ผู้เชี่ยวชาญ: คริสต์มาส,วันสิ้นปีอาจหายนะ ถ้าไม่ล็อกดาวน์ทั่วซิดนีย์

นักระบาดวิทยาบางคนเชื่อว่า อาจจำเป็นต้องมีการขยายเวลาการบังคับใช้ข้อจำกัดที่มีอยู่ขณะนี้ออกไปจนถึงต้นเดือนมกราคม

NSW has recorded a 10th consecutive day without a locally-acquired COVID-19 case, prompting eased restrictions on gatherings and relaxed rules on mask usage.

NSW has recorded a 10th consecutive day without a locally-acquired COVID-19 case, prompting eased restrictions on gatherings and relaxed rules on mask usage. Source: Getty Images AsiaPac

วันคริสต์มาสและวันสิ้นปี มีแนวโน้มจะกลายเป็นเหตุการณ์แพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในขั้น “หายนะ” จากความเห็นของนักระบาดวิทยาบางคน ซึ่งกล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่มีขณะนี้สำหรับพื้นที่ชายหาดทางเหนือของซิดนีย์ (Northern Beaches) อาจไม่เพียงพอที่จะจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้

จำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 70 รายในวันอาทิตย์ หลังพบผู้มีผลการตรวจเชื้อเป็นบวกรายใหม่อีก 30 รายในข้ามคืนวันเสาร์

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ คือ 28 ราย มีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อเป็นกลุ่มที่ เอวาลอน (Avalon) ขณะที่อีก 2 ราย เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายหาดทางเหนือของซิดนีย์ หรือนอร์เทิร์น บีชเชส (Northern Beaches)  ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุถึงต้นตอของการติดเชื้อได้

ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอร์เทิร์น บีชเชส ได้รับคำสั่งที่เข้มงวดให้อยู่บ้านจนกว่าจะถึงเที่ยงคืนของวันพุธ (23 ธ.ค.) นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เป็นไปได้ที่ข้อจำกัดที่ถูกนำมาใช้ขณะนี้ อาจถูกต่อเวลาออกไปหลังจากนั้น ซึ่งจะมีการตัดสินใจในเรื่องนี้ในวันพุธ

ดร.โทนี เบล็กลี นักระบาดวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจากศูนย์การศึกษาด้านประชากรและสุขภาพโลก ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น กล่าวถึงการล็อกดาวน์ในขณะนี้ว่า “เป็นแบบแผนการปฏิบัติเพื่อประคองสถานการณ์” ซึ่งจำเป็นต้องถูกขยายเวลาออกไปจนถึงหลังช่วงปีใหม่

“พวกเขาอาจผ่อนคลายข้อจำกัดเล็กน้อยในวันคริสต์มาสและจากนั้นจำกัดมากขึ้นอีกครั้ง ถ้าจะให้ผมเดา ผมคิดว่าพื้นที่ทางเหนือของซิดนีย์เหล่านั้นจำเป็นต้องถูกแยกออกจากส่วนที่เหลือของประเทศและส่วนที่เหลือของซิดนีย์จนถึงอย่างน้อยหลังช่วงปีใหม่” ดร.เบล็กลี บอกกับ เอสบีเอส นิวส์

นี่อาจใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำที่จะควบคุมให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจนถึงระดับที่เชื้อถูกกำจัดให้หมดไปได้ ดร.เบล็กลี เสริม

ด้าน ศ.ไรนา แมกอินไทร์ นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในครั้งนี้แตกต่าจากที่เกิดขึ้นที่ ครอสโรดส์ โฮเทล (Crossroads Hotel) ในซิดนีย์ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากเราสามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า จะมีเหตุการณ์ที่แพร่กระจายเชื้อออกไปอย่างมาก 2 เหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 25 และ 31 ธันวาคม
Epidemiologist Professor Raina MacIntyre.
Professor Raina MacIntyre believes Christmas Day and New Year's Eve could be 'calamitous' for Sydney's growing COVID-19 cluster. Source: Professor Raina MacIntyre
“เรารู้ว่าจะมีผู้คนที่จะติดเชื้อในวันคริสต์มาส ซึ่งจะอยู่ในภาวะที่ร่างกายสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้สูงสุดในช่วงวันสิ้นปี ...จะเป็นเหตุการณ์ที่แพร่กระจายเชื้อออกไปได้มากกว่าเหตุการณ์ใดๆ” ศ.แมกอินไทร์ บอกกับ เอสบีเอส นิวส์

“สมมุติว่า เรามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 40 รายพรุ่งนี้ ที่ไม่ถูกตรวจพบ นั่นจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 120 รายในวันคริสต์มาส 360 รายในวันสิ้นปี และกว่า 1,000 รายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม”

โอกาสที่เราจะจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อครั้งนี้ได้จะมีมากขึ้น หากการล็อกดาวน์เกิดขึ้นสำหรับพื้นที่ซิดนีย์และปริมณฑลทั้งหมด และขยายเวลาต่อไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 26 ธันวาคม ศ.แมกอินไทร์ กล่าว

“ฉันคิดว่า เราสามารถพยายามกอบกู้วันคริสต์มาสและพยายามให้ยังคงมีการเฉลิมฉลองต่อไปได้ แต่การจะทำเช่นนั้นได้นั้น การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเป็นเวลาสั้นๆ ทั่วทั้งซิดนีย์และปริมณฑลจะเป็นมาตรการที่ชาญฉลาด” ศ.แมกอินไทร์ กล่าว

“จากนั้น เราค่อยมาประเมินสถานการณ์ใหม่ในวันพฤหัสบดี และหากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเลขหลักเดียว นั่นจะเป็นสัญญาณที่ดีมาก แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งที่ฉันเป็นห่วงที่สุดคือวันสิ้นปี”

ซิดนีย์และปริมณฑลรอคอยอย่างหวาดหวั่น

โอกาสของเราที่จะมีฤดูร้อนอย่างปกติ ในเดือนมกราคม ขึ้นอยู่กับว่า เราสามารถควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในนอร์เทิร์น บีชเชส ได้ดีเพียงไร ดร.เบล็กลี กล่าว

แต่ในช่วงที่เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ที่ผู้คนมักรวมกลุ่มสังสรรค์กัน ดูเหมือนว่าการควบคุมสถานการณ์อาจทำได้ยาก

“จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าเราจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่น่าจะมีการติดเชื้อบางรายที่หลุดรอดออกมาได้” ดร.เบล็กลี กล่าว

หากมีการพบผู้ติดเชื้อผุดขึ้นมาในส่วนอื่นๆ ของเมือง ซิดนีย์และปริมณฑลจะต้องถูกปิดกั้นจากส่วนอื่นๆ ของออสเตรเลีย นักระบาดวิทยาผู้นี้ กล่าว

“หากเราเห็นกรณีการติดเชื้อเหล่านั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านอกพื้นที่นอร์เทิร์น บีชเชส ผมก็คิดว่าจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างทันทีทันใด ที่จะให้พื้นที่ซิดนีย์และปริมณฑลทั้งหมดต้องลดการเฉลิมฉลองคริสต์มาส” ดร.เบล็กลี กล่าว
Epidemiologist Dr Tony Blakely.
Epidemiologist Dr Tony Blakely says Greater Sydney will need to be partitioned off if the Northern Beaches cluster spreads. Source: Tony Blakely
มาตรการเหล่านี้รวมไปถึงการรวมกลุ่มกันในจำนวนคนที่ลดลงและการเฉลิมฉลองกลางแจ้งหรือภายนอกอาคาร ดังนั้น พยากรณ์อากาศของวันนั้นจึงสำคัญอย่างยิ่ง ขณะนี้ มีการพยากรณ์ว่ามีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ ที่ฝนจะตกในวันคริสต์มาส

“การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสอย่างเต็มรูปแบบในซิดนีย์นั้น หากมีการติดเชื้อก่อนหน้านี้ที่เล็ดรอดออกมาได้ ก็อาจกลายเป็นหายนะ” ดร.เบล็กลี กล่าว

“เสียสติไปแล้ว” ที่ไม่ยอมออกกฎให้สวมหน้ากากอนามัย

ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้ตำหนิรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่ชักช้าในการออกมาตรการล็อกดาวน์ ชักช้าในการเพิ่มข้อจำกัดการรักษาระยะห่างทางสังคม และล้มเหลวในการบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย

“เราได้เห็นความชักช้าในการล็อกดาวน์ เราได้เห็นความล่าช้าในการกลับไปใช้กฎ 4 ตารางเมตรและอื่นๆ เหล่านี้ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ซึ่งก็ดี แต่มันควรจะเกิดขึ้น 48 หรือ 72 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น” ดร.เบล็กลี กล่าว

เขากล่าวว่า เป็นเรื่องที่ “เสียสติไปแล้ว” ที่ไม่มีการออกกฎบังคับให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้นั้น

“พวกเราในวิกตอเรียต่างเกาหัวด้วยความงุนงง เช่นเดียวกับชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาว่า เหตุใดหน้ากากอนามัยจึงไม่ถูกกำหนดให้ผู้คนต้องสวมใส่”

“มันจึงดูเหมือนการเสียสติ มันไม่มีต้นทุนใดๆ ในการทำเช่นนี้ มันช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มากขึ้นเปิดต่อไปได้ มันแค่ไม่สะดวกเล็กน้อยที่จะทำ แต่ความจริงแล้ว หากทุกคนในซิดนีย์สวมหน้ากากอนามัยในตอนนี้เมื่อพวกเขาออกนอกบ้าน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนคับคั่ง สำหรับสถานที่ต่างๆ ที่อาจมีเชื้อโควิดซุกซ่อนอยู่ ก็อาจหมายความว่า เราจะไม่ได้เห็นเชื้อเหล่านั้นเลย”

ศ.แมกอินไทร์ กล่าวว่า มาตรการที่ให้ผู้คนทำตามความสมัครใจนั้น โดยทั่วไปแล้ว จะมีคนที่ปฏิบัติตามราว 50 เปอร์เซ็นต์

ฉันคิดว่า หากเราบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและทำให้ระบบคิวอาร์โคดส์ (QR Codes) อัตโนมัติทั้งหมด โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ข้อมูลลงในเว็บไซต์และเราสามารถแตะแล้วไปได้เลย นั่นจะช่วยได้อย่างมาก ศ.แมกอินไทร์ กล่าว

“เนื่องจากความร้ายแรงของสิ่งที่รอเราอยู่ในวันคริสต์มาสและวันสิ้นปี และผลลัพธ์ที่อาจเป็นความหายนะ ฉันจึงคิดว่าเราควรจะปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าเสียใจภายหลัง”

ดร.เบล็กลี และ ศ.แมกอินไทร์ เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐและมณฑลต่างๆ ในการปิดพรมแดนสำหรับผู้ที่มาจากพื้นที่นอร์เทิร์น บีชเชส และพื้นที่ซิดนีย์และปริมณฑล และใช้มาตรการการกักกันตัวเพื่อกักโรค 14 วัน แม้จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่คนในหลายๆ ครอบครัวไม่สามารถพบหน้ากันได้

"เราต้องปิดพรมแดน เนื่องจากหากมีผู้ติดเชื้อเล็ดรอดออกไปยังซิดนีย์ และคริสต์มาสจะทำให้เกิดการปะทุขึ้นของเชื้อ ซึ่งจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ" ดร.เบล็กลี กล่าว

“มันไม่น่ารื่นรมย์และนับเป็นโชคร้ายอย่างยิ่งที่มันเกิดในช่วงเวลานี้ของปี แต่ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น”


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 21 December 2020 11:13am
Updated 21 December 2020 11:17am
By Caroline Riches
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends