หวั่นโควิดกลายพันธุ์ระบาด QLD เล็งตั้งค่ายกักโรคนอกเมือง

มุขมุนตรีควีนส์แลนด์ชี้ โรงแรมกักโรคอยู่กลางเมืองไม่ปลอดภัย หลังคลัสเตอร์โควิดกลายพันธุ์ปะทุกลางบริสเบน เตรียมชงนโยบายตั้งค่ายกักโรคนอกเมืองยื่นที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้า

Queensland Premier Annastacia Palaszczuk

Queensland Premier Annastacia Palaszczuk Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • จากความกังวลหลังพบการระบาดของไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ มุขมนตรีควีนส์แลนด์ชงนโยบายบังคับผู้เดินทางกลับมาต้องกักตัวในค่ายกักโรคนอกเมือง ยกกรณีสถานกักโรคในดาร์วินเป็นตัวอย่าง
  • ความคืบหน้าล่าสุดกลุ่มก้อนการติดเชื้อโรงแรมแกรนด์ แชนสเลอร์ ในบริสเบน ประธาน จนท.สาธารณสุขมั่นใจ ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด พนง.ทำความสะอาดหญิงที่พบเชื้อได้แล้วทุกคน
  • รัฐวิกตอเรีย ไข่ยังไม่แตก เคสใหม่เป็นศูนย์ติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 8 คลายกฎสวมหน้ากาก-เดินหน้านโยบายทยอยกลับไปทำงานอาทิตย์หน้า
  • ส่วนที่นิวเซาท์เวลส์ สถานการณ์โควิดเริ่มนิ่ง ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในท้องถิ่นเมื่อช่วง 24 ชม. ที่ผ่านมา  
14 ม.ค. รัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ ต้องการให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน เข้ารับการกักโรคในค่ายกักกันโรคในพื้นที่ห่างไกล เพื่อป้องกันประขาชนในเขตเมืองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้สั่งปิดโรงแรม แกรนด์ แชนสเลอร์ (Grand Chancellor Hotel) โรงแรมกักกันโรคกลางนครบริสเบน หลังพบผู้อยู่ในสถานกักโรค 6 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ

พนักงานทำความสะอาดโรงแรมเพศหญิงคนหนึ่ง และคู่ครองของเธอ เป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อ 6 ราย อยู่ในระยะแพร่เชื้อระหว่างที่อยู่ในชุมชน ทำให้มีการประกาศล็อคดาวน์พื้นที่บริสเบนและปริมณฑล เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นางอนาสตาเซีย ปาลาเชย์ มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า การกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศใจกลางเมืองใหญ่ในออสเตรเลียนั้น เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงเกินไป โดยเธอระบุอีกว่า รัฐควีนส์แลนด์เตรียมที่จะบังคับให้ผู้ที่เดินทางกลับมาต้องเข้ารับการกักโรคในค่ายเหมืองแร่ที่ว่างอยู่นอกเมือง

Ambulances are seen lined up outside the Hotel Grand Chancellor in Brisbane 13 January, 2021.
Ambulances are seen lined up outside the Hotel Grand Chancellor in Brisbane 13 January, 2021. Source: AAP


“เรากำลังมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากแรมกักกันโรคที่ตั้งอยู่ใจกลางย่าน​ CBD มีพนักงานเข้าออกจากทั่วสารทิศ และมีสนามบินที่ผู้คนบินเข้าบินออกตลอดเวลา”

“นี่เป็นทางเลือกที่มีเหตุผล และหากเราต้องรับมือกับไวรัสชนิดใหม่ ซึ่งมีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่าโควิดชนิดเดิมถึง 70% ดิฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องจริงจังในส่วนนี้”

นางปาลาเชย์ กล่าวว่า เธอจะเสนอให้มีการย้ายสถานที่กักกันโรคจากโรงแรมที่อยู่ในเมือง ไปยังค่ายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ในการประชุมคณะรัฐบาลแห่งชาติที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ม.ค.นี้

“มันเป็นเรื่องของแต่ละรัฐและมณฑลก็จริง แต่ดิฉันคิดว่า เนื่องจากไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ เราต้องนำทางเลือกทุกอย่างมาหารือ และนี่เป็นสิ่งที่มีความสมเหตุสมผล” นางปาลาเชย์ กล่าว

โดยมุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ ได้ยกตัวอย่างกรณีสถานกักโรคโฮเวิร์ด สปริงส์ (Howard Springs) ในมณฑลนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี โดยระบุว่าเป็นต้นแบบที่มีความเหมาะสมกับข้อเสนอดังกล่าว

“สถานกักโรคโฮเวิร์ด สปริงส์ ดำเนินการไปด้วยดีในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี และมันไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในควีนส์แลนด์ หรือในพื้นที่ทั่วประเทศก็ตาม แต่แน่นอนว่า มันก็ขึ้นอยู่กับเขตปกครองต่าง ๆ ว่าจะดำเนินการอย่างไร” นางปาลาเชย์ กล่าว

การสอบสวนอย่างเป็นทางการในกลุ่มก้อนการติดเชื้อ โรงแรมแกรนด์ แชนสเลอร์ นั้น เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบหาตัวผู้กระทำผิด ว่าเป็นผู้ที่เข้าพัก หรือพนักงานผู้ปฏิบัติงานในโรงแรม ขณะที่นางปาลาเชย์ชี้ว่า การสอบสวนทางวิศวกรรมในส่วนของระบบปรับอากาศและระบบประปานั้น จะเป็นประเด็นการสอบสวนที่มีความสำคัญ

พญ.จีนเนตต์ ยัง (Dr Jeannette Young) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า พนักงานทำความสะอาดที่ติดเชื้อคนดังกล่าว ทำงานที่โรงแรมแกรนด์ แชนสเลอร์ เพียงแค่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาเท่านั้น ดังนั้น เธอจึงไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับชายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์มาจากอังกฤษ เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา 

“ยังไม่มีสิ่งใดที่ดิฉันพบว่า พนักงานทำความสะอาดคนดังกล่าวเป็นผู้กระทำผิด ไวรัสนี้เป็นไวรัสที่ติดเชื้อได้ง่ายมาก และดิฉันต้องขอขอบคุณพนักงานทำความสะอาดคนนั้น สำหรับความร่วมมือที่เธอได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่” พญ.ยัง กล่าว

“เธอยังคงติดเชื้ออยู่ในตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยสบาย เธอได้พยายามให้ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เท่าที่เธอทำได้”


พญ.​ยัง ระบุอีกว่า ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ของเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) จนถึง 09:00 น. ในวันนี้ (14 ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในโรงแรมกักกันโรค 4 ราย โดยยังไม่พบความเชื่อมโยงใด ๆ กับกลุ่มก้อนการติดเชื้อในโรงแรมแกรนด์ แชนสเลอร์ ซึ่งตอนนี้พบผู้ติดเชื้อเป็นชาย 2 รายจากสหรัฐ ฯ​ และคู่ครองจากแอฟริกาใต้

ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐควีนส์แลนด์ แสดงความมั่นในว่า พบผู้สัมผัสใกล้ชิดกับพนักงานทำความสะอาดหญิงและคู่ครองของเธอแล้วทุกคน ในช่วงที่ทั้งสองเดินทางออกจากนครบริสเบนในระยะแพร่เชื้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย ในวันนี้ได้มีการประกาศว่า จะเริ่มเดินหน้าแผนให้ประชาชนกลับไปทำงานตามปกติ ในวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.นี้ พร้อมประกาศผ่อนคลายข้อบังคับในการสวมใส่หน้ากากอนามัย โดยในวันนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในท้องถิ่นและจากต่างรัฐติดต่อกันมาเป็นวันที่ 8

โดยความจุพนักงานในสถานประกอบการเอกชนนั้น สามารถกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 50 ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มกราคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่ความจุพนักงานในสถานประกอบการของรัฐ สามารถกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 25 ได้

นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากจะยังคงต้องการทำงานจากที่บ้าน

“พวกเขาสามารถทำงานจากที่บ้านได้ในบางวันของสัปดาห์ และพวกเขาก็จะต้องการที่จะทำเช่นนั้น” นายแอนดรูส์ กล่าว

สำหรับกฎการสวมใส่หน้ากากอนามัยมในรัฐวิกตอเรียนั้น จะกลับมาเป็นเช่นเดียวกับในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา นั่นหมายความว่า การสวมหน้ากากอนามัยจะมีความจำเป็นในบางพื้นที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่  ระบบขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล และท่าอากาศยาน  

นายแอนดรูส์ ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่สีแดงในซิดนีย์อาจลดขนาดลง หากชาวรัฐวิกตอเรียสามารถเดินทางกลับบ้านได้มากขึ้น

“ผมเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ผมต้องการย้ำกับชาวรัฐวิกตอเรียทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่มาไม่ได้เนื่องจากมันยังไม่ปลอดภัยในตอนนี้ ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์นี้ไม่นานไปกว่ากรอบเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้แจ้งกับผม” นายแอนดรูส์ กล่าว

ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในท้องถิ่นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (20:00 ของวันอังคารจนถึงเมื่อวานนี้)

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

เมื่อไหร่ นศ.ต่างชาติ จะได้กลับมาเรียนต่อในออสเตรเลีย





Share
Published 14 January 2021 6:03pm
Updated 14 January 2021 6:21pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends