นิวเซาท์เวลส์ รายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ติดเชื้อในชุมชน 112 ราย ในจำนวนนั้น 34 รายไปไหนมาไหนในชุมชนขณะอยู่ในระยะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ โดยเป็นการพบผู้ติดเชื้อจากผู้ไปรับการตรวจเชื้อทั้งหมด 46,000 คน
มีผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ 63 รายที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล ในจำนวนนั้น 18 รายกำลังอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤตและ 4 รายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลเหล่านั้น 25 รายอายุต่ำกว่า 55 ปี และ 14 รายอายุต่ำกว่า 35 ปี ผู้ป่วยที่อยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต รายหนึ่งอายุ 20 ปีเศษ หนึ่งรายอายุ 30 ปีเศษ อีกหนึ่งรายอายุ 40 ปีเศษ 5 รายอยู่ในวัย 50 ปีเศษ 6 รายอายุ 60 ปีเศษ 3 รายอยู่ในวัย 70 ปี และ 1 รายอยู่ในวัย 80 ปี
นางกลาดิส เบเรจิกเลียน กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ “เป็นสมาชิกในครอบครัว หรือเป็นผู้พบปะใกล้ชิดอย่างมาก” กับผู้ติดเชื้อที่พบก่อนหน้านี้
“ฉันต้องการเน้นย้ำอีกครั้ง อย่างที่เรากล่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ว่า หากคุณนำตัวเองออกไปรับความเสี่ยง คุณกำลังทำให้คนทั้งครอบครัวต้องเสี่ยงไปด้วย และนั่นยังหมายความว่าสมาชิกครอบครัวขยายคนอื่นๆ ของคุณ รวมทั้ง เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานของคุณ ก็ต้องเสี่ยงไปด้วย” นางเบเรจิกเลียน บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (12 ก.ค.)
มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชนจำเป็นต้อง “มีจำนวนใกล้ศูนย์ให้มากที่สุด” ก่อนที่การล็อกดาวน์ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่สามแล้ว จะสามารถสิ้นสุดลงได้
การระบาดของเชื้อยังคงกระจุกอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลของแฟร์ฟิลด์ (Fairfield) แคนเทอร์บอรี แบงส์ทาวน์ (Canterbury Bankstown) และลิเวอร์พูล (Liverpool)
นางเบเรจิกเลียน แนะนำให้ผู้ที่ทำงานจำเป็นในพื้นที่ดังกล่าวให้อยู่บ้าน นอกจากว่าพวกเขาจะแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ)
เธอยังสั่งให้ประชาชนอย่าไปยังคลินิกแพทย์หรือร้านขายยา หากพวกเขามีอาการของการติดเชื้อโควิด-19 แต่ให้ไปรับการตรวจเชื้อและแยกตัวจากผู้อื่นจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นลบ
“มีลูกจ้างที่ทำงานจำเป็นจำนวนมากเกินไปที่ไปทำงานโดยที่มีอาการ หรือแพร่เชื้อไวรัสนี้ไปยังที่ทำงานของพวกเขา สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องหยุดลง อย่าออกจากบ้านหากคุณมีอาการและอย่าไปทำงาน โดยเฉพาะหากคุณมาจากพื้นที่เขตเทศบาลท้องถิ่นเหล่านั้น” นางเบเรจิกเลียน กล่าว
ขยายการฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน
รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ยังได้ประกาศว่า ครูและผู้ทำงานด้านการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ แฟร์ฟิลด์ (Fairfield) แคนเทอร์บอรี แบงส์ทาวน์ (Canterbury Bankstown) และลิเวอร์พูล (Liverpool) จะได้รับการลัดคิวให้สามารถรับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ได้ก่อนใคร ขณะที่รัฐประกาศเปลี่ยนแปลงโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชน
ศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่จะเปิดให้บริการที่แฟร์ฟิลด์ โชว์กราวด์ (Fairfield Showground) ในวันศุกร์ (16 ก.ค.) โดยจะพุ่งเป้าไปยังผู้ทำงานในอาชีพสองกลุ่มดังกล่าว
นอกจากนี้ จะมีศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่เพิ่มเติมเปิดให้บริการในไม่กี่สัปดาห์นี้ที่ แมกควารี ฟิลส์ (Macquarie Fields) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ ในเบลมอนต์ (Belmont) ที่เลค แมกควารี (Lake Macquarie) และในวอลลองกอง (Wollongong)
มีคำแนะนำให้ผู้ใดที่อายุ 18-39 ปี ซึ่งต้องการรับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ปรึกษากับแพทย์จีพีของตน
นอกจากนี้ มีคำแนะนำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้วโดสแรก ให้ไปรับการฉีดวัคซีนโดสที่สองภายใน 6-8 สัปดาห์
“เราได้เพิ่มศักยภาพความสามารถในการฉีดและการเข้าถึงวัคซีนของเรา ขณะนี้สิ่งที่เราต้องการคือวัคซีนจำนวนเพิ่มขึ้น และทุกครั้งที่เราได้รับวัคซีนเพิ่มพิเศษขึ้น เราจะทำให้พยายามทำให้แน่ใจได้ว่าเรานำมันไปฉีดบนแขนของประชาชน” นางเบเรจิกเลียน กล่าว
เมื่อคืนวันอาทิตย์ สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ได้แจ้งสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อแห่งใหม่หลายแห่งในพื้นที่แฟร์ฟิลด์ และแฟร์ฟิลด์ ไฮตส์ (Fairfield Heights) ซึ่งรวมไปถึงศูนย์ให้บริการด้านการแพทย์และร้านขายยาบางแห่ง นอกจากนั้นยังมีร้าน Kogarah fish shop โดยมีคำเตือนให้ผู้ใดที่ได้รับยังสถานที่เหล่านั้นให้ไปรับการตรวจเชื้อและแยกตัวจากผู้อื่น
เมื่อวันอาทิตย์ นิวเซาท์เวลส์รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 77 รายและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นหญิงอายุ 90 ปีเศษจากพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ ซึ่งเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ติดเชื้อในชุมชนรายหนึ่ง
หญิงผู้นี้เสียชีวิตหลังรู้ผลการตรวจเชื้อโควิดว่าติดเชื้อเพียงไม่นาน และเชื่อกันว่าเธอไม่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อโควิด
การเสียชีวิตของเธอนับเป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 รายแรกที่เกิดขึ้นหลังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในบอนไดในวันที่ 16 มิถุนายน และเป็นการเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 รายแรกในนิวเซาท์เวลส์ในปีนี้ นับตั้งแต่มีชายผู้หนึ่งเสียชีวิตจากเชื้อนี้ในนิวเซาท์เวลส์ล่าสุดก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม
คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
