10 อย่างที่คุณต้องมีเพื่ออยู่รอดจากการหย่า

คลาริสซา เรย์วอร์ด ทนายด้านครอบครัว เคยเห็นมาทุกอย่างแล้วเกี่ยวกับการหย่าร้าง เธอเชื่อว่าเป็นไปได้ที่คุณจะรอดจากการหย่ามาได้ โดยยังคง ‘มีเกียรติและศักดิ์ศรี’ หากคุณทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

การหย่าร้างเป็นเหตุการณ์ของการสูญเสียคนที่รักหรือผูกพันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง ที่เราจะเคยประสบในชีวิต จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในระหว่างการหย่าร้างบุคคลที่เป็นคนดีคนหนึ่ง ทันใดนั้นก็กลับกลายเป็นดั่งคนบ้าคลั่ง

ในฐานะทนายความด้านการหย่าร้าง ฉันเคยเห็นมาแล้วทุกรูปแบบ ผู้คนที่ในสถานการณ์อื่นๆ นั้นก็เป็นคนปกติอย่างที่สุด แต่ทันใดนั้นก็กลับกลายเป็นคนเสียสติ โดยประพฤติตนอย่างที่แม้แต่เองก็ไม่คิดว่าตนจะทำเช่นนั้นได้ การอกหักหัวใจสลายทำเช่นนี้กับเรา ความรักเป็นเหมือนรถไฟเหาะตีลังกาที่ประเดี๋ยวก็เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นดีใจอย่างสุดกู่ และอีกชั่วครู่ก็ตกถึงจุดต่ำสุด

คนส่วนใหญ่ที่ประสบกับการหย่าร้าง กล่าวว่า พวกเขา ‘แค่ต้องการให้มันจบๆ ไปเสียที’ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาหมายถึง พวกเขาต้องการให้ความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นผ่านไป ดังนั้น หากคุณกำลังครุ่นคิดว่าจะหย่าร้างดีหรือไม่ หรืออาจกำลังหย่าร้างอยู่ นี่คือ 10 อย่างที่คุณจำเป็นต้องมี เพื่อจะได้อยู่รอดจากการหย่าร้าง โดยไม่บาดเจ็บมากนัก

1.ทัศนคติ ‘น้ำครึ่งแก้ว’

ถ้ามีช่วงเวลาใดที่เราควรจะมุ่งเน้นถึงสิ่งดีๆ ให้มากที่สุดแล้วละก็ ช่วงที่คุณกำลังหย่านี่แหละที่ควรจะทำ การหัวใจสลายเต็มไปด้วยความท้าทาย การจะผ่านช่วงนี้ไปให้ได้และก้าวต่อไปอย่างมีเกียรติ ต้องใช้ความกล้าหาญ หากคุณสามารถมุ่งคิดถึงแต่สิ่งดีๆ แทนที่จะคิดถึงแต่สิ่งแย่ๆ ก็จะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้

2. สิ่งใหม่ๆ

การหย่าร้างของคุณอาจหมายถึงคุณมีเวลามากขึ้นสำหรับตัวเอง ซึ่งคุณอาจไม่ได้ใช้เวลาเหล่านี้มาสักระยะแล้ว ให้เตรียมพร้อมที่จะหากิจกรรมทำสำหรับช่วงเวลาเหล่านี้ ทำสิ่งที่คุณอยากทำมานานแล้ว แต่ทำไม่ได้เมื่อก่อน ให้ลองไปเข้าชั้นเรียนทำอะไรใหม่ ลองเล่นกีฬาเป็นทีม หรือเข้ากลุ่มทางสังคม ให้พยายามหาสิ่งที่คุณชอบทำ เพื่อคุณจะได้มีสิ่งที่คุณเฝ้ารออย่างใจจดจ่อให้มาถึง

3. กระดาษทิชชูกล่องโตๆ

ขอให้จำไว้ว่า มันไม่เป็นไรที่คุณจะร้องไห้ คุณจะรู้สึกถึงอารมณ์ที่รุนแรงหลากหลายระหว่างที่คุณหย่าร้าง รวมทั้งความรู้สึกตกใจ เศร้าใจ และโกรธ (และบางครั้งก็มีอารมณ์เหล่านี้ทุกอย่างพร้อมกัน) ให้จำไว้ว่า นี่เป็นเรื่องธรรมดาของการสูญเสียคนที่รักหรือผูกพัน แต่อย่ากลัวที่จะไปขอรับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่มืออาชีพ หากอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้นมากเกินกว่าที่คุณจะทนไหว

ทิชชูกล่องโตๆ Source: Pixabay

4. ไหล่ของใครสักคน (หรือสองคน) ที่คุณจะซบเพื่อร้องไห้

ข้อแนะนำหนึ่งที่ยอดเยี่ยมซึ่งลูกความคนหนึ่งเคยบอกฉันคือ เธอตกลงกับเพื่อนคนหนึ่งว่า ไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยาม เธอจะสามารถโทรไปหาเพื่อนคนนั้นเพื่อพูดคุยได้ เตรียมกระดาษทิชชูกล่องโต แล้วหาคนที่คุณไว้ใจที่จะสนับสนุนคุณ แต่อย่าใช้บุคคลนั้นพร่ำเพรื่อ บางครั้ง แค่การรู้ว่ามีเพื่อนหรือมีสมาชิกครอบครัวสักคน ที่ยินดีจะรับฟังคุณในช่วงเวลาที่คุณต้องการก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

5. ทีมที่ปรึกษาที่คุณไว้ใจได้

หากคุณป่วย คุณต้องไปพบแพทย์ ดังนั้น ขณะที่คุณกำลังเผชิญเหตุการณ์ส่วนตัวที่สำคัญ มันคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จะไปขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพ เพื่อช่วยคุณให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่มีอารมณ์ขึ้นลงเหมือนรถไฟเหาะตีลังกานี้ให้ได้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ เพื่อคุณจะได้ก้าวต่อไปและมีความสุขกับชีวิตของคุณ ต้องเลือกที่ปรึกษาของคุณอย่างระมัดระวัง เพื่อให้พวกเขาชี้แนะคุณ ดังนั้น คุณจะต้องรู้แน่ชัดว่าคุณต้องการการหย่าร้างแบบไหน และหาทีมที่ปรึกษาที่สามารถประสานงานกับคุณเพื่อให้คุณบรรลุจุดมุ่งหมายของคุณได้ (และไม่ใช่ในทางกลับกัน)

6. มีแผน

การหย่าร้างหมายถึงการเปลี่ยนแปลง โดยระยะแรกมันอาจดูเหมือนชีวิตคุณตกอยู่ในความโกลาหล โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้เป็นผู้เลือกจะยุติการแต่งงานของคุณ และหนทางที่ดีที่สุดที่จะบริหารจัดการความโกลาหลนี้ได้ คือการคิดแผนขึ้นมา ด้วยการมุ่งเน้นถึงสิ่งที่คุณต้องการบรรลุให้ได้ในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ คุณจะสามารถเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเองได้ ขณะที่ยกเอาความกดดันออกไป ให้เขียนบันทึกเพื่อดูความก้าวหน้าของตัวเอง ไม่ใช่เขียนบันทึกถึงสิ่งเลวร้ายที่คุณรู้สึก แต่ให้บันทึกเกี่ยวกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น

7. เพลงอกหักสักเพลง (หรือสองเพลง)

นี่อาจฟังดูน่าขบขัน แต่การหาเพลงสักเพลงที่คุณสามารถร้อง (และเต้นไปด้วยได้!) จะช่วยคุณอย่างมากเมื่อหลายอย่างกำลังยากลำบาก ให้จำไว้ว่ามีเพลงอกหักเลิกกับแฟนอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกเป็นเพลงบัลลาดช้าๆ ที่ได้อารมณ์ ซึ่งช่วยเราให้ระบายความเศร้าออกไป อย่างเพลงจากภาพยนตร์เรื่อง บริดเจต โจนส์ ไดอารีส์ (Bridget Jones Diaries) ที่เธอร้องเพลงออกมาสุดเสียงคลอไปกับเพลง ออล บาย มายเซล์ฟ (All by Myself) ขณะที่ดื่มไวน์และช็อกโกแลตไปด้วย ประเภทที่ 2 คือเพลงที่เราใช้เมื่อผ่านช่วงระบายความเศร้าออกไปแล้ว และเรากำลังกลับมายืนบนด้วยสองขาของเราเองอีกครั้ง ช่วงนี้จำเป็นต้องเป็นเพลงที่จรรโลงใจให้กำลังใจตัวเอง ซึ่งบางทีอาจเป็นเพลงร็อก หรือเพลงบัลลาดที่ทรงพลัง เพลงโปรดของฉันสำหรับช่วงเวลานี้ คือเพลง ไอ วิล เซอร์ไวฟ์ (I will Survive) หาเพลงสัก 2-3 เพลง แล้วเปิดเพลงเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมา เมื่อพบช่วงที่เกิดความยากลำบาก ให้ร้องเพลงเหล่านี้ให้สุดเสียงในห้องนั่งเล่นของคุณ แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นมา

หาเพลงสักเพลงที่คุณสามารถร้อง (และเต้นไปด้วยได้!) Source: Pixabay

8. ข้อมูล

อย่าให้การขาดความรู้นำคุณไปสู่ความรู้สึกกลัว ยิ่งคุณมีข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือกของคุณมากเท่าไร โดยเฉพาะทางเลือกด้านกฎหมายและการเงิน ก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้นที่คุณจะเริ่มวางแผนและตัดสินใจในสิ่งต่างๆ ให้ไปพบกับทนายความด้านครอบครัว เพื่อคุณจะได้เข้าใจทางเลือกด้านกฎหมายของคุณ ให้หาความช่วยเหลือจากนักวางแผนด้านการเงินเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การจัดงบการใช้จ่าย ให้มองหาเครือข่ายที่จะให้ความช่วยเหลือแก่คุณ และรวบรวมข้อมูลที่จะช่วยตอบคำถามต่างๆ ที่ค้างคาใจคุณ แม้คุณอาจไม่ชอบคำตอบที่ได้รับ แต่ยิ่งคุณเริ่มต้นเข้าใจอนาคตของคุณเร็วเท่าไร คุณก็จะเริ่มหาทางไปถึงที่นั่นได้เร็วขึ้นเท่านั้น

9. ตั้งกฎพื้นฐาน

สิ่งที่ฉันเห็นลูกความหลายคนทำพลาดคือระหว่างและหลังการหย่าแล้ว พวกเขาไม่มีการตั้ง ‘กฎพื้นฐาน’ ว่า พวกเขาจะปฏิบัติตัวอย่างไรกับอดีตคู่ครอง คุณอาจได้รับการสื่อสารต่างๆ ที่หยาบคายและเชือดเฉือนจิตใจจากอดีตคู่ครอง ดังนั้นคุณจึงต้องพยายามและกำหนดขอบเขตต่างๆ ให้ชัดเจน เช่น หากคุณต้องการได้รับการติดต่อจากอดีตคู่ครองเพียงสัปดาห์ละครั้งทางอีเมล ก็ขอให้บอกไปเช่นนั้น แต่ให้จำไว้ว่าตัวคุณเองต้องยึดถือกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ตั้งไว้ด้วย ขณะที่คุณไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของอดีตคู่ครองได้ แต่คุณสามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้ ดังนั้น ให้ระลึกไว้ว่า หากคุณตั้งเงื่อนไขใดๆ ขึ้นมา ตัวคุณเองต้องพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นด้วย

10. ความสามารถในการให้อภัยและลืมไปเสีย

การให้อภัยเป็นคุณสมบัติที่สวยงามของมนุษย์ และเป็นสิ่งที่สามารถใช้เพื่อท้าทายตัวเราเองได้ระหว่างการหย่าร้าง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะจมอยู่กับอดีต ซึ่งมักนำไปสู่การกล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นต้นเหตุให้ความสัมพันธ์ของคุณจบสิ้นลง ให้ยอมรับถึงบทบาทของตัวคุณเอง ตระหนักว่าคุณและอดีตคู่ครองอาจไม่สามารถมองหน้ากันได้ติดอีกต่อไปในหลายๆ เรื่อง และเริ่มวางแผนชีวิตในอนาคตของคุณ

การหย่าร้างจะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านของชีวิตคุณ และการเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราสูญเสีย บางครั้งก็รู้สึกว่าเราสูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเองไป ขณะที่มันอาจยากลำบากอย่างยิ่งที่จะค้นหาตัวเอง แต่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ก็ยังมีสิ่งดีที่ซ่อนอยู่ หากคุณสามารถเริ่มมองเห็นโลกภายใต้แสงใหม่ แน่นอว่าว่า มันจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นทุกวัน แต่หากคุณใช้เวลามุ่งเน้นไปยังสิ่งที่เป็นแง่บวก สิ่งที่สร้างความหวัง คุณจะก้าวผ่านการหย่าร้างไปได้โดยง่ายกว่าบางคน ให้จำไว้ว่า ชีวิตของคุณนั้นล้ำค่า และสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ทุกนาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด

You can read the article in English on SBS Insight page here.

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai