ประเด็นสำคัญ
- นายกรัฐมนตรีได้ให้สัญญาณว่า การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาเป็นวงกว้างอาจนำไปสู่
- ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่ติดค้างอยู่นอกออสเตรเลีย กำลังให้ความหวังให้กับประสิทธิภาพของวัคซีน
- ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความสำเร็จในการเปิดตัววัคซีนของออสเตรเลียเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับการเปิดพรมแดน
ตั้งแต่สัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด่านหน้านับพันคนได้เริ่มรับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาแล้ว ขณะที่รัฐบาลได้มุ่งที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ ภายในเดือนตุลาคมนี้
การผลักดันในการสร้างภูมิคุ้มกันระดับชาติ ได้สร้างความหวังในการกลับมามีชีวิตตามปกติก่อนที่วิกฤตไวรัสโคโรนาจะมาถึง ที่ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระระหว่างพรมแดนโดยปราศจากข้อจำกัดห้ามในการเดินทาง
สำหรับคำถามในประเด็นที่ว่า ออสเตรเลียจะสามารถยกเลิกข้อจำกัดพรมแดนระหว่างประเทศ เมื่อวัคซีนได้รับการเปิดตัวเป็นวงกว้างแล้วหรือไม่นั้น นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “มีความเป็นไปได้มาก”
“สิ่งที่ผมมีความมั่นใจมาตลอดนั่นก็คือการก้าวไปทีละก้าวในแง่ของการจัดการกับไวรัสผมมีความมั่นใจว่าในขณะที่เราก้าวเข้าสู่กระบวนการฉีดวัคซีนเราสามารถที่จะเปลี่ยนวิถีทางต่างๆในออสเตรเลียได้อย่างสิ้นเชิง” นายมอร์ริสัน กล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.)
ระหว่างที่นายมอร์ริสัน ได้พูดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง นายนเรนทระ โมที (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย เขาได้เสริมว่า การตัดสินใจในการยกเลิกมาตรการจำกัดห้ามการเดินทางระหว่างประเทศของออสเตรเลีย จะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีนในทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศอย่างอินเดียด้วยเช่นกัน ที่ขณะนี้มีประชากรมากกว่า 8.4 ล้านคน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาแล้ว
นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และ นายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย (แฟ้มภาพ) Source: (AAP Image/Mick Tsikas)
มันไม่ใช่เพียงการฉีดวัคซีนในออสเตรเลียอย่างเดียวแต่นั่นหมายถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย
ขณะที่วัคซีนต้านไวรัสโคโรนากำลังได้รับการเปิดตัวไปทั่วโลก นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียระบุว่า มันเป็น “เรื่องที่มีเหตุผล” ในการคาดหวังการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับมาตรการจำกัดห้ามที่มีอยู่ในขณะนี้
“เมื่อเราคิดถึงประเทศต่างๆในภูมิภาคของเราเช่นอินโดนีเซียอย่างในอินดียเองจากที่ผมได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีโมทีเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เมื่อวานนี้ ก็ได้ทราบว่ามีหลายอย่างที่ต้องทำที่นั่น” นายมอร์ริสัน กล่าวขณะพูดถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีอินเดีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“แต่ผมคิดว่ามันเป็นการคาดหวังที่มีเหตุผลระหว่างที่เวลาผ่านไปในตอนนี้ขณะที่มีการเปิดตัววัคซีนในประเทศต่างๆทั่วโลกซึ่งรวมถึงในออสเตรเลียด้วยคุณสามารถคาดหวังได้เลยว่าสิ่งต่างๆในการจัดการกับไวรัสของเราจะเปลี่ยนไป” นายมอร์ริสัน กล่าวเสริม
‘วัคซีนคือความหวังในการกลับมาออสเตรเลีย’
นายอชิช กุปตา (Asish Gupta) ผู้อพยพย้ายถิ่นชั่วคราวของออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้ติดค้างอยู่ในเมืองแห่งหนึ่งทางตะวันตกของอินเดีย ได้วางแผนที่จะเดินทางไปยังนครมุมไบในสัปดาห์นี้ เพื่อมารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีวัย 28 ปีคนนี้ ซึ่งต้องแยกจากแฟนสาวอันเป็นที่รักมานานเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว กล่าวว่า สิ่งนี้ “เป็นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ชีวิตเขากลับมาเหมือนเดิม และได้กลับไปหาคนที่เขารัก”
“ผมเชื่อว่าวัคซีนคือหนทางเดียวเท่านั้นที่เราจะหลุดออกจากฝันร้ายของการแพร่ระบาดนี้ได้” นายกุปตา กล่าว
“ผมอยู่ที่เมืองดาฮานู (Dahanu) ซึ่งห่างจากมุมไบ 110 กิโลเมตรผมกำลังจะเดินทางไปที่มุมไบในสัปดาห์นี้เพื่อไปรับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพราะผมคิดว่านี่เป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ผมเดินทางกลับไปนครเมลเบิร์นได้ผมต้องการเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อรัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการจำกัดพรมแดน”
Associate Professor Holly Seale Source: Supplied by Ms Seale
‘ความสำเร็จทั่วโลกก็คือความสำเร็จของเรา’
แต่ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า การเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของออสเตรเลีย เช่น ธรรมชาติ และศักยภาพในการผลักดันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทั่วโลก และความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผศ.ดร. ฮอลลี ซีล (Holly Seale) จากวิทยาลัยด้านสุขภาพประชากร มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ในตอนนี้ที่ออสเตรเลียได้เริ่มการสร้างภูมิคุ้มกันจากไวรัสโคโรนา ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถกลับสู่ชีวิตตามปกติได้ภายในชั่วข้ามคืนเสมอไป เธอได้เตือนว่า ยังมีอีกหลายสิ่ง ที่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีนในต่างประเทศ
“เราไม่ต้องการที่จะอยู่ในสถานการณ์ที่เราชาวออสเตรเลียเริ่มเดินทางไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคของเราซึ่งรวมถึงประเทศที่ไม่ได้มีระบบสุขภาพที่ดีซึ่งออสเตรเลียโชคดีที่มีสิ่งนั้นเราคงไม่ต้องการที่จะสร้างความตึงเครียดที่ยังมาไม่ถึงในบรรยากาศระหว่างประเทศซึ่งไม่สามารถรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดต่างๆได้” ผศ.ดร. ซีล กล่าว
เธอได้เสริมว่า ขณะที่หลายคนเฝ้ารอที่จะเดินทางทั้งในและนอกออสเตรเลีย สิ่งนี้อาจเป็นแรงจูงใจในการกระตุ้นให้ผู้คนต้องการฉีดวัคซีน
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะได้รับการแถลงจากรัฐบาลในเร็วๆนี้และมีคำตอบต่อคำถามเหล่านี้เพราะนั่นอาจเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการของผู้คนให้ดีที่สุดในการกะตุ้นให้ผู้คนไปฉีดวัคซีน” ผศ.ดร. ซีล เสริม
คุณอาจสังเกตว่า เอสบีเอส ไทย ไม่มีความเคลื่อนไหวบนเฟซบุ๊ก แต่คุณยังสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเรา ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้ท่านพลาดสถานการณ์ล่าสุด
นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับฟังข่าวสารล่าสุดเป็นภาษาไทยผ่านทางวิทยุออนไลน์ได้ที่แอปฯ SBS Radio
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เฟซบุ๊กจะเลิกแบนข่าวออสเตรเลียหลังตกลงกับรัฐบาล
