หลายสายการบินเริ่มทยอยยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางที่เดินทางไปกลับระหว่างประเทศจีน ขณะที่องค์การอนามัยโลกเรียกประชุมด่วนเพื่อหารือการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพทั่วโลก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
การยกเลิกเที่ยวเที่ยวบินระหว่างประเทศจีนเกิดขึ้น ขณะที่หลายประเทศส่งเครื่องบินเหมาลำเพื่อรับพลเรือนที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดซึ่งมีประชากรกว่า 11 ล้านคนถูกกักกันไม่ให้มีการเดินทางเข้าออกจากพื้นที่ โดยในบรรดาพลเรือนชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการนำตัวกลับภูมิลำเนา 206 คน มี 12 คนที่ต้องเข้ารับการทดสอบในโรงพยาบาลว่าได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ หลังมีอาการป่วยและแสดงอาการคล้ายเป็นหวัด
ขณะที่รัฐบาลในหลายประเทศอย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศจีนหากไม่จำเป็น ส่วนประเทศจีน ได้มีการขอความร่วมมือจากประชาชนให้เลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่มีการยืนยันการติดเชื้อเกิดขึ้นแล้วใน 18 ประเทศ
ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หลังรายงานการประเมินความเสี่ยงระดับโลกของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) อยู่ในระดับ ‘ปานกลาง’ แทนที่จะเป็นระดับ ‘สูง’
โดนผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันนี้ (30 ม.ค.) เพื่อสรุปสถานการณ์ล่าสุดอีกครั้ง
สายการบินบริติชแอร์เวย์ เป็นสายการบินชั้นนำรายแรกที่ประกาศหยุดทำการบินในเส้นทางไปกลับระหว่างประเทศจีน โดยอ้างอิงจากคำแนะนำการเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ตามมาด้วยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่ระบุว่าจะยกเลิกการบินในเส้นทางเดียวกันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 ก.พ. และรวมไปถึงสายการบินในเครือ อย่างสวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ และออสเตรียนแอร์ไลน์
ในทวีปเอเชีย กลุ่มสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตามขนาดอากาศยาน กล่าวว่า จะหยุดทำการบินทุกเส้นทางระหว่างประเทศจีน ตั้งแต่วันเสาร์นี้ (2 ก.พ.) ซึ่งตามมาด้วยสายการบินเมียนมา และสายการบินเนปาล
เชื้อไวรัสโคโรนา เป็นเหตุให้มีชาวจีนเสียชีวิตมากกว่า 130 คน Source: Getty Images
ส่วนสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกง ได้ทำการลดเส้นทางการบินในจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศจีน ซึ่งอ้างอิงจากความต้องการที่ลดลง และแผนการตอบโต้ของทางการจีนในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
สำหรับประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเป้นคู่ค้าที่สำคัญของจีน ได้หยุดออกวีซ่าให้ประชาชนชาวจีน และกล่าวว่า จะหยุดการเดินรถไฟข้ามชายแดนระหว่างจีน รวมถึงเที่ยวบินระหว่างทั้งสองประเทศด้วย
Passengers wearing protective masks arrive at Sydney International Airport Source: AAP
เลื่อนสอบ-คืนค่าเรียน นศ.ถูกกักตัวเฝ้าอาการไวรัสโคโรนา
มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียหลายแห่งเริ่มยกระดับการตอบโต้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หลังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์รายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในวิทยาเขตขณะศึกษาซึ่งเพิ่งเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นักศึกษาจากประเทศจีนนับพันคน เตรียมตัวที่จะกลับมาเริ่มภาคการศึกษาใหม่ในเดือนมีนาคมนี้ สิ่งที่พวกเขากังวลในขณะนี้คือ จะมีการจัดการมาตรการกักกันอย่างไร และจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าพวกเขาจะสามารถเดินทางออกจากจีนเพื่อกลับมาศึกษาในภาคเรียนใหม่ในออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) มหาวิทยาลัยโมแนช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียในรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศเลื่อนช่วงการสอบปลายภาคเรียนฤดูร้อนที่มีกำหนดสอบในสัปดาห์หน้าออกไป เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ขณะที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้ตั้งกลุ่มตอบโต้สถานการณ์โรคระบาดในการทำการตัดสินใจในระดับสูงเกี่ยวกับสถานการณ์ในครั้งนี้
นักศึกษาที่มีกำหนดเริ่มภาคการศึกษาในเร็ว ๆ นี้ ที่ได้รับผลกระทบจากการกักกันในสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจนไม่สามารถเดินทางมาศึกษาได้จะได้รับการอนุโลม หรือได้รับการคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา” โฆษกมหาวิทยาลัยซิดนีย์กล่าว
Source: Emiliano Bisson (Facebook)
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน มีนักศึกษาต่างชาติในออสเตรเลียมากกว่า 730,000 คน โดยร้อยละ 28 ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดเป็นชาวจีน
มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) ซึ่งได้ยืนยันเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีนักศึกษาวัย 21 ปีได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาขณะอาศัยอยู่ในประเทศจีน กล่าวว่า จะเปิดภาคเรียนตามปกติในปีการศึกษาใหม่นี้ แต่สำหรับนักเรียนที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ที่อยู่ในในมณฑลหูเป่ย์ จะได้รับการอนุโลมโดยไม่ได้รับโทษปรับใด ๆ
ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) ในกรุงแคนเบอร์รา ระบุว่า จะยังทำการเรียนการสอนตามปกติ โดยกิจกรรมต่าง ๆ ในการเริ่มต้นภาคเรียนนั้นจะดำเนินการต่อไปตามที่ได้วางกำหนดเวลาไว้ก่อนหน้านี้
“เราได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนความสำเร็จทางวิชาการต่อนักศึกษาของเรา และทำให้แน่ใจว่าปีการศึกษานี้เริ่มต้นได้ตามปกติเท่าที่เป็นไปได้ และจะมีการผ่อนผันยืดหยุ่นหากมีความจำเป็น ซึ่งรวมถึงการจัดเตรียมขั้นตอนสำหรับนักศึกษาที่ไม่สามารถเดินทางจากพื้นที่แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามาศึกษาในออสเตรเลียได้ หรือถูกที่ได้รับการเลื่อนการเดินทางในการกลับมาศึกษาต่อออกไป” นายไบรอัน ชมิทต์ (Brian Schmidt) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียกล่าว
นอกจากนี้ ทุกมหาวิทยาลัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น ยังได้ยกเลิกการประชุมที่ไม่เร่งด่วนของพนักงาน คณะอาจารย์ และการเดินทางของนักศึกษาไปยังประเทศจีน โดยปฏิบัติตามคำเตือนจากรัฐบาลสหพันธรัฐที่ระบุไว้บนเว็บไซต์สมาร์ททราเวลเลอร์
ส่วนคำแนะนำล่าสุดจากเว็บไซต์ของหน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่า นักศึกษาที่เคยเดินทางไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ยังไม่มีอาการที่ต้องสงสัย สามารถกลับไปศึกษาได้ตามปกติ แต่เมื่อเย็นวานนี้ (29 ม.ค.) นายเบรนแดน เมอร์ฟี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ได้ประกาศว่า ผู้เชี่ยวชาญเชื่อไวรัสสามารถติดต่อได้โดยผู้ที่ได้รับเชื้อไม่ต้องแสดงอาการป่วย พร้อมแนะนำให้ผู้ที่เคยเดินทางไปยังมณฑลหูเป่ย์กักตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน แม้ว่าจะไม่แสดงอาการก็ตาม
มีประชาชนมากกว่า 50 ล้านคนยังคงติดค้างภายในและพื้นที่รอบเมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย์ของจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงปิดทางเข้าออกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 6,000 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตในจีนแล้ว 132 คน
ส่วนสถานการณ์ในออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นมาเป็น 7 คน หนึ่งในนั้นมี 2 คนในรัฐวิกตอเรีย 1 คนในรัฐควีนส์แลนด์ และอีก 4 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ออสเตรเลียเพาะไวรัสโคโรนาสำเร็จ เปิดทางคิดค้นวัคซีน
