หลายฝ่ายห่วงหญิงผู้อพยพเหยื่อความรุนแรงหลัง “ปิดเมือง”

ขณะที่ศูนย์ที่พักพิงของผู้หญิงบางแห่งในออสเตรเลียรายงานจำนวนสายโทรศัพที่โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ทำงานกับผู้หญิงในชุมชนหลากวัฒนธรรมกลับบอกว่า สายโทรศัพท์ของพวกเขานั้นเงียบลง และนั่นยิ่งสร้างความกังวลมากขึ้น

Services say the coronavirus is placing women at increased risk of family violence.

Services say the lockdown measures are placing women at increased risk. Source: Press Association

ที่ศูนย์บริการเหยื่อความรุนแรงในบ้านและครอบครัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หลากวัฒนธรรมของนครเมลเบิร์น พบว่าจำนวนสายที่โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือนั้นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่การที่บรรดาสายโทรศัพท์เงียบหายไปนั้นเป็นเรื่องน่ากังวล

นางโรนดา คัมเบอร์แลนด์ หัวหน้าผู้บริหารของ South East Community Links บอกกับเอสบีเอสนิวส์ว่า เธอกังวลว่าผู้หญิงที่ต้องการเลิกกับคู่ครองในตอนนี้จะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อรับมือกับวิกฤติเชื้อไวรัสโคโรนา

และสำหรับผู้ที่ย้ายจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศออสเตรเลีย พวกเขาอาจจะไม่ได้มีเครือข่ายสนับสนุนที่กว้างขวางนัก

“การรายงานความรุนแรงในครอบครัวโดยทั่วไปเงียบหายไป แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นเพศหญิง คุณสามารถจินตนาการได้ว่าความรุนแรงทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในบ้าน โดยไม่มีทางออกอื่นๆ เหลืออยู่ นี่อาจจะเป็นการถูกจองจำไว้ในบ้านอย่างสมบูรณ์” เธอกล่าว
Rhonda Cumberland says there has been an increase in overt calls for family violence help.
راندا کمبرلند می‌گوید تماس‌های کمکی خشونت خانوادگی از جوامع مهاجر برعکس جوامع دیگر کاهش یافته‌اند. Source: Supplied
องค์กรของเธอทำงานเพื่อช่วยเหลือด้านการตั้งถิ่นฐานและบริการสนับสนุนอื่นๆ สำหรับพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม ย่านแดนดินอง (Dandenong) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครเมลเบิร์น ที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยราวร้อยละ 70 มาจากภูมิหลังที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ

นางคัมเบอร์แลนด์ กล่าวว่า การไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่สาธารณะเนื่องจากข้อจำกัดการปิดเมืองของเชื้อโควิด-19 ทำให้การบังคับขู่เข็ญที่ผู้หญิงต้องประสบที่บ้านอาจจะเลวร้ายมากขึ้น และหลายคนอาจรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางออกให้หลบหนีหรือขอความช่วยเหลืออื่นๆ

“พวกเขามีโอกาสน้อยมากที่จะใช้โทรศัพท์ และติดต่อสื่อสารกับเพื่อนที่อาจจะช่วยเหลือพวกเขาได้” นางคัมเบอร์แลนด์ กล่าว

"ประชาชนกลัวอย่างมาก"

มันสะท้อนถึงความรู้สึกของนางแอนนาเบล แดนเนียล หัวหน้าผู้บริหารขององค์กร Women’s Community Shelters เครือข่ายของศูนย์พักพิงสำหรับผู้หญิงที่เผชิญกับความรุนแรงในบ้านและครอบครัว 7 แห่งทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์

จากรายงานของ Google เผยให้เห็นว่ามีการค้นหาเกี่ยวกับความช่วยเหลือความรุนแรงในครอบครัวสูงสุดเท่าที่พวกเขาได้เห็นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 โดยนางแดนเนียลบอกว่าองค์กรของเธอได้รับสายโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 30 เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือที่สามารถใช้ได้

“สิ่งที่มันบอกกับเราคือ ประชาชนหวาดกลัวอย่างมาก ที่ความเป็นไปได้ว่าการปิดเมืองจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงในบ้านหรือครอบครัว จากที่พวกเขาอาจจะเคยประสบมา” เธอกล่าว

“สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการปิดเมือง นั่นคือการที่คุณอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องอยู่กับคนที่ดูถูกนั้นเหยียดหยามนั้นตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งนี้เพิ่มโอกาสให้เกิดการจับตามอง เกิดการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต แอบฟังการสนทนา และโดยทั่วไปคือจับตาดูบุคคลนั้นอยู่ตลอดเวลา”

“สิ่งหนึ่งที่เรารู้เกี่ยวกับการทารุณกรรมในบ้านและครอบครัว คือการควบคุมพฤติกรรมที่แน่นอนว่ามันจะขยายมากขึ้นในช่วงที่อยู่ในการกักตัว”

การสนับสนุนจากรัฐบาลสหพันธรัฐ

นางแดนเนียล ยินดีที่ทางรัฐบาลสหพันธรัฐประกาศเพิ่มเงินทุนจำนวน 150 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรที่ทำงานด้านความรุนแรงในบ้านและครอบครัว แต่การดำเนินการนั้นจำเป็นต้องแน่ใจว่าเงินดังกล่าวจะถูกส่งไปยังผู้ที่ทำงานอยู่แนวหน้าของวิกฤตินี้

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (29 มี.ค.) ว่าเงินทุนดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อผลักดันโปรแกรมที่มีอยู่แล้วในประเทศ เพื่อลดความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิงและเด็ก

เงินดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อผู้สนับสนุนให้คำปรึกษาสำหรับครอบครัวที่เผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว อย่าง สายด่วน 1800RESPECT Mensline Australia โครงการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ และโครงการช่วยเหลืออื่นๆ สำหรับผู้หญิงและเด็ก

“เงินเริ่มต้น 150 ล้านดอลลาร์ จะถูกใช้เพื่อสนับสนุนชาวออสเตรเลียที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงในบ้าน ในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศ เนื่องจากผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรนา” ข่าวจากสำนักงานของนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ที่ตีพิมพ์เมื่อวันอาทิตย์

รายงานจากสำนักข่าวเอบีซีเมื่อวันอาทิตย์ บอกว่า องค์กร Wayss องค์กรด้านความรุนแรงในครอบครัวสำหรับผู้หญิง ได้รับรายงานเกี่ยวกับ บรรดาผู้ชายที่โกหกเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อสั่งให้ผู้หญิงอยู่กับบ้าน
ตำรวจวิกตอเรียบอกกับเอสบีเอสนิวส์ว่า พวกเขาไม่ได้เห็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นของรายงานความรุนแรงในครอบครัว ในช่วงต้นปี 2020

“แม้เราจะรู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทาย แต่มันไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายคนที่คุณรัก” โฆษกตำรวจวิกตอเรียกล่าว

“ตำรวจวิกตอเรียคาดว่ามันอาจะมีการขัดขวางในการรายงานเหตุความรุนแรงในครอบครัวกับตำรวจ และกับบริการช่วยเหลือความรุนแรงในครอบครัว ในขณะนี้ เนื่องจากความเครียดที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอน”

ศูนย์พักพิงเหยื่อความรุนแรงในบ้านและครอบครัวถูกจัดให้เป็นบริการที่จำเป็น และยังคงเปิดให้บริการต่อประชาชน

นางแดนเนียลบอกว่า มันสำคัญมากสำหรับผู้หญิงที่จะทราบว่ามันมีที่ว่างในศูนย์พักพิง และมันมีความช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องการมัน

ถ้าคุณหรือคนที่คุณรู้จักเผชิญกับความรุนแรงในบ้านหรือครอบครัว โทรหา 1800RESPECT ที่เบอร์ 1800 737 732 หรือเหตุฉุกเฉิน โทร 000

ผู้หญิงที่มีภูมิหลังเป็นผู้อพยพย้ายถิ่นหรือผู้ลี้ภัย ที่เผชิญกับความรุนแรงในบ้านหรือครอบครัว สามารถติดต่อกับองค์กร inTouch ศูนย์ความหลากหลายทางวัฒนธรรมต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว โทร 1800 755 988 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ .

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้ 

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 


Share
Published 2 April 2020 1:24pm
Updated 2 April 2020 4:38pm
By Jarni Blakkarly
Presented by Narissara Kaewvilai


Share this with family and friends