ร้านประจำของคุณอาจเพิ่มทิปใส่บิลโดยอัตโนมัติ เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องปกติหรือไม่?

คนออสเตรเลียบางคนคิดว่าการให้ทิปเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่ทิปอาจมีคุณค่ากับคนรับรถส่งของและพนักงานบริการหลายคน

ฟังก์ชั่นให้ทิปอัตโนมัติกลายเป็นเรื่องปกติในแอปสั่งอาหารเดลิเวอรีและเมนูคิวอาร์ โค้ด Source: SBS

คุณเคยจ่ายค่าอาหารที่ร้านอาหารหรือผับ แล้วพบว่ามีการเพิ่มทิป (tip) ในบิลของคุณหรือไม่?

คุณมาร์ก แกลดแมน (Mark Gladman) อาศัยอยู่ที่เมลเบิร์น เขาประเมินว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของร้านที่เขาไปรับประทานอาหารพยายามให้เขาจ่ายทิป โดยจำนวนเงินที่ตั้งไว้ (default) มักอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

“มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ตั้งไว้หรือคาดหวังให้จ่าย มันควรเป็นสำหรับบริการที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” คุณมาร์กกล่าวกับเดอะ ฟีด (The Feed)

คุณมาร์กกังวลว่าการให้ทิปกำลังกลายเป็นบรรทัดฐานในออสเตรเลีย ซึ่งเคยเป็นการให้โดยสมัครใจในอดีต

ผู้ใช้เรดดิท (Reddit) โพสต์ภาพหน้าจอของเมนูในแอปที่ตั้งค่าเลือกให้ทิป 10 เปอร์เซ็นต์โดยอัตโนมัติไว้แล้ว Credit: Reddit / u/rsop

เงินรางวัลที่มีการตั้งค่าเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น เนื่องจากการสั่งอาหารด้วยตนเองเปลี่ยนไปเป็นการใช้แอปพลิเคชันสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี (delivery) และด้วยรหัสคิวอาร์ โค้ด (QR code) ในร้านอาหาร

แอปเหล่านี้สามารถตั้งค่าทิปได้โดยอัตโนมัติ ยกเว้นกรณีที่ลูกค้าลบตัวเลือกนี้ออกก่อนชำระเงิน

เมื่อคุณมาร์กสั่งอาหารผ่านการสแกนคิวอาร์ โค้ด มักมีคำแนะนำให้จ่ายทิปก่อนที่เขาจะได้พูดคุยกับพนักงานด้วยซ้ำ

ซึ่งเป็นวิธีที่สวนทางกับความเป็นจริง เพราะคุณให้ทิปกับบริการใช่ไหมล่ะ?

คุณมาร์กกล่าว

แม้ว่าจะมีตัวเลือกให้ปฏิเสธ แต่คุณมาร์กรู้สึกเหมือนถูกตำหนิเมื่อเขาเลือกที่จะไม่ให้ทิป

“คุณรู้สึกเหมือนเป็นคนงี่เง่า เมื่อคุณให้ทิปเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นความคาดหวังของสังคมล้วนๆ และมันก็เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดด้วย” คุณมาร์กกล่าว

ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง

การให้ทิปส์เป็นอย่างไรในออสเตรเลีย?

SBS Thai

25/07/202211:45

Play

การตั้งค่าให้ทิปโดยอัตโนมัติในบิลเป็นสิ่งถูกกฎหมายหรือไม่?

กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลียระบุว่าทิปถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เลือกให้เพิ่มเติม (optional charges) หรือเป็นสิ่งเพิ่มเติมที่ถูกเลือกไว้ล่วงหน้า (pre-selected extras)

หน่วยงานดูแลผู้บริโภคแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า ผู้ประกอบการสามารถตั้งค่าให้ทิปกับบิลของคุณล่วงหน้าโดยอัตโนมัติได้ ตราบใดที่มีการระบุชัดเจนและแสดงอยู่ในราคารวม

โฆษกจากคณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (Australian Competition and Consumer Commission – ACCC) กล่าวว่าผู้ประกอบการต้องมีความชัดเจนว่าค่าใช้จ่ายนี้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม

ผู้ประกอบการที่เพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่มีความชัดเจนเสี่ยงที่จะละเมิดกฎหมายผู้บริโภค

โฆษกของหน่วยงานเตือน

แล้วคุณจะหลีกเลี่ยงการให้ทิปโดยไม่ได้ตั้งใจได้อย่างไร?

“ผู้บริโภคควรระมัดระวังกับสิ่งเพิ่มเติมที่ถูกเลือกไว้ล่วงหน้าต่างๆ ซึ่งรวมอยู่ในราคารวมทั้งหมด และตรวจสอบให้แน่ใจว่ายกเลิกสิ่งที่ไม่ต้องการก่อนชำระเงิน” โฆษกของ ACCC กล่าว

“หากผู้บริโภคถูกหลอกให้ชำระเงินกับสิ่งเพิ่มเติมเหล่านี้ ควรแจ้งเรื่องนี้กับผู้ประกอบการและขอคืนเงินตามสัดส่วนของมูลค่าที่เพิ่มเติมเข้ามา”

พนักงานภาคส่วนนี้คาดหวังทิปหรือไม่?

หลายฝ่ายแย้งเรื่องการให้ทิปเพราะถือว่าคนทำงานภาคส่วนนี้ได้รับค่าแรงที่ยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งออสเตรเลียนับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดในโลก อยู่ที่ 21.38 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

ที่สหรัฐอเมริกา พนักงานได้รับค่าจ้างขั้นพื้นฐานเพียง 2.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง พวกเขาจึงพึ่งพาทิป

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะค่าใช้จ่ายสูงขึ้นขณะนี้ คนงานหลายคนกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้คาดหวังทิปและพวกเขารู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ

พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรีในซิดนีย์ได้รับทิปจากลูกค้าในบางครั้ง Source: Getty / Andrew Merry

คุณซาการ์ (Sagar) คนขับรถส่งอาหารเดลิเวอรีในซิดนีย์กล่าวว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของภาคส่วนที่มีรายได้ไม่มั่นคง บางครั้งพวกเขาได้ค่าจ้างน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ขึ้นอยู่กับแต่ละวัน

คุณซาการ์กล่าวอีกว่า เขาไม่ค่อยได้รับทิปมากนัก และหากเขาได้ มักจะน้อยกว่า 1 ดอลลาร์

“ผมคิดว่าลูกค้าควรนึกถึงว่า การที่มีใครสักคนส่งอาหารให้ในวันที่ฝนตกหรือในตอนกลางคืน พวกเขาควรให้ทิปเพื่อช่วยให้พนักงานทำงานต่อไปได้” คุณซาการ์กล่าว

“ถ้าผมได้เงินเพิ่มบ้าง มันอาจช่วยให้ผมได้ทานอาหารหลังจากหมดชิฟท์ (shift) ทำงาน 12 ชั่วโมงของวัน ซึ่งผมมักได้ทานหลังเลิกงานหรือเมื่อถึงบ้าน เพราะมีงบจำกัด”

คุณไมเคิล (Michael) เป็นคนขับรถส่งอาหารเดลิเวอรีที่แอดิเลด เขากล่าวว่าทิปมีค่ากับคนส่งอาหารมาก

ตัวอย่างเช่น ถ้าผมส่งของ 4 ชิ้นต่อ 1 ชั่วโมงและได้รับทิป 2 ดอลลาร์ต่อชิ้น รายได้จะเพิ่มเป็น 8 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

คุณไมเคิลกล่าว

อย่างไรก็ตาม คุณไมเคิลเข้าใจว่าทำไมลูกค้าส่วนใหญ่ถึงไม่ให้ทิป

“ลูกค้าชำระค่าจัดส่ง ค่าบริการและค่าอื่นๆ ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการสั่งอาหารแล้วไปรับเอง (pickup) การให้ทิปทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีกกับสิ่งที่ลูกค้าจ่ายเต็มจำนวนไปแล้ว”

ยังเป็นสิ่งที่ไม่ชัดเจนว่าใครได้รับประโยชน์จากทิปของลูกค้า

คุณฮันนาห์ แทปเซลล์ (Hannah Tapsell) ทำงานที่ร้านกาแฟในเพิร์ธ เธอไม่สามารถรับทิปโดยตรงจากลูกค้าได้ เงินทิปจะเข้าสู่กระปุกทิปส์ส่วนกลาง

แต่ไม่มีใครทราบว่าเงินส่วนกลางนั้นไปที่ไหน

1 ปีที่ฉันทำงานที่นั่น ฉันไม่เคยได้รับอะไรเลย ดังนั้นฉันถึงไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินทิปที่ไปอยู่ในกระปุก

คุณฮันนาห์กล่าว

คุณฮันนาห์ไม่เคยได้รับทิปส์ที่ลูกค้าให้เธอ Source: Supplied / Hannah Tapsell

คุณฮันนาห์กล่าวว่า ลูกค้าคาดหวังให้มีการแบ่งทิปกับพนักงานทุกคน เธอเชื่อว่าควรมีความโปร่งใสว่าเงินนั้นนำไปใช้กับอะไร

“ฉันเข้าใจได้ หากทิปถูกเก็บรวบรวมเพื่อใช้จัดงานให้พนักงานหรือเป็นเงินโบนัสคริสต์มาส แต่มันไม่เคยมีอะไรแบบนั้น การนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ของพนักงาน”

---

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai