อาชญากรรมทางไซเบอร์ก็กำลังระบาดช่วงโควิด

Young man hands holding credit card and using phone

อย่าให้รายละเอียดส่วนตัวกับนักต้มตุ๋น Source: Moment RF

อาชญากรไซเบอร์ (cyber criminals) ฉวยโอกาสระหว่างล็อกดาวน์ใช้วิธีใหม่ๆ หลอกตุ๋นคนออสเตรเลีย ทั้งการหลอกให้ลงทุน (investment scams) การหลอกให้หลงรักเพื่อเอาเงิน (romance scams) และล่าสุดที่ตำรวจกังวล คือการหลอกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่ไม่มีจริง (billing scams) ที่กำลังระบาดกระทบหลายพันคน ในช่วงโควิดระบาดนี้


LISTEN TO
COVID's other epidemic - cybercrime image

อาชญากรรมทางไซเบอร์ก็กำลังระบาดช่วงโควิด

SBS Thai

14/09/202106:41
คณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (Australian Competition and Consumer Commission) กล่าวว่า คนออสเตรเลียสูญเงิน 851 ล้านดอลลาร์แก่นักต้มตุ๋น (scams) ในปีที่ผ่านมา

คุณเจฟ (Geoff) อายุ 76 ปี เป็นหนึ่งในคนที่ถูกโกง เขาได้รับสายเรื่องการได้รับเงินคืนจากแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ แต่สุดท้ายต้องสูญเงินมากกว่าเดิม

"มีผู้ชายคนนึงโทรหาผม และบอกว่า ผมสามารถช่วยให้คุณได้เงินที่คุณเสียกับเทรดเฟรด (TradeFred) คืนได้นะ’ เขาพูดชักจูงให้ผมลงทุนกับเทรดเฟรดอีกสองเท่า แต่สุดท้ายแล้วมันก็หายไปหมด"
จากข้อมูลของหน่วยงานดูแลแห่งชาติ การหลอกให้ลงทุน (investment scams) นับเป็นหนึ่งในสามของการต้มตุ๋นเงิน มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 328 ล้านดอลลาร์

การหลอกให้หลงรักเพื่อเอาเงิน (romance scams) มาเป็นอันดับที่สอง มูลค่าความเสียหาย 131 ล้านดอลลาร์

ด็อกเตอร์ คาสซาสดรา ครอส (Dr Cassandra Cross) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งควีนส์แลนด์ กล่าวว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์ในหลายระดับ
การฉ้อโกงเป็นการหาผลประโยชน์ทางการเงินด้วยการใช้วิธีการหลอกลวง และในกรณีเหล่านี้ นักต้มตุ๋นจะใช้ข้อมูลของธุรกิจหรือข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากความไว้วางใจระหว่างลูกค้าและผู้จัดส่งสินค้า (suppliers) ดังนั้นส่วนใหญ่เหยื่อจะถูกขอให้ส่งเงินให้นักต้มตุ๋น
ด็อกเตอร์ครอสกล่าวว่าเหยื่อนั้นมีทุกสาขาอาชีพและทุกภาคส่วน

“ฉันได้พูดคุยกับเหยื่อในการทำวิจัยของฉันซึ่งมีทุกสาขาอาชีพ ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญในมุมมองของนักต้มตุ๋นคือการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเงิน ในหลายกรณีนั้นพวกเขาเน้นเหยื่อที่มีการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง เห็นได้จากกรณีของการทำธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนเงินสูง โดยเหยื่อคิดว่าจ่ายเงินเพื่อซื้อบ้านด้วยการโอนเข้าบัญชีของทนายหรือบัญชีที่จ่ายเพื่อซื้อบ้าน แต่แท้จริงแล้วเงินนั้นกลับเข้าบัญชีของนักต้มตุ๋น และเหยื่อสูญเงินนั้นไป ยังมีกรณีที่เป็นเงินจำนวนน้อย ในกรณีที่ธุรกิจถูกฉวยโอกาส โดยนักต้มตุ๋นส่งอีเมลไปหาผู้จัดส่งสินค้าและลูกค้า จำนวนเล็กน้อยเหล่านั้นรวมกันเป็นจำนวนที่สูงได้”

การหลอกลวงเพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่ไม่มีจริง (false billing scams) เป็นอีกหนึ่งความกังวลของเจ้าหน้าที่ มีมูลค่าการสูญเสียรวมถึง 128 ล้านดอลลาร์
Scam
การหลอกให้หลงรักเพื่อเอาเงิน (Romance scam) พุ่งสูงช่วงโควิดระบาด Source: Getty Images/fizkes
ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังสอบสวนคดีฉ้อโกงค่าใช้จ่ายที่ไม่มีจริง ที่ทำให้คู่สามีภรรยาที่ซิดนีย์สูญเงินถึงเกือบหนึ่งล้านดอลลาร์

คุณเอียน ไรท์ (Ian Wright) ตำรวจฝ่ายสืบสวนของกรมตำรวจนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อคู่สามีภรรยาโอนเงินเข้าบัญชีที่พวกเขาคิดว่าเป็นของทนาย

“ทนายได้ให้รายละเอียดบัญชีแก่พวกเขาเพื่อการจ่ายเงิน และพวกเขาจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับซื้อบ้านเข้าบัญชีนั้น ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้กระทำผิด เราทำงานกับธนาคารและสามารถนำเงินบางส่วนกลับคืนมาได้ แต่เงินก้อนใหญ่ได้สูญไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเงินจำนวนมาก พวกเขาจึงเสียใจมาก แต่ผมคิดว่านอกจากการเสียเงินแล้ว มันมีเรื่องอารมณ์มาเกี่ยวด้วย และจากความคิดที่ที่รู้ว่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาถูกบุกรุก”

ด็อกเตอร์ครอสกล่าวว่า มีวิธีที่จะป้องกันไม่ให้การฉ้อโกงเกิดกับคุณ

“มันเป็นสิ่งสำคัญในแง่ของการพยายามลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อ โดยการติดตามสิ่งที่คิดว่าน่าสงสัยหรือสิ่งที่ไม่ปกติ หากคุณต้องติดต่อกับธุรกิจหรือผู้จัดส่งสินค้าใดเป็นเวลานาน และพวกเขาจู่ๆ ก็เปลี่ยนเลขที่บัญชีธนาคาร มันคุ้มที่จะตามเรื่องและติดต่อพวกเขาโดยตรงเพื่อตัดสินว่ามีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ หรืออาจเป็นเลขที่บัญชีของนักต้มตุ๋นที่คุณกำลังจะโอนเงินเข้า”

คุณเจฟมีข้อความสั้นๆ เพื่อเตือนคนออสเตรเลียให้ระมัดระวัง
อย่ารับโทรศัพท์จากเบอร์ที่คุณไม่รู้จัก ตรวจสอบเบอร์ก่อน อย่าเชื่อใคร

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share