 ปีจนถึงปี 2021 มีผู้คนย้ายจากพื้นที่อื่นในออสเตรเลียไปอาศัยอยู่ในควีนส์แลนด์มากกว่าไปยังรัฐและมณฑลอื่นๆ

A map of Australia with Queensland highlight and arrows pointing towards the state, image of Queensland beach behind it.

Net interstate migration to Queensland was considerably higher in Queensland than any other Australian state or territory in the five years to 2021. Source: SBS

ประเด็นสำคัญในข่าว
  • ข้อมูลจากสำมะโนประชากรเผยว่า มีคนย้ายจากรัฐอื่นไปยังควีนส์แลนด์มากกว่าที่ใดในออสเตรเลีย
  • ผู้คนกว่า 107,500 คนย้ายจากรัฐและมณฑลอื่นไปยังรัฐควีนส์แลนด์
  • ตัวเลขดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าโดยเฉพาะในรัฐหนึ่งที่มีผู้คนจำนวนมากย้ายออกไปจากรัฐ
ข้อมูลจากสำมะโนประชากรแสดงให้เห็นว่า มีผู้คนจากภายในออสเตรเลียย้ายไปยังควีนส์แลนด์มากกว่าไปยังรัฐและมณฑลอื่นๆ ในช่วง 5 ปีจนถึงปี 2021

รัฐควีนส์แลนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐแห่งแสงแดดจ้า มีประชากรสุทธิเพิ่มขึ้นจากประชาชนที่ย้ายไปอยู่จากรัฐอื่น โดยผู้คนที่ย้ายเข้าไปนั้นมากกว่าจำนวนผู้คนที่ย้ายไปยังแทสเมเนียและเอซีที ในช่วง 5 ปีจนถึงปี 2021 ทั้งนี้ควีนส์แลนด์ แทสเมเนีย และเอซีที เป็นสามรัฐที่มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานของประชาชนภายในประเทศ

ประชากรของรัฐควีนส์แลนด์เพิ่มขึ้นจากผู้คนภายในออสเตรเลียที่ย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่น โดยมากกว่าจำนวนคนต่างรัฐที่ย้ายไปอยู่ในเอซีทีถึง 10 เท่า โดยมีจำนวนสุทธิ 107,500 คนเมื่อเทียบกับ 10,600 คนที่ย้ายไปอยู่ในเอซีที ขณะที่รัฐแทสเมเนียมีประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 15,300 คนจากการย้ายเข้าไปอยู่ของผู้คนจากรัฐอื่น
A map of Australia with net interstate migration growth and loss, QLD had a gain of 107,500 people while the NT lost 13,500 people.
Interstate migration of people in Australia 2016-2021. Source: SBS / Census 2021, ABS
คุณ โอด เบอร์นาร์ด นักประชากรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ กล่าวว่า การย้ายถิ่นอาศัยของผู้คนภายในออสเตรเลียไปยังรัฐควีนส์แลนด์นั้นไม่ใช่กระแสใหม่

“ควีนส์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางหลักในออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงปีทศวรรษ 1970 และอาจก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ดังนั้น จริง ๆ แล้ว นี่เป็นเพียงการตอกย้ำกระแสนิยมที่มีอยู่” คุณ เบอร์นาร์ด กล่าว

เธอกล่าวต่อไปว่า ปัจจัยด้านราคาที่ไม่สูงจนเกินเอื้อม สภาพอากาศ และรูปแบบการใช้ชีวิต (ไลฟ์สไตล์) เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้คนมุ่งหน้าไปยังควีนส์แลนด์

“ฉันคิดว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ผู้คนตระหนักว่าบริสเบนเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพ นั่นคือมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีงานอีเวนต์และบริการต่างๆ มากมายที่ผู้คนสามารถทำในอุตสาหกรรมเหล่านั้นได้ และเห็นได้ชัดว่านี่ทำให้ง่ายขึ้นในระดับหนึ่งจากการทำงานทางไกลได้” คุณ เบอร์นาร์ด กล่าว

โอกาสดีๆ และรูปแบบการใช้ชีวิต (ไลฟ์สไตล์)

คุณแมตทิว พูน ช่างภาพอิสระ และครอบครัวของเขาได้ย้ายจากเพิร์ทไปยังบริสเบนในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเขากล่าวว่าพวกเขาชอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้

เหตุผลหลักของการย้ายรัฐคือ อิลลิโอนา เคว็ก ภรรยาของเขาต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ สำหรับงานของเธอในอุตสาหกรรมการเงิน
A mum, dad and two young girls smile and pose in a park with the cityscape in the background.
อิลลิโอนา เคว็ก และแมตทิว พูน ย้ายจากเพิร์ทไปอยู่ที่บริสเบนในปี 2021 Source: Supplied / Matthew Poon
“เธอมองหาโอกาสที่จะเติบโตและพัฒนาอาชีพการงานของเธอ และมีเพียงตัวเลือกไม่มากนักในเพิร์ท แต่มีโอกาสมากกว่าในบริสเบน ซิดนีย์ และเมลเบิร์น” คุณพูนกล่าว

ท้ายที่สุด พวกเขาชอบแนวคิดที่จะย้ายไปอยู่ในบริสเบน ดังนั้นภรรยาของคุณพูนจึงขึ้นเครื่องบินไปพบกับนายจ้างที่อาจเสนองานให้เธอทำ และกลับไปพร้อมกับข้อเสนอที่น่าสนใจถึง 3 งาน

คุณ เคว็ก ไม่ใช่คนที่ย้ายมาจากรัฐอื่นเพียงคนเดียวในบทบาทผู้จัดการด้านการลงทุนที่เธอทำอยู่

“พนักงานครึ่งหนึ่งมักมาจากซิดนีย์หรือเมลเบิร์น เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดย้ายมาที่นี่ในช่วงที่เกิดโควิดระบาด” คุณ เคว็ก กล่าว

สิ่งดึงดูดใจอื่นๆ

ครอบครัวนี้มีความสุขกับการอาศัยอยู่ในควีนส์แลนด์

พวกเขาซื้ออะพาร์ตเมนต์ในย่านชานเมืองชั้นในของบริสเบน และลูกสองคนเข้าเรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน

ขณะที่คุณพูนกล่าวว่าบ้านของพวกเขาอาจมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยหากซื้อบ้านแบบเดียวกันในเพิร์ท แต่ก็น้อยกว่าที่พวกเขาจะต้องใช้จ่าย หากพวกเขาเลือกย้ายไปอยู่ที่เมลเบิร์นหรือซิดนีย์

เขากล่าวว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในบริสเบนดีกว่าที่เพิร์ทมาก โดยเฉพาะเครือข่ายการขนส่งสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐบาลท้องถิ่น เช่น สนามเด็กเล่น

"และมีอะไรให้ทำมากมายในบริเวณใกล้เคียงกับที่เราอาศัยอยู่ในบริสเบน เมื่อเทียบกับเพิร์ท" คุณพูนกล่าว

เขาชอบที่เขาสามารถใส่กางเกงขาสั้นได้ในฤดูหนาวในควีนส์แลนด์ และเสริมว่าลูกสาวของเขาก็ได้ประโยชน์เช่นกัน
สภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นกว่าหมายความว่าลูกๆ ของเขาไม่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (eczema) นับตั้งแต่ย้ายรัฐ

คุณพูน ซึ่งได้สร้างเครือข่ายคนรู้จักที่ให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจและสร้างชื่อเสียงในฐานะช่างภาพอิสระในเพิร์ท กล่าวว่า เขามีงานเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากต้องตั้งตัวใหม่ในสถานที่ใหม่

เขากล่าวว่า เขาได้ใช้ช่วงเวลาการปรับตัวเพื่อรับหน้าที่เลี้ยงดูบุตรและดูแลบ้านมากขึ้น

แต่ครอบครัวนี้ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ที่บริสเบนนานแค่ไหน

ในขณะที่ความคิดที่จะกลับไปเพิร์ทเพื่ออยู่ใกล้ญาติพี่น้องของคุณพูนนั้นมีอยู่เสมอ แต่โอกาสที่จะได้อยู่ที่บริสเบนในช่วงที่บริสเบนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2032 ก็น่าดึงดูดสำหรับทั้งคู่เช่นกัน

รัฐที่คนย้ายออกไปเป็นจำนวนสูงสุด

ตัวเลขการย้ายถิ่นสุทธิระหว่างรัฐยังชี้ให้เห็นว่ารัฐใดที่ผู้คนย้ายออกไปอยู่ที่ควีนส์แลนด์มากที่สุด

รัฐนิวเซาท์เวลส์พบสถิติมีผู้คนย้ายออกไปอยู่รัฐอื่นกว่า 102,200 คน

คุณแอชลีย์ เฟลล์ นักวิจัยด้านสังคมของ McCrindle กล่าวว่าปัญหาต่างๆ เช่น ราคาที่อยู่อาศัยที่ผู้คนสามารถเอื้อมถึง การแออัดคับคั่งและปัญหาคอขวดของโครงสร้างพื้นฐานในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ล้วนส่งผลให้ผู้คนย้ายออกไปจากรัฐนิวเซาท์เวลส์

“ความแออัดคับคั่ง เวลารอคอยสิ่งต่างๆ ที่ค่อนข้างสูงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และบางครั้งราคาบ้านในซิดนีย์ก็สูงกว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีถึง 14 เท่า ดังนั้นจึงมีหลายเหตุผลที่ผลักดันให้ผู้คนย้ายจากนิวเซาท์เวลส์ไปอยู่ที่อื่น” คุณเฟลล์กล่าว

นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี วิกตอเรีย เวสเทิร์นออสเตรเลีย และเซาท์ออสเตรเลีย มีผู้คนที่ย้ายไปอยู่รัฐอื่นเช่นกัน โดยในรัฐและมณฑลเหล่านี้ มีการสูญเสียประชากรที่ย้ายไปอยู่รัฐอื่นต่ำสุดคือ 1,600 คนและสูงสุดคือ 13,400 คน


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 14 November 2022 3:42pm
By Aleisha Orr
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends