ผู้หญิงรับภาระงานหนักขึ้นช่วงโควิดระบาด

Mother working from home with children in background

Working from home isn't always the easiest answer for women. Source: Getty Images

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

รายงานฉบับใหม่โดยบริษัทดีลอยท์พบว่า ผู้หญิงในออสเตรเลียเผชิญภาระงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด แม้ว่าที่ทำงานหลายแห่งจะหันมาใช้นโยบายทำงานแบบยืดหยุ่นจากบ้านก็ตาม


LISTEN TO
Women's workloads higher during COVID pandemic image

ผู้หญิงรับภาระงานหนักขึ้นช่วงโควิดระบาด

SBS Thai

07/06/202106:09
คุณซาราห์ บาร์เทอร์ (Sarah Barter) เจ้าของกิจการ เล่าว่าเธอถูกบีบให้ออกจากงานเพราะนายจ้างไม่ตอบสนองต่อความจำเป็นในชีวิตนอกเวลางานของเธอ

"พยายามจัดการว่ามื้อเย็นนี้กินอะไร จัดการความเรียบร้อยของทุกคน ดูแลลูกทำการบ้านให้เสร็จ สำหรับฉันตอนนั้นดูเป็นไปไม่ได้เลย"

รายงานฉบับใหม่พบว่า สมดุลงานกับชีวิตส่วนตัวของหลายคนสั่นคลอนตั้งแต่ภาวะโรคระบาดโควิด-19 เริ่มขึ้น คุณแคลร์ ฮาร์ดิง (Clare Harding) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ดีลอยท์ ออสเตรเลีย (Deloitte Australia) อธิบายว่า

"ผู้หญิงทำงานมากขึ้น พวกเธอบริหารจัดการเรื่องเกี่ยวกับครัวเรือนมากขึ้น... บางครั้งประโยชน์ของการทำงานแบบยืดหยุ่นก็มีข้อเสียเช่นกัน"
คุณจอร์จี เดนท์ (Georgie Dent) เป็นนักเขียน นักวิจารณ์ นักรณรงค์ด้านสตรีกับครอบครัว และแม่ของลูกสามคน พร้อมกับรับหน้าที่ผู้อำนวยการบริหารของ เดอะแพเรนท์ฮูด (The Parenthood) ซึ่งเป็นองค์กรให้การสนับสนุนแก่ผู้ปกครอง

คุณเดนท์กล่าวว่า ขณะที่นายจ้างเปิดทางเลือกให้ทำงานจากบ้านกันมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงนี้กลับเพิ่มแรงกดกันแก่ผู้หญิง

"เมื่อปราศจากขอบเขตเส้นแบ่งระหว่างงานกับชีวิตครอบครัว ย่อมนำไปสู่ภาวะเหนื่อยล้าจนหมดไฟ"

ผลสำรวจชี้ว่า ผู้หญิงชาวออสเตรเลียมีความพึงพอใจในอาชีพการงานลดลงจากร้อยละ 69 ช่วงก่อนโรคระบาดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 47

ร้อยละ 46 กลัวว่าจะเกิดผลกระทบแง่ลบต่ออาชีพการงานหากปิดช่องทางติดต่อนอกเวลางานและไม่สามารถทำงานนอกเวลางานได้ ร้อยละ 57 กำลังพิจารณาว่าอาจลาออกงานจากปัจจุบันภายในสองปี และร้อยละ 23 อยากเลิกทำงาน

มีเพียงร้อยละ 43 ที่เชื่อว่านายจ้างสนับสนุนพวกเธออย่างเพียงพอช่วงโรคระบาด
"นั่นหมายความว่าอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เราไม่ต้องการไปอยู่ในจุดนั้น สถานการณ์ที่เราอยากเห็นคือ เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังผ่านพ้นโควิด ความเท่าเทียมระหว่างเพศก็ฟื้นคืนกลับมาด้วย" คุณแคลร์ ฮาร์ดิง กล่าว

คุณจอร์จี เดนท์ มองว่า อัตราการมีส่วนร่วมที่ลดน้อยลงแสดงให้เห็นว่าประเด็นสมดุลงานกับชีวิตส่วนตัวไม่ได้อยู่ในสถานะสู้ดีนัก

"นี่เป็นปัญหาจริง ๆ เพราะเราทราบดีว่าผู้หญิงในออสเตรเลียพยายามดิ้นรนรักษาสมดุลระหว่างงานกับชีวิตครอบครัวมาตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว"

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงในที่ทำงานที่ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศมีประสบการณ์เรื่องนี้ต่างออกไป รายงานพบว่าร้อยละ 4 ของผู้หญิงทั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจและพึงพอใจกับนายจ้างปัจจุบันให้คะแนนความพึงพอใจในอาชีพการงานในระดับสูง บางคนสูงถึงร้อยละ 70
"เป็นเรื่องสำคัญที่นายจ้างควรส่งเสริมให้ผู้หญิงทำงานคิดถึงเรื่องขอบเขต เส้นแบ่งระหว่างงานกับชีวิตครอบครัว รวมถึงช่วยทำให้เส้นนั้นชัดเจนสำหรับลูกจ้างหญิง" คุณฮาร์ดิงแนะนำ

ด้านคุณจอร์จี เดนท์ กล่าวว่า แค่การทำงานแบบยืดหยุ่นนั้นไม่เพียงพอ

"ดังนั้นแค่เสนอจัดการทำงานแบบยืดหยุ่นจึงไม่เพียงพอ หากผู้หญิงยังคงไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ "

ส่วนคุณซาราห์ บาร์เทอร์ เสริมว่า เธออยากเห็นผู้หญิงหันมาคิดนอกกรอบกันมากขึ้น

"ทุกวันนี้ การตั้งธุรกิจของตัวเองง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน และการเป็นนายตัวเองมีข้อดีหลายอย่าง ฉันคิดว่าคุณแม่หลายคนคงเริ่มตระหนักเรื่องนี้กันแล้ว ดังนั้น ที่ทำงานทั้งหลายจะต้องพยายามหนักขึ้นเพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้"


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share