กาชาดออสเตรเลียเร่งขอรับบริจาคเลือด

ผู้ลงทะเบียนบริจาคเลือดส่วนใหญ่ต้องยกเลิกนัดหรือมาไม่ได้ตามนัดหมายเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ศูนย์รับบริจาคเลือดออกมาขอให้ผู้ที่บริจาคเลือดได้มาช่วยกันบริจาคเป็นการด่วน

Australian Red Cross Lifeblood has issued an immediate appeal for thousands of people to donate blood or plasma. Source: AAP

กดเพื่อฟังสัมภาษณ์

LISTEN TO

กาชาดออสเตรเลียเร่งขอรับบริจาคเลือด

SBS Thai

03/01/202207:13

Play

ช่วงวันหยุดยาวโดยปกติเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของการรับบริจาคเลือดอยู่แล้ว ภาคบริการโลหิตของกาชาดออสเตรเลียหรือไลฟ์บลัด (Lifeblood) รายงานว่า ปีนี้ยอดบริจาคยิ่งลดลงอย่างมากเนื่องจากโควิด-19

ก่อนหน้านี้ ข้อกำหนดของบางรัฐที่ต้องแสดงผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยวิธีพีซีอาร์ก่อนเข้ารัฐ ประกอบกับมีผู้ถูกจัดเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากทำให้ระยะรอผลตรวจเชื้อยืดยาวขึ้นอีก บางคนต้องรอผลตรวจถึงหกวัน

คุณแคต สโตน (Cath Stone) หัวหน้าเครือข่ายศูนย์รับบริจาคของไลฟ์บลัด ระบุว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจเชื้อและกักตัวสืบเนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว เป็นสาเหตุให้หลายคนยกเลิกนัดบริจาคเลือด

"ตอนนี้เข้าช่วงวันหยุดยาว ผู้บริจาคของเราหลายคนวางแผนไปพบหน้าครอบครัวและทำกิจกรรมอย่างอื่น เราจึงขอให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาช่วยเหลือโดยพิจารณาร่วมบริจาคเลือด" คุณสโตนกล่าว

"การบริจาคใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะช่วยต่อชีวิตและมอบความหวังแก่ใครสักคนและครอบครัวของเขา เลือดของคุณจะไปถึงผู้ป่วยจำนวนมาก ทั้งผู้ประสบอุบัติเหตุ ผู้เข้ารับการผ่าตัด คุณแม่อายุน้อยกับลูก รวมทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับการรักษาตลอดช่วงเวลานี้"

ผู้ลงทะเบียนบริจาคเลือดกว่าครึ่งยกเลิกนัดหรือมาตามนัดไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีผู้บริจาคเพิ่มเติมแทนผู้ที่ไม่สามารถมาบริจาคได้

กาชาดออสเตรเลียขอให้มีผู้มาบริจาคเลือดอย่างน้อย 3,200 คนภายในช่วงเปิดปีใหม่ โดยหมู่เลือดโอและเอเป็นหมู่เลือดที่มีความต้องการสูงสุด

ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเกือบร้อยละ 90 ต้องการเลือดจากสองหมู่เลือดนี้ จึงต้องมีผู้บริจาคเลือดทั้งสองหมู่นี้ทุกสัปดาห์เพื่อให้มีปริมาณเลือดสำรองเพียงพอ รัฐควีนส์แลนด์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องการผู้บริจาคมากที่สุด

"ออสเตรเลียต้องการรับบริจาคเลือดทุก ๆ 18 วินาที ในช่วงชีวิตของชาวออสเตรเลียราว 1 ใน 3 ต้องการรับเลือดหรือผลิตภัณฑ์เลือด" คุณสโตนกล่าว

"หากคุณอายุระหว่าง 18 ถึง 75 ปี มีสุขภาพแข็งแรง และไม่อยู่ระหว่างรอผลตรวจโควิดหรือกักตัวอยู่ โปรดพิจารณาทำแบบทดสอบคัดกรองคุณสมบัติผู้บริจาคที่เว็บไซต์ lifeblood.com.au" 

คุณเฮเลน วอลช์ (Helen Walsh) ผู้แทนภาคบริการโลหิตรัฐวิกตอเรีย รัฐแทสเมเนีย และรัฐเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า การมีเลือดสำรองสม่ำเสมอเป็นเรื่องจำเป็นมาก

"ช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่นี้ เราจำเป็นต้องเติมปริมาณเลือดในคลังเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเลือดสำรองเพียงพอให้ผู้ป่วยโดยต่อเนื่อง" คุณวอลช์กล่าว

"อีกประเด็นหนึ่งสำหรับเราคือองค์ประกอบหนึ่งของเลือด ที่เรียกว่า เกล็ดเลือด (platelet) เก็บไว้ได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้น เกล็ดเลือดเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว จึงมักใช้ในเหตุฉุกเฉินและใช้ในการรักษามะเร็ง ทั้งนี้ ต้องอาศัยผู้บริจาคถึงสี่คนเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดหนึ่งถุง จึงต้องรับบริจาคอยู่ตลอด"

คุณวอลช์เสริมว่า ทางศูนย์รับบริจาคยังสนับสนุนให้ผู้มีเลือดหมู่ที่พบน้อยกว่ามาร่วมบริจาคด้วยเช่นกัน

"เราอยากให้มั่นใจว่าคลังเลือดของออสเตรเลียสะท้อนภาพประชากรของเรา... การหาชนิดเลือดที่เข้ากับผู้ป่วยคนหนึ่ง ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงสำคัญมากที่เราต้องมีเลือดสำรองที่หลากหลาย นั่นหมายความว่าผู้บริจาคของเราก็หลากหลายด้วยเช่นกัน" คุณวอลช์กล่าว

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health Organisation) พบว่าปริมาณเลือดสำรองทั่วโลกร้อยละ 42 อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งมีจำนวนประชากรคิดเป็นเพียงร้อยละ 16 ของประชากรโลก อีกทั้งภาวะขาดแคลนเลือดยังเป็นปัญหาหนักในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา

การรณรงค์บริจาคเลือดประจำปี 2021 ขององค์การอนามัยโลกรณรงค์มุ่งเน้นบทบาทของคนหนุ่มสาวในการช่วยรักษาปริมาณเลือดสำรองให้อยู่ในระดับปลอดภัย

ตัวอย่างเช่นคุณราจ (Raj) วัย 23 ปี เล่าผ่านองค์การอนามัยโลกเมื่อต้นปีที่แล้วว่า เขาบริจาคเลือดเป็นประจำที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบังกลาเทศตั้งแต่อายุ 18 ปี

"ผมอยู่ในช่วงวัยเยาว์ของชีวิตและมีสุขภาพสมบูรณ์ ตอนนี้ผมจึงตั้งเป้าบริจาคเลือดทุกสามเดือน และตั้งใจจะบริจาคต่อไปตราบใดที่ยังแข็งแรง ผมขอให้ทุกคนมาร่วมกันบริจาคเลือด และร่วมมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาชีวิตคน" คุณราจกล่าว

---

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai