เหตุเผาครอบครัวทำผู้ชายหลายคนฉุกคิด

รัฐมนตรีด้านการป้องกันความรุนแรงในครอบครัวของควีนส์แลนด์ กล่าวว่า การตายของ นางแฮนนาห์ คลาร์ก และลูกๆ ของเธอ ส่งผลให้มีผู้ชายจำนวนมากขึ้น “อย่างเหลือเชื่อ” ไปขอรับความช่วยเหลือเพื่อยุติพฤติกรรมการใช้รุนแรง

Mourners hug at a makeshift shrine near the scene of the car fire that killed Hannah Clarke and her three children

Mourners hug at a makeshift shrine near the scene of the car fire that killed Hannah Clarke and her three children Source: AAP

จำนวนผู้ชายที่กำลังไปขอรับความช่วยเหลือ เพื่อยุติการก่อเหตุรุนแรงในครอบครัวในรัฐควีนส์แลนด์ พุ่งสูงขึ้น หลังครอบครัวหนึ่งถูกเผาทั้งเป็นจนเสียชีวิตในนครบริสเบน

นายโรแวน แบกซ์เตอร์ สังหาร นางแฮนนาห์ คลาร์ก ดญ.อาไลชาห์ วัย 6 ปี ดญ.ไลอานาห์ วัย 4 ปี และ ดช.เทรย์ วัย 3 ปี เมื่อเขาราดน้ำมันใส่ตัวเอง และจุดไฟเผารถยนต์ของครอบครัวบนถนนสสายหนึ่งในนครบริสเบน เมื่อเช้าวันพุธสัปดาห์ที่แล้ว

นายแบกซ์เตอร์ เสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น โดยเขาใช้มีดแทงตัวเอง

เหตุการณ์จู่โจมที่น่าตกใจดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้คนมากขึ้น ไปขอรับความช่วยเหลือจากบริการด้านความรุนแรงในครอบครัว นางได ฟาร์เมอร์ รัฐมนตรีด้านการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว ของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าว

“ฉันได้คุยกับหลายคนที่ทำงานในด้านความรุนแรงในครอบครัว และทุกคนรู้สึกเศร้าสลดกับการตายของแฮนนาห์ และลูกๆ ที่อายุยังน้อยของเธอ” นางฟาร์เมอร์ บอกกับ เอเอพี

“แต่พวกเขายังบอกด้วยว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พวกเขาได้เห็นการโทรศัพท์เข้ามาพุ่งสูงขึ้น จากผู้คนที่มาขอรับความช่วยเหลือ และสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชาชนที่จะขอรับความช่วยเหลือ เพื่อยุติพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง”
Hannah Baxter and her three children, Aaliyah, 6, Laianah, 4, and Trey, 3.
Hannah Clarke and her three children, Aaliyah, six, Laianah, four, and Trey, three. Source: Facebook
รายละเอียดเกี่ยวกับการยุติความสัมพันธ์ของร้าวฉานของนายแบกซ์เตอร์และนางคาร์ก ยังคงผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดเผยว่า นายแบกซ์เตอร์เข้ารับคำปรึกษาด้านปัญหาครอบครัว และปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอให้เขาได้สิทธิปกครองบุตรครึ่งหนึ่ง

นายแบกซ์เตอร์ ยังปฏิเสธคำแนะนำของทนายความของเขาเองในระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยกับนางคลาร์ก และปฏิเสธที่จะลงนามในคำสั่งที่จะช่วยให้เขาได้สิทธิปกครองบุตร 165 วันต่อปี

แต่นายแบกซ์เตอร์ กลับลงนามในข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ที่ให้เขาสามารถใช้เวลาอยู่กับลูกๆ ได้เท่าๆ กับนางแฮนนาห์ คลาร์ก ผู้เป็นแม่ของเด็กๆ

นางซูซาน คลาร์ก มารดาของนางแฮนนาห์ คลาร์ก บอกกับ รายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวของเธอได้รับความชอกช้ำทางจิตใจและถูกข่มเหงทางใจจากนายโรแวน สามีที่เหินห่างกันไปของเธอ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นการข่มเหงทารุณทางร่างกาย ส่งผลให้นางแฮนนาห์ คลาร์ก หวาดกลัวว่าตัวเธอเองจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
มารดาของนางแฮนนาห์ คลาร์ก กล่าวว่า ลูกสาวของเธอ “หวาดกลัวที่จะเดินออกมาจากความสัมพันธ์” แต่พยายามก้าวออกมาทีละนิดๆ ในช่วงก่อนหน้านี้

เธอกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง ที่ลูกสาวของเธอพูดถึงความคิดที่จะจัดการร่างพินัยกรรม

ครอบครัวคลาร์ก อ้างว่า นายแบกซ์เตอร์เฝ้าสะกดรอยตามดูความเคลื่อนไหวของนางคลาร์ก ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ และรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนตลอดเวลา

“เขาไม่อนุญาตให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี เธอทำงานในอุตสาหกรรมฟิตเนส แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นได้ เธอต้องปกปิดร่างกายไว้” นางซูซาน คลาร์ก กล่าว
Queensland Minister for Child Safety Di Farmer speaks during Question Time at Parliament House in Brisbane, Tuesday, November 26, 2019.
Queensland Minister for Child Safety Di Farmer speaks during Question Time at Parliament House in Brisbane, Tuesday, November 26, 2019. Source: AAP
“ในตอนแรก เราคิดว่าเขาแค่เป็นคนระเบียบจัด แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เรารู้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น เขามีพฤติกรรมควบคุมบงการเธอ มันต้องเป็นไปตามที่โรแวนต้องการ หรือไม่เช่นนั้น ก็ต้องแหลกกันไปข้างหนึ่ง”

“เขายังสามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมทำให้เธอทำตามที่เขาต้องการได้ คืนก่อนที่เขาจะสังหารครอบครัว เขาคุยโทรศัพท์กับลูกๆ แล้วร้องไห้ เมื่อเธอวางสาย หรือลูกๆ วายสาย เธอบอกกับฉันว่า ‘แม่คะ ฉันรู้สึกสงสารเขาจัง’”

“เขาเล่นบทคนที่ตกเป็นเหยื่อได้เก่ง เรารู้ว่าไม่มีทางที่เธอจะบอกว่า ‘ฉันจะไปแล้วนะ แล้วเดินออกจากประตูไป’”

“เธอบอกกับฉันว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ ถ้าเขาฆ่าฉัน?’”

ครอบครัวคลาร์ก กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า เหยื่อได้รับการคุ้มครองที่ดีกว่านี้ให้ปลอดภัยจากผู้ที่ข่มเหงพวกเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการจัดตั้งระบบให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้หญิง ที่กำลังทนทุกข์ทรมานจากเงื้อมือของความรุนแรงในครอบครัว

เมื่อวันเสาร์ ครอบครัวคลาร์กได้โพสต์ข้อความลงสื่อสังคมออนไลน์ ขอบคุณสาธารณชนที่บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือพวกเขา โดยขณะนี้มีเงินบริจาคมากกว่า 206,000 ดอลลาร์แล้ว

ครอบครัวคลาร์กกล่าวว่า พวกเขาถูกบีบให้ต้องเป็นหนี้ เนื่องจากนายแบกซ์เตอร์ “ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวมาหลายปีแล้ว และจากการที่ต้องต่อสู้กับปีศาจตนนี้”

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังได้รับผลกระทบจากการข่มเหงทางเพศ หรือจากความรุนแรงในครอบครัว ให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1800RESPECT หรือ 1800 737 732 หรือไปที่เว็บไซต์ .ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

เล่าประสบการณ์ตรงถูกตรวจเชื้อโคโรนาในออสเตรเลีย


Share
Published 25 February 2020 11:31am
By SBS News
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends